แง้มความลับ 'ไฝใต้ตา' แม่พุดตาน หลังโดน 'คุณหญิงจำปา' ทัก ในละครพรหมลิขิต พาส่องความเชื่อโบราณจาก “ตำรานรลักษณ์” มีไฝที่ใด เหมาะกับชายรับเป็นภรรยา?
วันนี้ (14 พ.ย. 66) ดำเนินเรื่องราวอย่างเข้มข้น สำหรับละคร"พรหมลิขิต" ภาคต่อจาก 'บุพเพสันนิวาส' เมื่อ "พุดตาน" ได้ไปเยือนเรือนของออกญาวิสูตรสาคร ทั้งยังได้พบกับ "หมื่นสุนทรเทวา" รับบทโดย โป๊บ-ธนวรรธน์ และคุณหญิงจำปา รับบทโดย ชไมพร จตุรภุช
งานนี้ดูเหมือน 'พุดตาน' จะรู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่ และมิวายเกิดความรู้สึกอึดอัดใจอย่างน่าประหลาดกับทั้ง 'พ่อเดช' และ 'คุณหญิงย่าจำปา' แถมบ่าวอย่าง 'ปริก' เจอแววตาแม่พุดตานเข้าไป ถึงกับกลัวจนสะดุ้งเลยทีเดียว
ภาพประกอบ จาก ละครพรหมลิขิต
ช่วงหนึ่งของละคร คุณหญิงจำปา ก็ทัก 'แม่พุดตาน' เรื่องไฝที่บริเวณใต้ตาว่า ตามความเชื่อโบราณมักไม่ค่อยดีถึงจะเป็นไฝเจ้าเสน่ห์ แต่อาจมีเรื่องทุกข์ใจทำให้ร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง เพราะไฝใต้ตามีไว้รองรับน้ำตา
เรียกได้ว่า 'ไฝใต้ตา' ของแม่พุดตาน นับเป็นจุดเด่นของตัวละครนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งสาว'เบลล่า ราณี' เคยให้สัมภาษณ์ แง้มความหมายที่มาของไฝบริเวณใต้ตาของตัวละครแม่พุดตานไว้ว่า
"ดีไซน์ตั้งแต่ในนิยายค่ะ อยากจะมีอะไรให้ดูแตกต่างไป อย่างตรงนี้มันก็เหมือนเป็นจุดรองน้ำตาแบบอาจจะผิดหวัง คือมันก็มีความหมายซ่อนอยู่"
ภาพประกอบ จาก ละครพรหมลิขิต
งานนี้จึงขอพาไปส่องความเชื่อของคนโบราณในอดีต ตำราดูลักษณะคน ซึ่งมีอยู่แพร่หลายไปทั่วทั้งตะวันตกและตะวันออก ทว่าปัจจุบันในตะวันตก มองว่าศาสตร์ดังกล่าวเป็น “วิทยาศาสตร์เทียม” และไม่ได้รับการยอมรับอีกต่อไป ขณะที่ในตะวันออกวิชาดูลักษณะคนยังคงได้รับความนิยมอยู่
โดยในปัจจุบัน วิชาดูโหงวเฮ้งของจีน ได้รับการยอมรับอย่างมากในเมืองไทย ขนาดที่ผู้บริหารของบริษัทใหญ่ๆ ยังต้องจ้างซินแสมาให้คำปรึกษาในการคัดคนเข้าทำงานด้วย
สำหรับประเทศไทยเองก็มีศาสตร์ลักษณะนี้อยู่เช่นกัน ซึ่งไม่สามารถระบุต้นกำเนิดได้ นั่นก็คือ “ตำรานรลักษณ์” หรือ ลักษณะของนารี ที่เคยถูกนำมาตีพิมพ์ใน นิตยสาร “บานไม่รู้โรย” ฉบับกรกฎาคม 2528 ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่ถูกพูดถึงเท่าไหร่นัก
ภาพประกอบ
โดยมีเนื้อหาวิเคราะห์ลักษณะ 'ผู้หญิง' ในอดีต ถึงความเหมาะสมในการรับไปเป็นภรรยา ดังนี้
1. หญิงใดมีหนวดเครา และมีขนหน้าแข้งเหมือนผู้ชาย เป็นหญิงอัปลักษณ์ ชอบทำลายทรัพย์สมบัติของผัว หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
2. หญิงใดมีสะโพกเอียง หรือเวลาเดินไปข้างใดข้างหนึ่ง เป็นหญิงอัปลักษณ์ หาผัวยาก หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
3. หญิงใดที่แก้มมีลักยิ้มบุ๋มทั้งสองข้าง เป็นหญิงหลายใจ รักง่ายหน่ายเร็ว หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
4. หญิงใดชอบนอนคว่ำนอนหงายเป็นประจำ เป็นหญิงที่ชอบนอกใจผัวไม่น่าไว้วางใจ หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
5. หญิงใดมีหลังมือหลังเท้านูนเหมือนหลังเต่า และมีนิ้วมือชิดสนิทกัน เป็นหญิงเจ้าทรัพย์ ใครได้เป็นเมียจะมีแต่ความสุขความเจริญ หญิงเช่นนี้ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
ภาพประกอบ
6. หญิงใดมีปานดำที่ฝ่ามือ หน้าอก และในที่ลับ หรือปานแดง ไฝแดง ที่ฝ่ามือฝ่าเท้า เป็นหญิงที่มั่งมีด้วยทรัพย์สมบัติ หญิงเช่นนี้สมควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
7. หญิงใดมีไฝที่ของลับหรือในที่ลับ เป็นหญิงมีชื่อเสียง มียศฐาบรรดาศักดิ์ หญิงเช่นนี้สมควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
8. หญิงใดมีไฝที่ใต้นม เป็นหญิงมีเสน่ห์มีคนรักใคร่ มีโชคลาภเป็นประจำ หญิงเช่นนี้สมควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
9. หญิงใดมีไฝที่หูข้างขวา เป็นหญิงที่มีจิตใจอารี เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป หญิงเช่นนี้สมควรที่ชายจะเอาไปเป็นเมีย
10. หญิงใดมีไฝที่ขมับข้างขวา เป็นหญิงที่มีใจรวนเร ชอบนอกใจผัวหญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
ภาพประกอบ
11. หญิงใดมีไฝที่ลูกกระเดือก เป็นหญิงที่มีใจอำมหิตโหดร้าย หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
12. หญิงใดมีไฝที่ริมฝีปากล่าง เป็นหญิงอาภัพ พึ่งพาอาศัยใครไม่ได้ต้องช่วยตัวของตัวเอง หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
13. หญิงใดมีไฝที่ริมฝีปากบน เป็นหญิงที่ชอบเล่นชู้ มีผัวบ่อยๆ หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
14. หญิงใดมีไฝที่ดั้งจมูก เป็นหญิงที่หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย เอาแต่ใจตัวเอง หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
15. หญิงใดมีไฝที่หน้าผาก หรือระหว่างคิ้ว เป็นหญิงอาภัพ ลูกและผัวมักจะตายจากกัน หญิงเช่นนี้ไม่ควรที่ชายจะเอาเป็นเมีย
อย่างไรก็ดี บทความนี้เป็นความเชื่อของศาสตร์หนึ่งในการพิจารณาลักษณะของ 'หญิงไทย' ในอดีต ที่ยังขาดข้อเท็จจริงรองรับ โดยปัจจุบันความเชื่อดังกล่าวค่อย ๆ ลดเลือนหายไปตามกาลเวลา ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล ทั้งนี้ มิควรนำมาตัดสินผู้อื่นจากรูปลักษณ์ภายนอก
ยิ่งไปกว่านั้น ในสังคมปัจจุบัน ผู้คนบางกลุ่มมองว่า 'ไฝ' คือ เสน่ห์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์และเป็นเอกลักษณ์ จนกระเทรนด์ฮิต 'สักไฝถาวร' จำนวนมาก
ที่มา : ศิลปวัฒธรรม