คดีฆาตกรรมที่คนร้ายทิ้งอาวุธที่ใช้ลงมือและข้าวของส่วนตัวไว้เป็นหลักฐานต่างหน้า..
คดีที่เมื่อเขาก่อเหตุเรียบร้อยแล้ว ถือวิสาสะใช้คอมพิวเตอร์ของผู้ตาย และเดินไปหยิบไอศครีมในตู้เย็นมานั่งกินต่อหน้าศพ
คดีที่มีหลักฐานทางดีเอ็นเอเกี่ยวกับตัวฆาตกรเต็มไปหมด แต่ก็ไม่สามารถจับตัวใครมาลงโทษได้เป็นเวลานานกว่า 20 ปี
คดีนี้คือหนึ่งในฆาตกรรมที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศญี่ปุ่นและยังคงเป็นปริศนาจวบจนถึงทุกวันนี้..
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมในปี 2000 เจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตเซตางายะ กรุงโตเกียว ได้รับแจ้งความจากหญิงชราคนหนึ่งนามว่า "ฮารุโกะ" ถึงคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในบ้านข้าง ๆ เจ้าหน้าที่รุดมายังที่เกิดเหตุและจากการตรวจสอบเบื้องต้น เหยื่อของคดีนี้มีทั้งหมด 4 รายด้วยกัน ประกอบด้วย "นายมิกิโอะ", ภรรยาของเขา "ยาสุโกะ", ลูกสาวในวัย 8 ขวบ "นีน่า" และลูกชายคนเล็กในวัย 6 ขวบ "เร"
แท้จริงแล้วคุณยายฮารุโกะผู้โทรแจ้งความคือคุณแม่ของยาสุโกะที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้ ๆ กัน ปกติแล้วทั้งสองบ้านจะเดินข้ามไปมาหาสู่กันแต่ช่วงเช้าของวันนั้น ไม่มีใครสามารถติดต่อครอบครัวมิยาซาวะได้ และเมื่อคุณยายเดินมาหาพวกเขาด้วยตัวเอง ก็ทำให้แกได้พบกับเหตุร้ายดังกล่าวที่พรากชีวิตลูกสาว ลูกเขย และหลาน ๆ ไปอย่างไม่มีวันกลับ
มิกิโอะเสียชีวิตในสภาพที่เขากำลังนั่งทรุดอยู่ด้านล่างของบันไดทางขึ้นบ้าน ร่างของเขามีรอยถูกกระหน่ำแทงหลายจุด มีร่องรอยของการต่อสู้เกิดขึ้นและภายหลัง ตำรวจพบชิ้นส่วนของมีดที่ปักและหักอยู่ในศีรษะของเขา เช่นเดียวกันกับร่างไร้วิญญาณของยาสุโกะและเด็กหญิงนีน่า ทั้งสองถูกแทงด้วยมีดซาชิมิอย่างโหดเหี้ยมและไม่ยั้งจนขาดใจ หนูน้อยเรเป็นคนเดียวที่รอดพ้นจากการโดนจ้วงแทง แต่เขาก็ไม่เล็ดรอดจากความอำมหิตของฆาตกรผู้นี้ไปได้ ตำรวจพบร่างของเด็กน้อยถูกบีบคอจนเสียชีวิตในห้องนอนของตัวเอง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือสังหารเขาก่อนคนแรกก่อนที่จะเคลื่อนไปล่าเหยื่อรายต่อ ๆ ไป
ที่น่าแปลกคือตัวคนร้ายไม่ได้รีบหนีออกจากที่ก่อเหตุในทันทีหลังจากที่ลงมือเสร็จสิ้นแล้ว ในทางกลับกัน เขากลับใช้เวลาภายในบ้านของครอบครัวมิยาซาว่าเป็นเวลานานถึง 10 ชั่วโมง เพื่อใช้คอมพิวเตอร์ของเหยื่อ กินอาหารจากตู้เย็น ใช้ห้องน้ำ ทำแผลให้กับตนเอง รวมไปถึงการใช้ห้องนั่งเล่นบนชั้น 2 เพื่องีบหลับอีกต่างหาก ตำรวจสามารถเก็บลายพิมพ์นิ้วมือได้จากหลากหลายจุดภายในบ้าน และมีแม้กระทั่งอุจจาระของคนร้ายเป็นหลักฐานในการสืบสวนแต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังต้องใช้เวลานานกว่าจะไขปริศนาคดีฆาตกรรมนี้ได้
อุปสรรคคือหลักฐานทุกชิ้นที่มีอยู่ในมือไม่สามารถสืบโยงกลับไปสู่บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้เลย ทั้งลายนิ้วมือของคนร้ายที่ไม่แมตช์กับฐานข้อมูลไหนที่ทางตำรวจญี่ปุ่นมี หรือการตรวจผลดีเอ็นเอจากคราบเลือดที่สรุปความได้ว่าคนร้ายน่าจะมีเชื้อสายจากทางยุโรป ก็ไม่สัมพันธ์กับเศษทรายที่ติดมาในกระเป๋าของเขาที่เป็นทรายจากทะเลทรายเนวาดา ในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่มีหลักฐานที่เป็นกล้องวงจรปิด ไม่มีพยานบุคคลสำหรับเหตุการณ์นี้ พอทั้งหมดนี้รวมกัน ถึงจะมีหลักฐานหลากหลายอย่างที่ดูเหมือนจะสาวไปถึงตัวคนร้ายได้ แต่ก็ไม่สามารถฟันธงอะไรได้ชัดเจน จึงทำให้คดีฆาตกรรมครอบครัวมิยาซาวะนี้ไม่สามารถปิดเคสลงได้อย่างง่าย ๆ
20 ปีกับนักสืบที่ทำคดีกว่า 246,044 นาย และหลักฐานอีกมากกว่า 12,545 ชิ้น จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครที่สามารถตอบได้ว่าฆาตกรที่ก่อคดีสุดเหี้ยมนี้คือใคร ไม่ได้มีเพียงแค่คนที่คอยติดตามคดีเท่านั้นที่ยังคงรอฟังคำเฉลยว่าจุดจบของเรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไร แต่ยังมี คุณยายฮารุโกะ ผู้สูญเสียทุกอย่างจากเหตุการณ์นี้ ที่เฝ้ารอวันที่คนผิดจะถูกลงโทษอย่างสาสมกับสิ่งที่ได้ทำเอาไว้เช่นกัน…
อ้างอิง
รัตตินันท์ เศร้าแทนคุณยายเลย😔
26 พ.ค. 2564 เวลา 03.55 น.
CMP• แนะนำการเล่าเรื่อง คดีฆ่าตกรรม ครอบครัว Miyazawa ที่ช่อง Tang makkapon ใน YouTube ครับผม สุดยอดมากๆครับ
26 พ.ค. 2564 เวลา 02.51 น.
birdy ฆาตกรต่อเนื่องยังลอยนวล
26 พ.ค. 2564 เวลา 00.47 น.
Win สู้ตำรวจไทยไม่ได้
ไม่เกิน 3 วัน
26 พ.ค. 2564 เวลา 05.27 น.
GNUN ใช้เทคนิคตำรวจไทยสิ จับแพะได้เยอะแยะเลย
26 พ.ค. 2564 เวลา 08.45 น.
ดูทั้งหมด