24 ชั่วโมงข่าว 91 ประวันที่ 19 สิงหาคม 2567
>> ผู้โดยสารรถทัวร์ผวา จะขอทางคนนั่งข้างๆ เพื่อลงรถ พบตัวแข็งเสียชีวิตแล้ว รู้อีกทีนั่งข้างศพทั้งคืน
06.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสารสายกรุงเทพ-หาดใหญ่ จอดอยู่ที่หน้าตู้ยามบ่อล้อ หมู่ 7 ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ. นครศรีธรรมราช
ที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบรถทัวร์โดยสารสายกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ทะเบียน กทม. จอดอยู่ ตรวจที่เบาะนั่งภายในรถพบศพผู้เสียชีวิต นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี นอนแน่นิ่งอยู่ที่เบาะซึ่งปรับเอนหลังนอนบนรถโดยสาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานงานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบสภาพศพร่วมกับแพทย์ ซึ่งไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด
สอบสวนทราบว่า ผู้ตายโดยสารรถทัวร์มาจาก กทม. เพื่อกลับบ้านที่ จ.สงขลา มีผู้โดยสารมาด้วยกันหลายสิบคน ระหว่างทางคนขับจอดรถให้ผู้โดยสารลงที่สี่แยกบ่อล้อ โดยมีผู้โดยสารคนหนึ่งที่นั่งเบาะด้านในใกล้กับผู้ตายขอทางเพื่อลงจากรถ ปรากฏว่านางเอ (นามสมมุติ) นอนตัวแข็งเสียชีวิตแล้ว จึงบอกคนขับและแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ในขณะที่คนที่นั่งใกล้กันถึงกับผวา เนื่องจากนั่งนอนกับศพตลอดทาง
ด้าน พ.ต.อ.สมพร ระบุว่า ได้ส่งศพผู้ตายไปทำการชันสูตรที่ รพ.เชียรใหญ่ อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมประสานญาติของผู้ตายเพื่อมารับศพแล้ว เบื้องต้นทางแพทย์ระบุว่าสาเหตุการตายมาจากหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งญาติพี่น้องไม่ติดใจถึงสาเหตุการตายแต่อย่างใด และให้ทางพนักงานสอบสวนร่วมทำการชันสูตรพลิกศพไว้เป็นหลักฐานอย่างละเอียด ก่อนจะมอบให้กับญาตินำไปจัดการตามประเพณีต่อไปแล้ว
>> 2 ผัวเมียชาวนา เสียชีวิตก้นบ่อน้ำบาดาล หลังลงไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำ
09.15 น. นายณัชนนท์ สนประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขตที่ 16 ชัยนาทสั่งการให้ส่วนสนับสนุนทรัพยากรกู้ภัย จัดจุดประเชิญสถานการณ์วิกฤต จำนวน 5 คน พร้อมด้วยพนักงานขับและควบคุมเครื่องจักรกล 2 คน ให้การช่วยเหลือผู้ตกบ่อน้ำบาดาลกลางทุ่งนา จำนวน 2 ราย ในพื้นที่ หมู่ 8 ตำบลชัยนาท อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท
ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ่อบาดาลอยู่กลางทุ่งนา มีความลึกประมาณ 10 เมตร ภายในบ่อ พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อ นายยงยุทธ อายุ 50 ปี และ นางดารุณี อายุ 43 ปี 2 สามีภรรยา สภาพศพนอนขดตัวคุดคู้อยู่ก้นบ่อ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือ พร้อมนำอุปกรณ์พร้อมถังออกซิเจนก่อนใช้เชือกโรยตัวลงไปภายในบ่อ เพื่อไปผูกมัดกับร่างของผู้ตายก่อนที่จะนำขึ้นมาได้อย่างทุลักทุเลเนื่องจากภายในบ่อไม่มีอากาศหายใจ มีแต่กลิ่นก๊าซไข่เน่า โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากบ่อได้สำเร็จ
จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น คาดว่า ผู้ตายทั้ง 2 ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต มาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง จึงนำศพมอบให้ญาติเพื่อไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
>> "ทักษิณ" สีหน้ายิ้มแย้ม เดินทางศาลอาญาเตรียมพร้อมรับคดีหมิ่นเบื้องสูง
09.49 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ศาลอาญานัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญายื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอนมีเดีย (The ChosunMedia) ของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่งนายทักษิณได้รับการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยตีราคาประกัน 5 แสนบาท กำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล โดยในวันนี้จำเลยจะต้องเดินทางมาศาลด้วยตนเอง เพื่อตรวจหลักฐานคู่ความ
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.50 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สวมเสื้อสีเหลือง มีสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อมาถึง ได้ตอบคำถามสื่อว่ามาศาลไม่รู้สึกกังวล ไม่มีปัญหาอะไร จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ได้พาไปห้องพิจารณา 913 ทันที โดย นายทักษิณ ได้ทำความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่หน้าทางเข้า ก่อนขึ้นศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ตามนัดตรวจพยานหลักฐานคดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมแวะให้สัมภาษณ์กับสื่อไม่มีเรื่องใดต้องกังวล โดยนายทักษิณ ได้รับพระราชทานอภัยโทษ จนพ้นโทษคดีก่อนหน้าตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาแล้ว
มีรายงานว่า ในส่วนการรักษาความปลอดภัยของศาลอาญาเป็นไปตามปกติ และ กำชับเรื่องอัตรากำลังในวันนั้น มีการขอกำลังเสริมจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 และเจ้าพนักงานตำรวจศาลมาเพื่ออำนวยความสะดวกในกรณีที่มีมวลชนเข้าในพื้นที่ ในเบื้องต้นศาลอาญาจะไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าฟังการพิจารณาคดี แต่จะจัดพื้นที่ไว้ตรงบริเวณบันไดหน้าอาคารจุดเดิม ส่วนรายละเอียดข่าวอาจจะมีการทำเอกสารข่าวแจก
>> บุกทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ในภาคเหนือ ส่งผ่านออนไลน์ ของกลางมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
10.30 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นำโดย นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ,พล.ต.ท.นิรันดร เหลือมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการ ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าช่องทางออนไลน์รายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมของกลาง 31,790 ชิ้น รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้าน
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. ได้ทำการสืบสวนทราบว่า เว็บไซต์หนึ่ง มีพฤติกรรม ประกาศขายสินค้า ประเภทบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์จำนวนหลายรายการ และมีช่องทางให้ผู้สนใจสั่งซื้อสินค้าผ่าน LINE พร้อมบริการส่งให้ลูกค้าทั่วประเทศทางบริษัทขนส่งเอกชน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติมจนทราบว่า ร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว มีการเก็บสต๊อกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 10 หมู่บ้านกัลยาวิลล์ ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้น ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ และได้เข้าตรวจค้นบ้านดังกล่าวเมื่อ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบ พบของกลางบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ จำนวน 31,790 ชิ้น รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท โดยมี นายสอ (นามสมมุติ) รับว่าเป็นเจ้าของร้าน มีการจัดจำหน่ายตามช่องทางออนไลน์และแพ็กสินค้าจัดส่งตามออเดอร์ เจ้าพนักงานตำรวจจึงจับกุมตัว นำส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> 'นายกฯ อิ๊งค์' ไม่เคยได้ยินข่าวแลกเก้าอี้ มท. กับพรรคภูมิใจไทย ลั่นเร่งตั้ง ครม.ใหม่ในสัปดาห์นี้
11.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในช่วงสัปดาห์นี้จะประสานพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ โดยจะพยายามทำให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ สำหรับสัดส่วนรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยจะพูดคุยรายละเอียดกับทีมงานในวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.) สวนในช่วงบ่ายมีประชุมที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นเรื่องภายในพรรคก่อนที่จะประชุมการแต่งตั้ง ครม.
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า หลายฝ่ายได้แนะนำเรื่องตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี โดยรอบนี้จะตรวจสอบนาน และ ต้องสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกา เพราะทุกคนเป็นห่วง จึง คาดว่าการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วเสร็จใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน
ส่วนกระแสข่าวการแลกกระทรวงมหาดไทยกับพรรคภูมิใจไทยนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ยังไม่ได้พูดคุย ส่วนความเป็นไปได้นั้นจะต้องพูดคุยตกลงกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ ตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะยังเป็นนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี หัวเราะก่อนจะบอกว่า ขอบอกพร้อมกันกับ ครม.ได้หรือไม่ เช่นเดียวกับสัดส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังต้องพูดคุยกันภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งไม่อยากตอบวันนี้ เพราะจะเร็วไป จะต้องหารือกันก่อน
>> ราชทัณฑ์ เผย 'บรรยิน' ได้อภัยลดโทษจากประหารชีวิต เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต
13.18 น. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า คุณสมบัติผู้ต้องราชทัณฑ์ที่เข้าข่ายได้ประโยชน์จาก พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ มีทั้งกลุ่มได้ลดวันต้องโทษ กลุ่มพักโทษ กลุ่มกักขังแทนค่าปรับและ กลุ่มที่ได้พ้นโทษ ซึ่งจะมีการทยอยปล่อยตัวและดำเนินการลดโทษตามพระราชกฤษฎีกากำหนดภายใน 120 วัน โดยผู้ต้องขังที่ได้รับประโยชน์ตามพระราชกฤฎีกานี้ กำหนดไว้ต้องเป็นผู้ได้รับโทษแล้วไม่น้อยกว่า 1ใน 3 หรือจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี ขึ้นกับจำนวนวันต้องโทษ ขั้นตอนหลังจากมีประกาศพระราชกิจจา กรมราชทัณฑ์ ต้องตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบรายชื่อคุณสมบัติให้ถูกต้อง โดยกลุ่มที่ได้ปล่อยตัวพ้นจากเรือนจำ เป็นกลุ่มที่กรมราชทัณฑ์จะต้องเสนอไปยังศาลเพื่อขอหมายปล่อยให้ก่อน ซึ่งรวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดิมจะครบกำหนดพ้นโทษในวันที่ 31 ส.ค. 2567 แต่ผลจากพระราชกฤฎีกาครั้งนี้ จะได้เปลี่ยนแปลงลดจำนวนวันต้องโทษ ซึ่งส่งผลให้พ้นโทษเร็วขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ต้องขังคดีอื่น ๆ ก่อนพ้นโทษจะต้องผ่านการอบรม และกรมราชทัณฑ์ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน ร่วมติดตามการใช้ชีวิตหลังพ้นโทษเพื่อช่วยเหลือให้กลับตัวเริ่มต้นชีวิตได้ จึงขอให้สังคมอย่าได้กังวล
สำหรับผู้ต้องขังคดีสำคัญได้รับประโยชน์เช่นกัน ได้แก่ กลุ่มคดีจำนำข้าว นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง และพวกเข้าข่ายได้ลดวันต้องโทษ เหลือโทษน้อยลง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ได้ลดวันต้องโทษ ส่วนนายบรรยิน ตั้งภากรณ์ นักโทษคดีฆ่าเสี่ยชูวงษ์ ได้อภัยลดโทษจากประหารชีวิต เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต
>> เพลิงไหม้รถยนต์ ซอยแจ้งวัฒนะ 10 ห้องเครื่องเสียหายวอด
14.13 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ซอยแจ้งวัฒนะ 10 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีทอง หมายเลขทะเบียน กรุงเทพฯ รถใช้นำมันเบนซินและแก๊สแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหาย เฉพาะห้องเครื่อง ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่แบตเตอรี่รถยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยดอนเมือง
>> ผบ.ตร. เยี่ยมให้กำลังใจ รองสารวัตรสืบฯ ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าปิดล้อมจับกุมคนร้ายคดียิง 2 ศพ
14.20 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจ ร.ต.ต.อิทธิพัทธ์ ชัยนา รอง สว.กก.สืบสวน ภ.จว.สมุทรสาคร ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุร่วมออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีอาญา หลังคนร้ายหลบหนีไปซ่อนตัวในพื้นที่บ้านหมู่ที่ 6 ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี แล้วใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงคนเสียชีวิต 2 ราย ในพื้นที่ ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นอกจากนี้ ยังพบเด็กอายุ 2 ขวบ 2 เดือน ถูกกระสุนถากเข้าที่เอว 1 นัด หลังก่อเหตุได้ไปหลบหนีไปซ่อนตัวในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ที่ 6 ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ต่อมาวานนี้ (18 สิงหาคม 2567) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร สนธิกำลัง กก.สส.ภ.จว.สิงห์บุรี และ สภ.พรหมบุรี ปิดล้อมตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว โดยระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อม คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ เป็นเหตุให้ ร.ต.ต.อิทธิพัทธ์ ชัยนา รอง สว.กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลพรหมบุรี ส่วนคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งต่อมานำตัว ร.ต.ต.อิทธิพัทธ์ฯ ส่งต่อมารักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบกระเช้าเยี่ยม และเงินช่วยเหลือ ให้กำลังใจ ร.ต.ต.อิทธิพัทธ์ฯ พร้อมสั่งการผู้บังคับบัญชาให้เร่งรัดการดำเนินการขอรับสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการต่อไป
>> ไฟไหม้บ้านคฤหาสน์หรู เมืองนนท์ ห้องครัว, ห้องแม่บ้านเสียหายวอด
15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยท่าอิฐ ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี จึงรุดเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้านหรูหลังใหญ่ ต้นเพลิงเกิดขึ้นด้านหลังบ้านซึ่งเป็นห้องครัวและห้องพักคนรับใช้ เจ้าหน้าที่เร่งใช้น้ำฉีดทำการดับเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามโดยใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ หลังเพลิงสงบ ตรวจสอบพบว่าในส่วนของห้องครัวและห้องพักคนรับใช้เสียหาย รวมไปถึงไฟยังลุกลามไหม้ไปยังฝ้าเพดานเป็นวงกว้าง
นายชนินทร์ สาอาจ อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ต้นเพลิงเป็นลักษณะเป็นห้องเก็บของหรือห้องซักรีดไม่แน่ชัด หลังจากนั้นเพลิงก็ลุกลามมายังห้องครัวที่อยู่ติดกันได้รับความเสียหายโดยเฉพาะบริเวณฝ้าเพดานเสียหายทั้งหมดความเสียหายประมาณ 30 ตารางเมตร ซึ่งในจุดเกิดเหตุเป็นทั้งห้องครัว ห้องเก็บของและห้องพักของคนรับใช้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบถามข้อมูลจากเจ้าของบ้าน โดยสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจากห้องแม่บ้าน ซึ่งหลังจากนี้จะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
>> ตร.-เจ้าท่า ถกคดี "คิวพี" เจ้าตัวลั่นเลิกขับเจ็ตสกี ขอบวชให้ผู้ตาย
16.30 น. สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธร จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง และเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า จ.สมุทรปราการ ได้เรียก นายชินดนัย แซ่ลิ้ม อายุ 21 ปี หรือ "คิวพี" นักแสดงหนุ่มชื่อดังที่ขับเจ็ตสกีชนกับเรือหางยาวโดยสารข้ามฟาก บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามวัดบางกระเจ้านอก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 2 ศพ
วันนี้ทางด้าน นายชินดนัย หรือ "คิวพี" ได้เดินทางมาพร้อมกับ นายวันชัย อายุ 55 ปี ผู้เป็นพ่อ เพื่อมาให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่เจ้าท่าจังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้การรับสารภาพว่า ขับเจ็ตสกีชนเรือหางยาวโดยสาร จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
โดยทางเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าสาขาสมุทรปราการ ได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายชินดนัย เรื่อง พ.ร.บ.การเดินเรือน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 ไม่มีใบประกาศหรือใบอนุญาตการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ใบนายท้ายเรือ) โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยทางเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการปรับไปเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท ส่วนเจ็ตสกีที่ใช้หรือเรือที่เกิดเหตุนั้น ได้รับอนุญาตและมีทะเบียนเรียบร้อย ส่วนอีกหนึ่งข้อหาซึ่งเป็นข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทางเจ้าหน้าที่เจ้าท่าจังหวัดสมุทรปราการจะรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมทั้งตรวจสอบเรือหางยาวและเจ็ตสกีที่เกิดเหตุว่า เป็นความประมาทจริงหรือไม่ จากนั้นจะรวบรวมพยานหลักฐานไปแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับนายชินดนัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนทางครอบครัวของนายชินดนัย ได้ขอแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย นายชินดนัย หรือ คิวพี เปิดเผยว่า ตนอยากจะขอโทษญาติของผู้เสียชีวิตกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้มีเจตนาหรือความตั้งใจที่จะให้เกิดเรื่องแบบนี้ ตนยืนยันไม่ได้มีเจตนา และตนมีความตั้งใจที่จะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตและพร้อมที่จะเยียวยาช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต ส่วนเหตุการณ์นี้ทางครอบครัวและนายชินดนัยน้อมรับผิด และขอเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย
>> คุณตาออกไปหาปลาแล้วไม่กลับบ้าน จนมาพบร่างถูกตาข่ายจับปลาพันข้อเท้าจมน้ำ จ.เชียงราย
19.04 น. มูลนิธิแสงธรรมสาธารณกุศลเชียงรายจุด อ.ดอยหลวง ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือให้ช่วยออกตามหาคนหาย ซึ่งเป็นชาย อายุประมาณ 77ปี ญาติเเจ้งว่าออกไปหาปลาแล้วยังไม่กลับมาบ้าน ในพื้นที่ บ้านปงน้อยม.10 ต.ปงน้อย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย
ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นผืนนาที่มีน้ำท่วมขัง ทางอาสาสมัคร และญาติได้ออกตามหา ในเวลาต่อมา พบว่าคนที่ญาติตามหานั้นได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตมาหลายชั่วโมง พบว่าที่ร่างของผู้เสียชีวิตถูกตาข่ายจับปลา (เเน่ง) ที่ใช้จับปลาพันที่ข้อเท้าทั้ง 2 ข้าง
อาสามูลนิธิเเสงธรรมดอยหลวงนำร่างขึ้นจากน้ำ เเละประสานร้อยเวร สภ.ดอยหลวง ประสานเเพทย์เวรมาชันสูตรการเสียชีวิต ทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงได้ให้การช่วยเหลือนำโลงศพบรรจุร่าง และส่งให้ญาติเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป