ทั่วไป

"ศิริราช" คอนเฟิร์ม เปลี่ยนหุ่นให้เป๊ะ!ได้ ด้วย "ไข่ไก่"

สยามรัฐ
อัพเดต 20 ส.ค. 2562 เวลา 00.34 น. • เผยแพร่ 20 ส.ค. 2562 เวลา 00.33 น. • สยามรัฐออนไลน์

“อ้วนลงพุง” ไม่ใช่เพียงทำให้รูปร่างดูไม่สวยงาม แต่อ้วนลงพุงยังเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่กลุ่มโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ

        กลุ่มโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ หรือ NCDs (Non-communicable diseases)  ได้แก่ โรคอ้วนลงพุง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคความดันโลหิตสูง 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

       โรคเหล่านี้ไม่ได้มีสาเหตุจากการติดเชื้อโรค แต่เป็นผลจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การขาดการออกกำลังกายที่เพียงพอ และที่สำคัญการกินอาหารอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งรวมถึง ชนิด ปริมาณ และเวลาที่บริโภคที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้ความดันเลือดสูง น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันในเลือดสูงขึ้น น้ำหนักตัวเกินจนกระทั่งอ้วน

        จากรายงานสุขภาพคนไทย ปี 2561 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ระบุว่า เด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปี เกือบ 1 ใน 10 มีภาวะอ้วน สอดคล้องกับข้อมูลของ Global Nutrition Report 2017 ที่เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยใน 141 ประเทศทั่วโลก พบว่า เด็กไทยมีปัญหาอ้วนมากกว่าค่าเฉลี่ยของโลกถึง 6% ส่วนหนึ่งอาจมาจากปัจจัยด้านการเลี้ยงดูและการบริโภคอาหาร

        การปรับเปลี่ยนการบริโภคและพฤติกรรมการใช้ชีวิต จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยลดปัญหาภาวะอ้วนได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

        จากการวิจัยและตรวจรักษาผู้ป่วยโรคอ้วนหลายราย ที่คลินิกพิเศษ โรงพยาบาลศิริราช มีตัวอย่างความสำเร็จของการลดความอ้วนของผู้ป่วยที่เข้ารักษาภาวะน้ำหนักเกินที่มากถึง 192 กิโลกรัม ด้วยการปรับวิธีการบริโภคอาหารโดยไม่ใช้ยา  ไม่บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใด ๆ โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและโภชนาการ

         ผู้ป่วยรายนี้ใช้การรักษาด้วยวิธีควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่เรียกว่า “คีโตเจนิค ไดเอต” (Ketogenic Diet) คือ ลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงกว่าร้อยละ 10-20 จากปริมาณที่บริโภคอยู่เดิม  เช่น  ลดปริมาณการกินแป้ง ผลไม้ นม ผักหัว ผักดอก แล้วเพิ่มเติมอาหารอื่น ๆ ที่เป็นพวกเนื้อสัตว์ นม ไข่ ผักใบให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายอิ่มท้อง และอิ่มนาน

         สำหรับผู้ป่วยรายนี้ให้รับประทานอาหารตามที่กล่าวข้างต้น เช่น ไก่ย่าง ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ต้ม กุ้ง หมู ปลา ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่หาซื้อง่ายและทำให้อิ่มท้อง ในช่วงแรกที่ลดน้ำหนัก ผู้ป่วยรายนี้กินไข่มากกว่าคนทั่วไปหลายเท่าตัว เพราะเตรียมง่าย หาง่ายที่สุด ร่วมกับกินอาหารอื่นๆ เช่น กาแฟดำ หมูปิ้ง ไก่ย่าง เป็นต้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

         จากนั้นค่อยลดปริมาณลง ตามน้ำหนักตัวที่ลดลง และตามความต้องการของร่างกาย และตามคำแนะนำของแพทย์ทางด้านโภชนาการ และในระหว่างนั้นแพทย์ได้ติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิด มีการตรวจร่างกาย  ตรวจเลือดเป็นประจำทุก 1-2 เดือน หลังจากผู้ป่วยกินอาหารตามที่แพทย์แนะนำอย่างมีวินัย เป็นเวลาเกือบ 1 ปี ปัจจุบันน้ำหนักลดเหลือ 110 กิโลกรัม จากเดิม 192 กิโลกรัม สามารถลดไปได้ถึง 80 กิโลกรัม โดยที่ระดับไขมัน/คอเลสเตอรอล ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเป็นปกติดี

         น้ำหนักตัวที่หายไปจากการกินที่ถูกต้องของผู้ป่วยรายนี้  จึงช่วยคลายกังวลและข้อสงสัยให้กับคนทั่วไป เกี่ยวกับการบริโภคไข่ได้เป็นอย่างดี  ถึงแม้การกินไข่ปริมาณมาก จะไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่แสดงให้เห็นว่าไข่แดงไม่ได้น่ากลัวเสมอไป หากได้รับการดูแลและติดตามโดยผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกับการตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

         ที่สำคัญ “ไข่ไก่” ยังถือเป็นโปรตีนคุณภาพดี ย่อยง่าย เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี สามารถบริโภคได้ทุกวัน ทุกเพศ ทุกวัย มีไขมันต่ำ และอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุธรรมชาติต่าง ๆ  ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต เสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ ช่วยสร้างเซลล์สมอง ฯลฯ แม้ว่าก่อนนี้จะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเรื่องคอเลสเตอรอลในไข่ไก่อยู่บ้าง

         ข้อมูลปัจจุบันพบว่า โคเลสเตอรอลในอาหารสัมพันธ์กับโคเลสเตอรอลในเลือดน้อยมาก ดังนั้นในปี 2558 United States Department of Agriculture (USDA) จึงได้ยกเลิกข้อห้ามเกี่ยวกับปริมาณสูงสุดของการบริโภคโคเลสเตอรอล อย่างไรก็ตาม อาหารที่มีโคเลสเตอรอลมักมาคู่กับไขมันอิ่มตัว หรือมักประกอบอยู่ในอาหารที่ทอด ที่หวาน หรือเค็ม ดังนั้นผู้บริโภคยังจำเป็นต้องระมัดระวังสำหรับอาหารที่รับประทานด้วย   

         อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาที่ปริมาณการบริโภคไข่ของคนไทยเมื่อปี 2561 จากข้อมูลกรมปศุสัตว์ จะพบว่าคนไทยบริโภคไข่ประมาณ 220 ฟอง/คน/ปี ซึ่งยังถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ อย่าง เม็กซิโก บริโภคไข่มากถึง 430 ฟอง/คน/ปี  จีน บริโภคราว 370 ฟอง/คน/ปี  ญี่ปุ่น บริโภคเกือบ 340 ฟอง/คน/ปี  สหรัฐอเมริกา บริโภคราว 300 ฟอง/คน/ปี

         ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) จึงผลักดันโครงการรณรงค์ให้คนไทยบริโภคไข่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันการรณรงค์อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ไก่ไข่ ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2562-2566) กำหนดเป้าหมายเพิ่มการบริโภคไข่ของคนไทยเป็น 300 ฟอง/คน/ปี ในปี 2566

          รู้ถึงคุณประโยชน์จากการบริโภคไข่ ที่ช่วยเสริมพลังกาย สมองฉับไว แถมยังช่วยลดน้ำหนักได้  อยากให้ลองกินกันดู  สุขภาพดีเริ่มที่คุณครับ

*อ.นพ.กรภัทร มยุระสาคร
หน่วยอณูเวชศาสตร์ สถานส่งเสริมการวิจัย 
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล*

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 33
  • Poo
    เดียวนี้วัยรุ่นอ้วนมากกกกก แถมมั่นใจไม่สนไม่แคร์ ถือน้ำชาไข่มุก น้ำอัดลม กันสบายๆ นึกถึงบุรุษพยายาลบ้างนะ เพราะเธอหนักมาก ตอนเข้าโรงพยาบาลต้องใช้รถแครนยก
    20 ส.ค. 2562 เวลา 01.05 น.
  • Gift AsiaMoไลน์สำรอง
    ข่าว ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ในข่าวไม่มีข้อมูลเลยว่า ต้องกินวันละกี่ฟอง ปรุงยังไง ไข่แบบไหน ต้องกินไข่ที่สุกหรือไม่สุกที่จะยังผลให้เกิดการลดน้ำหนักได้ มีแต่ข้อมูลที่เอื้อทางพาณิชย์ว่าให้ไปกินไข่เท่านั้นเลย
    20 ส.ค. 2562 เวลา 02.29 น.
  • sirikorn129
    กินไข่ น้ำหนักลดได้จริง กินไข่ เสริมโปรตีนจากสัตว์ เพราะเคยกินกินอยู่พัก กินเกือบทุกวัน เฉลี่ยวันละ สองฟอง น้ำหนักลดลงจริง เวลาไม่อยากทานเนื้อสัตว์ ก็จะกินไข่มากหน่อย บางวัน 3-4 ฟอง ไม่ได้กินเพราะอยากลดน้ำหนัก แต่มันเป็นผลพลอยได้ เลยรู้ว่ากินไข่ น้ำหนักลดได้จริง
    20 ส.ค. 2562 เวลา 04.18 น.
  • TINGZA
    ผู้ป่วยเบาหวาน หรือคนปกติ งดกินไข่แดงกินไข่ขาวแทน และควรทานวันละขั้นกี่ฟอง ถึงกี่ฟอง ช่วยแนะนำด้วยครับ.
    20 ส.ค. 2562 เวลา 01.55 น.
  • guy + ta
    อะไรที่เกินพอดี...มีผลหมดล่ะ
    20 ส.ค. 2562 เวลา 02.26 น.
ดูทั้งหมด