“อ้วนลงพุง” ไม่ใช่เพียงทำให้รูปร่างดูไม่สวยงาม แต่อ้วนลงพุงยังเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่กลุ่มโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ
กลุ่มโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ หรือ NCDs (Non-communicable diseases) ได้แก่ โรคอ้วนลงพุง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคความดันโลหิตสูง
โรคเหล่านี้ไม่ได้มีสาเหตุจากการติดเชื้อโรค แต่เป็นผลจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การขาดการออกกำลังกายที่เพียงพอ และที่สำคัญการกินอาหารอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งรวมถึง ชนิด ปริมาณ และเวลาที่บริโภคที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้ความดันเลือดสูง น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันในเลือดสูงขึ้น น้ำหนักตัวเกินจนกระทั่งอ้วน
จากรายงานสุขภาพคนไทย ปี 2561 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ระบุว่า เด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปี เกือบ 1 ใน 10 มีภาวะอ้วน สอดคล้องกับข้อมูลของ Global Nutrition Report 2017 ที่เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยใน 141 ประเทศทั่วโลก พบว่า เด็กไทยมีปัญหาอ้วนมากกว่าค่าเฉลี่ยของโลกถึง 6% ส่วนหนึ่งอาจมาจากปัจจัยด้านการเลี้ยงดูและการบริโภคอาหาร
การปรับเปลี่ยนการบริโภคและพฤติกรรมการใช้ชีวิต จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยลดปัญหาภาวะอ้วนได้
จากการวิจัยและตรวจรักษาผู้ป่วยโรคอ้วนหลายราย ที่คลินิกพิเศษ โรงพยาบาลศิริราช มีตัวอย่างความสำเร็จของการลดความอ้วนของผู้ป่วยที่เข้ารักษาภาวะน้ำหนักเกินที่มากถึง 192 กิโลกรัม ด้วยการปรับวิธีการบริโภคอาหารโดยไม่ใช้ยา ไม่บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใด ๆ โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและโภชนาการ
ผู้ป่วยรายนี้ใช้การรักษาด้วยวิธีควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่เรียกว่า “คีโตเจนิค ไดเอต” (Ketogenic Diet) คือ ลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงกว่าร้อยละ 10-20 จากปริมาณที่บริโภคอยู่เดิม เช่น ลดปริมาณการกินแป้ง ผลไม้ นม ผักหัว ผักดอก แล้วเพิ่มเติมอาหารอื่น ๆ ที่เป็นพวกเนื้อสัตว์ นม ไข่ ผักใบให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายอิ่มท้อง และอิ่มนาน
สำหรับผู้ป่วยรายนี้ให้รับประทานอาหารตามที่กล่าวข้างต้น เช่น ไก่ย่าง ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ต้ม กุ้ง หมู ปลา ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่หาซื้อง่ายและทำให้อิ่มท้อง ในช่วงแรกที่ลดน้ำหนัก ผู้ป่วยรายนี้กินไข่มากกว่าคนทั่วไปหลายเท่าตัว เพราะเตรียมง่าย หาง่ายที่สุด ร่วมกับกินอาหารอื่นๆ เช่น กาแฟดำ หมูปิ้ง ไก่ย่าง เป็นต้น
จากนั้นค่อยลดปริมาณลง ตามน้ำหนักตัวที่ลดลง และตามความต้องการของร่างกาย และตามคำแนะนำของแพทย์ทางด้านโภชนาการ และในระหว่างนั้นแพทย์ได้ติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิด มีการตรวจร่างกาย ตรวจเลือดเป็นประจำทุก 1-2 เดือน หลังจากผู้ป่วยกินอาหารตามที่แพทย์แนะนำอย่างมีวินัย เป็นเวลาเกือบ 1 ปี ปัจจุบันน้ำหนักลดเหลือ 110 กิโลกรัม จากเดิม 192 กิโลกรัม สามารถลดไปได้ถึง 80 กิโลกรัม โดยที่ระดับไขมัน/คอเลสเตอรอล ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเป็นปกติดี
น้ำหนักตัวที่หายไปจากการกินที่ถูกต้องของผู้ป่วยรายนี้ จึงช่วยคลายกังวลและข้อสงสัยให้กับคนทั่วไป เกี่ยวกับการบริโภคไข่ได้เป็นอย่างดี ถึงแม้การกินไข่ปริมาณมาก จะไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่แสดงให้เห็นว่าไข่แดงไม่ได้น่ากลัวเสมอไป หากได้รับการดูแลและติดตามโดยผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกับการตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญ “ไข่ไก่” ยังถือเป็นโปรตีนคุณภาพดี ย่อยง่าย เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี สามารถบริโภคได้ทุกวัน ทุกเพศ ทุกวัย มีไขมันต่ำ และอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุธรรมชาติต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต เสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ ช่วยสร้างเซลล์สมอง ฯลฯ แม้ว่าก่อนนี้จะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเรื่องคอเลสเตอรอลในไข่ไก่อยู่บ้าง
ข้อมูลปัจจุบันพบว่า โคเลสเตอรอลในอาหารสัมพันธ์กับโคเลสเตอรอลในเลือดน้อยมาก ดังนั้นในปี 2558 United States Department of Agriculture (USDA) จึงได้ยกเลิกข้อห้ามเกี่ยวกับปริมาณสูงสุดของการบริโภคโคเลสเตอรอล อย่างไรก็ตาม อาหารที่มีโคเลสเตอรอลมักมาคู่กับไขมันอิ่มตัว หรือมักประกอบอยู่ในอาหารที่ทอด ที่หวาน หรือเค็ม ดังนั้นผู้บริโภคยังจำเป็นต้องระมัดระวังสำหรับอาหารที่รับประทานด้วย
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาที่ปริมาณการบริโภคไข่ของคนไทยเมื่อปี 2561 จากข้อมูลกรมปศุสัตว์ จะพบว่าคนไทยบริโภคไข่ประมาณ 220 ฟอง/คน/ปี ซึ่งยังถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ อย่าง เม็กซิโก บริโภคไข่มากถึง 430 ฟอง/คน/ปี จีน บริโภคราว 370 ฟอง/คน/ปี ญี่ปุ่น บริโภคเกือบ 340 ฟอง/คน/ปี สหรัฐอเมริกา บริโภคราว 300 ฟอง/คน/ปี
ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) จึงผลักดันโครงการรณรงค์ให้คนไทยบริโภคไข่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันการรณรงค์อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ไก่ไข่ ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2562-2566) กำหนดเป้าหมายเพิ่มการบริโภคไข่ของคนไทยเป็น 300 ฟอง/คน/ปี ในปี 2566
รู้ถึงคุณประโยชน์จากการบริโภคไข่ ที่ช่วยเสริมพลังกาย สมองฉับไว แถมยังช่วยลดน้ำหนักได้ อยากให้ลองกินกันดู สุขภาพดีเริ่มที่คุณครับ
*อ.นพ.กรภัทร มยุระสาคร
หน่วยอณูเวชศาสตร์ สถานส่งเสริมการวิจัย
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล*
Poo เดียวนี้วัยรุ่นอ้วนมากกกกก แถมมั่นใจไม่สนไม่แคร์ ถือน้ำชาไข่มุก น้ำอัดลม กันสบายๆ นึกถึงบุรุษพยายาลบ้างนะ เพราะเธอหนักมาก ตอนเข้าโรงพยาบาลต้องใช้รถแครนยก
20 ส.ค. 2562 เวลา 01.05 น.
Gift AsiaMoไลน์สำรอง ข่าว ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
ในข่าวไม่มีข้อมูลเลยว่า ต้องกินวันละกี่ฟอง ปรุงยังไง ไข่แบบไหน ต้องกินไข่ที่สุกหรือไม่สุกที่จะยังผลให้เกิดการลดน้ำหนักได้
มีแต่ข้อมูลที่เอื้อทางพาณิชย์ว่าให้ไปกินไข่เท่านั้นเลย
20 ส.ค. 2562 เวลา 02.29 น.
sirikorn129 กินไข่ น้ำหนักลดได้จริง กินไข่ เสริมโปรตีนจากสัตว์ เพราะเคยกินกินอยู่พัก กินเกือบทุกวัน เฉลี่ยวันละ สองฟอง น้ำหนักลดลงจริง เวลาไม่อยากทานเนื้อสัตว์ ก็จะกินไข่มากหน่อย บางวัน 3-4 ฟอง ไม่ได้กินเพราะอยากลดน้ำหนัก แต่มันเป็นผลพลอยได้ เลยรู้ว่ากินไข่ น้ำหนักลดได้จริง
20 ส.ค. 2562 เวลา 04.18 น.
TINGZA ผู้ป่วยเบาหวาน หรือคนปกติ
งดกินไข่แดงกินไข่ขาวแทน
และควรทานวันละขั้นกี่ฟอง ถึงกี่ฟอง
ช่วยแนะนำด้วยครับ.
20 ส.ค. 2562 เวลา 01.55 น.
guy + ta อะไรที่เกินพอดี...มีผลหมดล่ะ
20 ส.ค. 2562 เวลา 02.26 น.
ดูทั้งหมด