ไลฟ์สไตล์

ตื่นเช้าให้สดใส! 5 วิธีปลุกตัวเองให้ตื่นแล้วเฟรช สดชื่นที่ไม่ค่อยมีคนรู้

UndubZapp
เผยแพร่ 16 ก.พ. 2563 เวลา 13.30 น. • อันดับแซ่บ
วิธีทำให้ตื่นแล้วไม่งัวเงีย สมองตื่น สดชื่น อารมณ์ดี ปลุกคุณให้เริ่มต้นวันใหม่ไปพร้อมกับการมีสมองปลอดโปร่งแจ่มใส มีความสุขในทุกๆ วัน

ทำยังไงให้ตื่นนอนแล้วไม่งัวเงีย สมองปลอดโปร่ง สดชื่น หน้าตาสดใส??? ก็เพราะทุกวันนี้ เช้ามาไม่อยากจะลืมตา ขอนอนต่อได้มั้ย?? สารพัดความอิดออด งอแงอยู่บนที่นอน กว่าจะบังคับตัวเองให้ลุกจากที่นอนไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานได้แต่ละวัน เหนื่อยกับการปลุกขวัญกำลังใจกันน่าดู ถ้าไม่อยากมีอาการนี้ อยากจะตื่นมาแล้วสดใส สดชื่น Undubzapp มีเทคนิคตื่นนอนให้สดใส สดชื่นพร้อมเริ่มต้นวันใหม่ได้ทุกวัน มาฝากกันค่ะ

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

1.Wake up to sunshine

ถ้าเตียงนอนอยู่ใกล้หน้าต่าง คืนนี้ลองแง้มม่านไว้เล็กน้อยพอให้แสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้าลอดเข้ามา เพราะแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้านี่แหละที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ทำให้เราอารมณ์แจ่มใจ จิตใจและสมองปลอดโปร่งออกมา เช่น ฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) สารสื่อประสาทที่ช่วยอารมณ์ดี ฮอรโมนเอนดอร์ฟิน (Endorphin) สารแห่งความสุข ฯลฯ นอกจากนี้ เมื่อร่างกายของเราสัมผัสแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ร่างกายจะสั่งการให้ฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ฮอร์โมนขี้เซา ที่ทำให้เรารู้สึกง่วงเหงาหาวน้อย หยุดทำงาน และยังช่วยให้ลดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย เห็นความมหัศจรรย์ของการตื่นมารับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้ากันแล้ว พรุ่งนี้ลองตื่นเช้ากว่าเดิม ลุกขึ้นมาสัมผัสแดดอ่อนๆ ยามเช้ากันนะคะ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

2.ลืมปุ่ม snooze ไปได้เลย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

กดปุ่มเลื่อนเวลาปลุกไปอีกนิดหรือการกดปุ่ม Snooze ถึงเวลาตื่นจริงๆ แล้วจะได้สดชื่น ตื่นเต็มที่ บอกเลยว่าเข้าใจผิดอย่างแรง แถมยังทำให้เราง่วงหนักกว่าเดิมอีกด้วย หลายคนมักจะตั้งเวลาปลุกให้เตือนก่อนเวลาตื่นจริง(เพราะกลัวไม่ตื่น) แต่ทราบมั้ยว่า การตั้งปลุกก่อนเวลาแบบนี้จะทำให้ร่างกายตื่นก่อนเวลา กลายเป็นว่าเราจะสะดุ้งตื่นก่อนหลายๆ รอบก่อนถึงเวลาตื่นจริง ที่แย่กว่านั้น พบว่าหลังจากที่เรากดปุ่ม snooze แล้ว ร่างกายจะกลับไปเริ่มต้นวงจรหลับใหม่ ซึ่งถ้าเราตั้งปลุกกันทุกๆ ครึ่งชั่วโมงก็เท่ากับว่า เราต้องตื่นทุกครึ่งชั่วโมงนั่นเอง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ว่าทำไมเมื่อถึงเวลาตื่นนอนจริงๆ แล้วเรากลับตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกง่วง เพลีย เหมือนนอนไม่อิ่มนั่นเองค่ะ

 

3.เสียงปลุกที่ดีที่สุด

เสียงนาฬิกาปลุก ไม่ใช่เสียงปลุกที่ดีที่สุด เพราะนักวิจัยเกี่ยวกับการนอนของคนเรา พบว่า เสียงที่สามารถปลุกให้มนุษย์ตื่นจากการหลับไหลได้ดีและเร็วที่สุด ไม่ใช่เสียงนาฬิกาปลุก เสียงเพลงโวกเวก เพราะการตื่นนอนจากเสียงรบกวนต่างๆ จะส่งผลให้เราอารณ์บูดเบี้ยวไปทั้งวัน แต่เสียงที่นักวิจัยค้นพบว่าเป็นเสียงที่ปลุกให้ตื่นได้ดีที่สุด คือเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงน้ำไหล เสียงนกร้อง คืนนี้ลองเปลี่ยนเสียงนาฬิกาปลุกเป็นเสียงธรรมชาติ แล้วลองสังเกตตัวเองตอนตื่นนอนว่า ตื่นมาพร้อมหน้าตาบูดบึ้งเพราะเสียงปลุก หรือตื่นพร้อมรอยยิ้มเบาๆ ตรงมุมปาก

 

4.ดื่มน้ำต้อนรับวันใหม่

การดื่มน้ำหลังตื่นนอนจะช่วยให้สมองปลอดโปร่ง สดชื่น ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และถึงแม้ว่าคุณจะดื่มน้ำในระหว่างวันเพื่อชดเชยที่ร่างกายสูญเสียน้ำไปแล้วก็ตาม อย่าลืมว่า ในแต่ละวันคุณนอนถึง 7-8 ชั่วโมง นั่นหมายความว่า ร่างกายไม่ได้รับน้ำเลย 7-8 ชั่วโมงเช่นกัน เมื่อคุณตื่นมาพร้อมภาวะที่ร่างกายขาดน้ำย่อมส่งผลให้สมองไม่ปลอดโปร่ง อารมณ์ไม่แจ่มใส

 

5.Turn off ทุกหน้าจอ

ธรรมชาติของร่างกายมนุษย์จะปล่อยฮอร์โมนที่ชื่อว่า ฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ออกมาเมื่อคนเราอยู่ในที่มืดหรือไม่มีแสงสว่างส่องลงมาถึง ซึ่งเจ้าฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้เรารู้สึกง่วงนอน หลับลึก ทำให้การหลับมีประสิทธิภาพ และแต่ถ้าคุณนอนเปิดทีวี เปิดจอคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ แสงสว่างจากหน้าจอทีวีหรือจอคอมพิวเตอร์จะไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนิน ทำให้การนอนหลับไม่ลึก และเมื่อถึงเวลาตื่นก็จะรู้สึกว่านอนไม่เต็มอิ่ม หงุดหงิด อารมณ์เสียได้ง่าย

นอกจากเทคนิคที่ Undubzapp นำมาฝากนี้แล้ว อย่าลืมย้อนกลับไปหาต้นเหตุของอาการไม่สดชื่น สดใสด้วย เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการนอนของคุณด้วย เช่น นอนน้อย นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือเครียดกับงาน หรือความวิตกกังวลกับเหตุการณ์ในวันรุ่งขึ้นก็อาจเป็นสาเหตุให้คุณนอนหลับไม่ลึกพอ ตื่นเช้ามาไม่สดใส งัวเงีย หรือนอนไม่อิ่มได้ค่ะ

---

อัปเรื่องแซ่บ ฟีดเรื่องมันส์ เม้าท์ทันเพื่อน
Facebook: @UndubZapp
Instagram: @UndubZapp

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • killpop
    ตื่นตีสี่พระอาทิตย์ยังหลับอยู่เลย
    16 ก.พ. 2563 เวลา 15.20 น.
ดูทั้งหมด