เรียกว่า “พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก” สำหรับวิกฤตการณ์ในสหรัฐอเมริกา ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย ก็ต้องเผชิญกับวิกฤติใหม่ คือเหตุจราจลจากการชุมนุมประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมต่อการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ซึ่งเสียชีวิตขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและกระทำเกินกว่าเหตุ
ในขณะที่รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ “Beige Book” ของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐทรุดตัวลงในทุกเขต ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 การใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงปรับตัวลง เนื่องจากมีคำสั่งปิดธุรกิจค้าปลีก ขณะที่ธุรกิจสันทนาการและโรงแรมทรุดตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากแทบไม่มีกิจกรรมเกิดขึ้นในธุรกิจการเดินทางและการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันภาคการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตในอุตสาหกรรมรถยนต์ การบินและอวกาศ และโรงงานที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ก็ทรุดตัวลงอย่างรุนแรงเช่นกัน แม้แต่ภาคการเกษตรก็อยู่ในภาวะย่ำแย่ กำลังการผลิตในโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ปรับตัวลง เนื่องจากคำสั่งปิดโรงงานและการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ฉุดให้อุตสาหกรรมพลังงานทรุดลงไปด้วย เนื่องจากบริษัทพลังงานหลายแห่งประกาศปิดบ่อน้ำมัน ส่งผลให้จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ผลสำรวจของเอสแอนด์พีคอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่าดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 4.4% ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 4.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.9% หลังจากเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนกุมภาพันธ์
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขแรงงานชาวอเมริกันยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานล่าสุด พบว่ามีผู้ยื่นขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้นอีก 2.981 ล้านราย ส่งผลให้ยอดรวมในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเกือบ 36.5 ล้านรายในขณะนี้ หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรวัยทำงานทั้งหมดของสหรัฐ
สหรัฐเผชิญปัญหาทั้งทางด้านสาธารณสุข และเศรษฐกิจแล้ว ยังต้องประสบกับปัญหาการเมือง การประท้วงที่ลุกลามไปหลายเมือง จนต้องตัดสินใจประกาศเคอร์ฟิว
ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ กล่าวถึงสถานการณ์ชุมนุมประท้วงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่า กำลังจะส่งเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอื่นๆ ของทางการสหรัฐฯ ไปหยุดยั้งการก่อจลาจล การปล้นสะดม การทำลายทรัพย์สินและสถานที่ต่างๆ รวมถึงการทำร้ายผู้คน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อย่างป่าเถื่อน โดยเหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นความอัปยศอย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังได้กล่าวถึงบรรดาผู้ว่าการรัฐต่างๆ ด้วยว่า ขอให้ใช้กำลังเข้าควบคุมสถานการณ์บนท้องถนนให้อยู่ในความสงบโดยเร็ว หากทางการของเมือง หรือรัฐใด ไม่ยอมดำเนินมาตรการที่จำเป็นข้างต้นในอันที่จะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของพลเมือง ทางรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ภายใต้การนำของตน ก็จะส่งกำลังทหาร เข้าไปแก้ปัญหาแทนอย่างเร่งด่วน ซึ่งการดำเนินการของรัฐบาลข้างต้น เป็นไปตามบทบัญญัติของ “กฎหมายว่าด้วยการจัดการกับปัญหาการก่อจลาจล” ที่ประกาศบังคับใช้เมื่อปี ค.ศ. 1807 (พ.ศ. 2350) ที่ให้อำนาจแก่ประธานาธิบดี ในการส่งทหารเข้าไปปราบปรามการก่อจลาจลของชาวเมืองในรัฐต่างๆ ได้ ก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์ จะกล่าวทิ้งท้ายด้วยการประณามต่อเหตุการณ์ความไม่สงบที่บังเกิดขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางแคร์รี หล่ำ ผู้ว่าเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กล่าวโจมตีสหรัฐฯ ว่า ใช้สองมาตรฐานกับฮ่องกง ต่อกรณีการชุมนุมประท้วง ซึ่งที่สหรัฐฯ ก็ได้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง เมื่อเปรียบเทียบกับจุดยืนที่พวกเขาแสดงต่อการชุมนุมประท้วงในฮ่องกงที่แทบจะเหมือนกันไม่มีผิดเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เคยกล่าวโจมตีฮ่องกงจากกรณีที่ใช้ความรุนแรงจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งดำเนินเป็นระยะเวลาหลายเดือนเมื่อช่วงปีที่แล้ว และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ฮ่องกงเรื่องการตอบสนองต่อการชุมนุมประท้วงครั้งล่าสุด จากกรณีความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยความมั่นคงของจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย อีกทั้งยังได้ประกาศว่าจะยุติการให้สถานะพิเศษทางการค้ากับฮ่องกง จากกรณีที่ฮ่องกงตอบสนองอย่างรุนแรงต่อกลุ่มผู้ชุมนุม
ซึ่งเรื่องนี้ผู้ว่าเขตบริหารพิเศษฮ่องกง แสดงความเห็นว่า หากสหรัฐฯ ยุติการให้สถานะพิเศษทางการค้ากับฮ่องกง ก็จะส่งผลเสียต่อสหรัฐฯ เอง
เหตุจราจลในสหรัฐฯ เปิดช่องให้ฮ่องกงยืมหอกสนองคืน
มันจะโทษทักษิณเหมือนไทยหมัยหนออยู่เบื้องหลังการแพร่เชื้อและแระท้วงยานปลาย
05 มิ.ย. 2563 เวลา 16.14 น.
Akkarawat A. ต้องมองด้วยครับว่า เศรษฐกิจของอเมริกาทรุดก็ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยมากเช่นกัน อย่ามองว่าสะใจหรืออะไรก็แล้วแต่ครับ แรงงานไทยในผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ส่งออกไปอเมริกาจะได้รับผลกระทบเช่นกัน
05 มิ.ย. 2563 เวลา 13.19 น.
โอฬาร ลำใย เมืองไทยดีสุด ได้ผู้นำที่มีภาวะผู้นำสูง เก็บอาวุธฝ่ายเห็นต่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
05 มิ.ย. 2563 เวลา 12.02 น.
Aod Amornchai เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อเลือกคนบ้าเป็นผู้นำ
05 มิ.ย. 2563 เวลา 05.32 น.
เสริมศักดิ์ เพชรชัย สะใจจริงๆ
ไอ้ควายนั่นมันจะโทษจีนอีกมั้ย"การประท้วงเป็นไรคติดต่อมาจากฮ่องกง"จีนต้องรับผิดชอบ
05 มิ.ย. 2563 เวลา 04.13 น.
ดูทั้งหมด