การที่ 7 กกต.ที่มี อิทธิพร บุญประคอง เป็นประธาน มีมติแจ้งข้อกล่าวหาว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หมายเลข 1 หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ต่อคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) ว่าด้วยการถือหุ้นหรือเป็นเจ้าของสื่ออันเป็นลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร
แปลไทยเป็นไทยว่า 7 กกต. มีความเห็นเบื้องต้นแล้วว่า คุณสมบัติของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ น่าจะขัดต่อกฎหมาย เพียงกระบวนการอำนวยความยุติธรรม กกต.ได้เปิดโอกาสให้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มาชี้แจงข้อกล่าวหา ทั้งที่ กกต.ไม่ต้องให้มาแก้ข้อกล่าวหา โดยให้ไปพิสูจน์ทีเดียวในศาลฎีกาแผนกเลือกตั้งเลยก็ได้
แต่การเปิดโอกาสให้เป็นไปตามคำเรียกร้องของปิยบุตร แสงกนกกุล ก่อนหน้านี้ที่อยาก "ได้โอกาส" ในการชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี และพรรคอนาคตใหม่จะได้ไม่ต้องอ้างเอาเสียงที่ได้รับเลือกตั้ง 6.3 ล้านเสียง เมื่อ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นข้ออ้างในการกลบเกลื่อนความจริงที่ไม่ควรเลียนแบบทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2544 ในการเอาเสียงเลือกตั้ง กดดันกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีซุกหุ้น อันเป็นตราบาปจนถึงทุกวันนี้
ประเด็นการครอบครองหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด บริษัททำสื่อของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำเป็นจะต้องพิสูจน์ความจริงตามกฎหมายว่า ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 อันเป็นวันสมัคร ส.ส.ธนาธร ยังถือครองหุ้นสื่ออยู่หรือไม่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 และคำพิพากษาคดีโอนหุ้นของศาลฎีกาในอดีต สามารถเทียบเคียงกันได้ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะพิสูจน์ความจริง
แน่นอนว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - ปิยบุตร แสงกนกกุล และพลพรรคอนาคตใหม่ ย่อมยกแม่น้ำทั้ง 5 มาอ้างความชอบธรรม ว่าได้มีการจัดการโอนหุ้นไปก่อน 6 กุมภาพันธ์ 2562 แล้ว แต่ประจักษ์พยาน เอกสารทางราชการ ย่อมเป็นความจริงที่ใครจะแก้จนเป็น "วัวพันหลัก" หรือ "ลิงแก้แห" อย่างไร ก็หนีความจริงไปไม่พ้นขอเพียง ธนาธร และอนาคตใหม่ ต้องเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ความจริง อย่าอ้างเสียงเลือกตั้งกดดัน เฉกเช่นทักษิณ ชินวัตร หรือหนีกระบวนการยุติธรรมเหมือน 3 พี่น้องชินวัตร
ให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าตามครรลองที่ถูกต้อง ให้ศาลฎีกาแผนกเลือกตั้ง ตัดสินเรื่องนี้อย่างอิสระ จะทำให้ "ความจริง" ถูกประกาศออกมา ที่ทุกฝ่ายทั้งที่เชียร์และค้าน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องยอมรับคำตัดสิน บ้านเมืองถึงจะเดินหน้าได้
"ทองแท้ ย่อมไม่กลัวไฟฉันใด" หากธนาธร ไม่ได้แต่งเอกสารย้อนหลังจริง ต้องเดินหน้าให้กระบวนการตรวจสอบการเข้าสู่อำนาจเป็นไปโดยปกติคอลัมน์… รักแผ่นดิน โดย… ฅนไท ที่มา นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
JR. THAI คนไทยสอนให้เด็กฟังมากๆและเชื่อผู้ใหญ่หมาไม่กัด
คนอนาคตใหม่ เชื่อมั่นในหลักการ เก่งมาก พูดมาก และ บอกว่าคนรุ่นเก่าโง่กว่า วัฒนธรรมของชาติล้าสมัย
ไม่นานก็จะรู้ว่า คติพจน์ไหนดีกว่ากัน
25 เม.ย. 2562 เวลา 05.55 น.
mayuree คนพูดโกหกแล้วไม่ทำชั่วไม่มี
25 เม.ย. 2562 เวลา 05.20 น.
มีพฤติกรรมล่มชาติ ชักฝรั่งเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน จะล้มล้างสถาบันและวัฒนธรรมบริบทชาติ เช่นการยิ้มทักทาย ซึ่งเป็นเสน่ห์เอกลักษณ์ของไทย และการเรียกแสดงความนับถือซึ่งกันและกันประดุจเครือญาติ ซึ่งสังคมสมัยขาดการเชื่อมโยงเมตตากันเยอะอยู่แล้ว ยิ่งจะทำให้คนถือตัวตนชนชั้น ห่างกันออกไปอีก แสดงให้เห็นถึวความแบกแยกสังคมอย่างชัดเจน
25 เม.ย. 2562 เวลา 05.13 น.
💖ผีเสื้อน้อย... ตรรกะพวกที่อ้าง...ประชาธิปไตย..
ถ้าศาลตัดสินว่าผิด = สองมาตรฐาน
ถ้าศาลตัดสินว่าถูก = ศาลท่านมีความยุติธรรม
25 เม.ย. 2562 เวลา 05.00 น.
ความจริงจะจัดการกับคนที่ชอบโกหกจนเป็นสันดาน
อย่างสาสม หนีความจริงไม่ได้หรอก แม้จะจัดฉาก
สร้างภาพปกปิดไว้ไม่นานฉากและภาพที่สร้างไว้นั้น
ก็จะเสื่อมสูญสิ้นไป ความจริงก็จะปรากฏออกมาเอง
25 เม.ย. 2562 เวลา 04.57 น.
ดูทั้งหมด