เวลาพูดถึงความสุขในยุคปัจจุบันก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงปัจจัยอะไรที่ทำให้เรามีความสุข ซึ่ง ‘เงิน’ ก็เป็นหนึ่งในคำตอบ
แม้ว่าหลายคนจะบอกว่า ‘เงิน’ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขขนาดนั้นหรอก เพราะยังมีอีกหลายอย่างในชีวิตที่สำคัญกับเรามากกว่า
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘เงิน’ เป็น ‘สื่อกลาง’ ที่ทำให้เราไปถึงความสุขในรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น ถ้าอยากไปเข้าอบรมปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ อย่างน้อยก็ต้องมีเงินค่าเดินทาง
มีสองคำถามให้ลองตอบกันดู ก่อนที่จะอ่านต่อ อยากให้ลองตอบเร็วๆ แบบไม่ต้องคิดซับซ้อน
ข้อ 1หากมีสองโลกให้คุณเลือกอยู่ คุณจะเลือกอยู่ในโลกไหน*
โลก A: โลกที่คุณมีรายได้เดือนละ 75,000 บาท
โลก B: โลกที่คุณมีรายได้เดือนละ 100,000 บาท
*หมายเหตุ:โลก A และ B มีทุกอย่างเหมือนกัน มีเพียงเงินเดือนของคุณที่ต่างกันเท่านั้น
ข้อ 2หากมีสองโลกให้คุณเลือกอยู่ คุณจะเลือกอยู่ในโลกไหน**
โลก C: โลกที่คุณมีรายได้เดือนละ 75,000 บาท และคนอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวคุณ (เช่น เพื่อนร่วมงานที่ทำงานเหมือนกัน) มีรายได้เดือนละ 50,000 บาท
โลก D: โลกที่คุณมีรายได้เดือนละ 100,000 บาท และคนอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวคุณ (เช่น เพื่อนร่วมงานที่ทำงานเหมือนกัน) มีรายได้เดือนละ 125,000 บาท
**หมายเหตุ:โลก C และ D มีแค่เงินเดือนของคุณและคนอื่นๆ ที่ต่างกัน นอกจากนั้นเหมือนกันหมด
มีใครเปลี่ยนคำตอบจากเงินเดือนเดือนละ 100,000 บาทในข้อ 1 ไปเป็น 75,000 บาทในข้อที่ 2 (เลือกโลก B และโลก C) บ้างไหม
สำหรับคนที่ไม่เปลี่ยน จากสถิติแล้วคุณเป็นคนส่วนน้อย
สำหรับคนที่เปลี่ยน แปลกใจหรือไม่ว่าทำไมเรายอมมีเงินน้อยลงเพื่อทำให้เรามีเงินมากกว่าคนอื่น
หากเราตั้งสมมติฐานว่าคนจะเลือกตัวเลือกที่ทำให้มีความสุขมากกว่า การที่หลายคนกลับเลือกจำนวนเงินที่น้อยลงแสดงว่า ‘จำนวนเงินที่มากกว่าไม่ได้ทำให้เขามีความสุขมากขึ้น’ อย่างนั้นหรือ
ข้อค้นพบจากงานวิจัยด้านความสุขแสดงให้เห็นว่าหลายครั้ง ‘ความสุขเป็นเรื่องราวของการเปรียบเทียบ (Relative Term) มากกว่าการพอใจในสิ่งที่ได้มาในรูปของจำนวนเงิน (Absolute Term)’
มีงานวิจัยในประเทศเนเธอร์แลนด์ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการเปรียบเทียบได้อย่างน่าสนใจ
ในแต่ละสัปดาห์ The Dutch Postcode Lottery จะทำการสุ่มเลือกรหัสไปรษณีย์ขึ้นมา โดยในเนเธอร์แลนด์มีรหัสไปรษณีย์อยู่ประมาณ 430,000 รหัส และในแต่ละรหัสมีบ้านจำนวนประมาณ 19 หลัง
จากข้อมูลพบว่ามีบ้านประมาณ 5 หลัง (1 ใน 4) ในแต่ละรหัสไปรษณีย์ที่เข้าร่วมใน Lottery ซึ่งหากสุ่มได้รหัสไปรษณีย์ของพวกเขาขึ้นมา พวกเขาก็จะได้รับเงินจำนวนหนึ่งไป และหนึ่งในบ้านผู้โชคดีจะได้รับรถยนต์ไปด้วย
ผลวิจัยพบว่าเมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือน เพื่อนข้างบ้าน (ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมใน Lottery Programme) ของบ้านที่ได้รถไปมีแนวโน้มที่จะซื้อรถมาใช้มากกว่าบ้านอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
พูดง่ายๆ คืองานวิจัยนี้ทำให้พบพฤติกรรมการซื้อรถตามเพื่อนข้างบ้านนั่นเอง (รถที่ใช้แจกในงานวิจัยคือรถ BMW)
ถ้ามองย้อนกลับมาในชีวิตของเรา รถที่ขับ กระเป๋าที่ถือ มือถือที่ใช้ หลายครั้งก็มีอิทธิพลจากคนรอบข้างอยู่ไม่น้อย
งานวิจัยของ Clark และ Senik เมื่อปี 2010 ยังพบอีกด้วยว่าคนที่เรามักจะเอาตัวเราไปเปรียบเทียบด้วยมากที่สุด (Reference Point) คือเพื่อนร่วมงานและเพื่อนของเรา
ปัจจุบันโซเชียลเน็ตเวิร์กทำให้เราเห็นโลกที่กว้างกว่าการเห็นรถของเพื่อนข้างบ้าน การที่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นตลอดเวลาแม้จะโดยไม่ได้ตั้งใจ (เช่น ทำไมเพื่อนไปเที่ยวอีกแล้ว ทำไมเขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย) อาจจะส่งผลให้เรามีความสุขน้อยลง และกระทบกับสุขภาพจิตและสุขภาพการเงินได้
หากรู้เช่นนี้แล้ว ลองหาทางมีความสุขได้โดยไม่ต้องเปรียบเทียบกันดูนะคะ
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- Kuhn, P., Kooreman, P., Soetevent, A. and Kapteyn, A., 2011. The effects of lottery prizes on winners and their neighbors: Evidence from the Dutch postcode lottery. American Economic Review, 101 (5), pp.2226-47.
- Clark, A.E. and Senik, C., 2010. Who compares to whom? The anatomy of income comparisons in Europe. The Economic Journal, 120(544), pp.573-594.
- เอกสารประกอบการบรรยายหัวข้อ Money and Happiness ของ ศ.ดร.ณัฐวุฒิ เผ่าทวี
Archangel Que พูดไปเรื่อย ไม่มีเงิน อดอยากคงมีความสุขหรอก
09 ธ.ค. 2562 เวลา 16.25 น.
ทักกี้ มีความสุขดีไหม
09 ธ.ค. 2562 เวลา 17.28 น.
สุกิติ์ ผมอยากลองมีมั่งครับ..แล้วจะมาตอบ ตอนนี้ไม่มี
09 ธ.ค. 2562 เวลา 16.49 น.
D🔺NNY•365 ก็จริง
09 ธ.ค. 2562 เวลา 16.12 น.
ดูทั้งหมด