พูดถึงผู้กำกับหนังไทยที่งานชุกที่สุด คงไม่มีใครเกิน พชร์ อานนท์ ที่มีหนังใหม่ปล่อยออกมาให้แฟนๆได้ติดตามกันปีละ 2-3 เรื่องโดยตลอด โดยแต่ละเรื่องก็จะมีเอกลักษณ์ในแบบของแก คือหยิบเอาสถานการณ์ปัจจุบันมาเป็นมุกตลกใส่ไว้ในหนัง เปรียบเสมือนจดหมายเหตุของยุคนั้นๆ รวมถึงหยิบเอาบุคคลในกระแสมาปรากฏตัวและรับเชิญอยู่เรื่อยๆ เช่นเดียวกับผลงานชิ้นล่าสุดอย่าง พจมานสว่างคาตา หนังที่เปรียบเสมือนภาคแยกของ หอแต๋วแตก (ที่ก่อนหน้านี้มีการสร้างมาแล้วถึง 6 ภาค)และในขณะเดียวกันก็เป็นหนังล้อเลียนของ หนังไทยคลาสสิคอย่าง บ้านทรายทองอีกด้วย ซึ่งคนไทยคุ้นเคยกับเส้นเรื่องและตัวละครในหนังเป็นอย่างดี
ตัวละครหลักของ พจมานสว่างคาตา เริ่มต้นด้วยหม่อมแม่ (รับบทโดย จาตุรงค์ ม๊กจ๊ก) ที่พยายามจะฮุบบ้านดอกไม้ทอง (ชื่อของคฤหาสน์ที่ล้อเลียนบ้านทรายทอง) ไว้เป็นของตัวเอง เลยวางแผนจะจัดการ พจมานตัวจริง (รับบทโดย โก๊ะตี๋ อารามบอย) ให้พ้นทางและไปจ้างเอาสก๊อยสาวที่ชื่อ แพนเค้ก (ซึ่งรับบทโดย แพนเค้ก เขมนิจ งงมั้ยละ) ให้มาปลอมตัวเป็นพจมานแทน และจ่ายเงินให้เธอไปหลอกแต่งงานกับชายกลาง (รับบทโดย แน็ค ชาลี) แต่เรื่องราวชุลมุนไปยิ่งกว่าเดิม เพราะชายกลางนั้นมีคู่หมั้นแล้วถึง 4 คน ซึ่งตัวละครทั้ง 4 คนตั้งชื่อตามสมาชิกในวง BLACKPINK !
ภาพรวมของหนัง สามารถอธิบายได้ง่ายๆว่า มันคือ หอแต๋วแตกในฉบับเส้นเรื่องล้อเลียนบ้านทรายทอง จุดเด่นของหนัง คงหนีไม่พ้น มุกที่เต็มไปด้วยความสดใหม่ในแบบหนัง พชร์ อานนท์ งานเสื้อผ้าและออกแบบงานสร้าง ที่เน้นความฉูดฉาดและเว่อร์วังอลังการ รวมถึงทีมนักแสดงชุดใหญ่ที่เล่นแบบโอเว่อร์แอคติ้งในแทบทุกฉาก ทั้งหมดนี้ทำให้งานภาพที่ปรากฏบนจอของ พจมานสว่างคาตา ดูสดใสและเตะตาในแทบทุกซีน ไม่ว่าบทสนทนาจะคืออะไร เรื่องราวจะเป็นอะไร แต่เราปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆว่า เราแทบจะละสายตาจากจอไม่ได้เลย เพราะไม่อยากพลาดคอสตูมเก๋ๆที่ใส่รายละเอียดไว้มากมาย และนักแสดงรับเชิญที่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใครจะออกมาเมื่อไหร่
เอกลักษณ์ที่ทุกคนกล่าวถึงในหนังของ พชร์ อานนท์ คือการที่บทภาพยนตร์ทั้งหมดอยู่ในหัวของผู้กำกับ อาจจะไม่ได้เป็นบทสนทนาที่เขียนเป็นตัวอักษรเป๊ะๆ มีเพียงภาพรวมว่าแต่ละฉากจะเป็นอย่างไร ตรงนี้เองที่อาจจะทำให้มุกในบางฉาก ไม่ได้ออกมาเวิร์คเท่าที่ควรจะเป็น ข้อดีคือ มุกตลกในหลายฉาก จังหวะค่อนข้างดี เพราะการรับส่งของนักแสดงขาประจำที่ทำได้อย่างลงตัว แต่ในหลายๆฉากที่นักแสดงอาจจะไม่คุ้นจังหวะกัน ทำให้มุกเหล่านั้นไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร จนอาจจะต้องใช้จังหวะการตัดต่อช่วย นอกจากนี้ยังมีบางมุกที่เราเห็นในตัวอย่างภาพยนตร์ว่าสดใหม่เข้ากับยุคสมัย จนหลายคนสงสัยว่าแอบเปิดกองถ่ายหรือเปล่า แต่พอดูในหนังจะเห็นบาดแผลอย่างชัดเจนว่า ถูกพากย์ทับ เพื่อให้ได้เล่นมุกที่เข้ากับยุคสมัยหลังโควิด-19
ในส่วนของนักแสดงนำ 4 คนหลักจากจักรวาล หอแต๋วแตก อย่างพี่จาตุรงค์, โก๊ะตี๋, เอกชัย ศรีวิชัย และอาจารย์ยิ่งศักดิ์ ถือว่าเป็นไฮไลต์หลักของหนัง ทั้ง 4 คนสามารถรับส่งมุกด้วยจังหวะที่คล่องแคล่วหายห่วง และทำให้คนดูรอติดตามได้ทุกฉากว่าพวกเขาจะปรากฏตัวในเสื้อผ้าแบบไหน ส่วน แน็ค ชาลี คนนี้ไม่เซอร์ไพรสอะไร เพราะหนังหยิบเอาคาแร็คเตอร์ตัวจริงของเขามาใช้อยู่แล้ว แต่ที่เซอร์ไพรสสุด และแอบกังวลเบาๆคือ แพนเค้ก เขมนิจ กับครั้งแรกในหนัง พชร์ อานนท์ ถือว่าพลิกคาแร็คเตอร์พอสมควร เราไม่ได้เห็นเธอเล่นอะไรรั่วๆขนาดนี้ (หรือสถุลขนาดนี้ในหลายๆฉาก) ดูจะเป็นภาพที่สดใหม่ และแปลกตามาก แต่ก็ยังมีหลายจังหวะที่รับส่งมุกกับนักแสดงรุ่นพี่แล้ว ยังไม่ค่อยเนียนมากนัก ส่วนที่เซอร์ไพรสสุด และสร้างสีสันมากเลยทีเดียว (สำหรับเรา) คือการที่ผู้กำกับหนังอย่าง พชร์ อานนท์ กระโดดมาเล่นหนังเอง แถมยังรวบตึงไปถึง 2 บทบาทอีกต่างหาก ปรากฏว่าทุกฉากที่แกปรากฏตัว หรือมุกที่เล่นแซวตัวแกเองนั้น เวิร์คแทบจะทั้งหมด
สรุปแล้ว พจมานสว่างคาตา ก็คือหนังที่ต่อยอดมาจาก หอแต๋วแตกนั่นเอง ถ้าคุณเป็นแฟนหนังสไตล์พชร์ อานนท์ อยู่แล้ว ก็น่าจะชื่นชอบและเพลิดเพลินกับหนังได้ไม่ยาก เพราะมีองค์ประกอบที่คุณคุ้นเคยดี และเมื่อเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆในจักรวาลนี้ ถือว่าสนุกพอสมควรเลย แต่ถ้าคุณไม่ถูกจริตกับหนังพชร์ อานนท์อยู่แล้ว พจมานสว่างคาตา ก็อาจจะไม่ใช่หนังในทางของคุณ มุกตลกต่างๆอาจจะไม่เวิร์ค ซึ่งเชื่อว่าหลายท่านน่าจะพอรู้อยู่แล้ว ว่าความชอบของคุณเป็นทางเดียวกับผู้กำกับท่านนี้หรือไม่
(ให้ 7 คะแนนเต็ม 10)
