ถึงจะรอดจาก “โควิด-19” ก็ไม่รอดจากพิษเศรษฐกิจอยู่ดี
หนักหนาสาหัสสากรรจ์จริงๆ ขนาดเคยผ่านวิกฤตค่าเงินบาทปี 2540 มาแล้ว แต่เมื่อเทียบกับวิกฤตโควิด-19 ต้องยอมรับว่า ครั้งนี้หนักกว่าหลายเท่าตัว
ไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อน กับภาวะธุรกิจการบินชะงักงันแบบสิ้นเชิง โลกจำใจจำเป็นต้องตัดขาดการติดต่อไปมาหาสู่กัน
ถ้านับตั้งแต่เริ่มเกิดการแพร่ระบาด ณ สิ้นเดือนธันวาคม ลุผ่านปีใหม่เข้าสู่ปี ค.ศ. 2020 แบบช็อกๆ กับการติดเชื้อจากประเทศจีน ไปสู่ประเทศอื่นๆ ใกล้เคียง ข้ามทวีปจากเอเชีย ไปยุโรป ลาตินอเมริกา และในที่สุดจุดศูนย์กลางใหญ่สุด และกำลังระบาดอย่างหนัก ณ บัดนาว ก็คือ อเมริกา
คนติดเชื้อแตะล้านคน ลามไปแล้ว 200 ประเทศ แทบจะทั้งโลกอยู่รอมร่อ!!
เพราะคุณลักษณะที่โดดเด่นเรื่องติดเชื้อง่ายมาก แถมอาการเริ่มแรกเหมือนหวัดยังไงยังงั้น ยิ่งทำให้โลกปกคลุมไปด้วยความกลัว คนหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกัน การรักษาระยะห่าง (Social Distancing) ถูกกำหนดให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยกันหยุดการแพร่ระบาด แต่ถึงตอนนี้ ไม่มีใครรู้ว่า โควิด-19 จะหยุดแพร่ระบาดเมื่อไหร่ และเราจะเป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อไวรัสตัวร้ายนี้หรือไม่?
ที่ทำได้ ก็แค่อยู่ให้ห่างกัน 1-2 เมตร สวมแมสก์ หมั่นล้างมือ กินร้อน ช้อนใครช้อนมัน และอยู่บ้าน งดกิจกรรมนอกบ้านที่ไม่จำเป็น!!
แต่ถึงแม้ว่า เราจะรอดพ้นจากเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ไปได้ ยังไงๆ เราก็ไม่รอดจากวิกฤตเศรษฐกิจจากพิษโควิด- 19 อย่างแน่นอน
เพราะนี่แค่ 3 เดือนที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด ได้ทำร้าย ทำลายธุรกิจไปแล้วอย่างมากมาย
ที่เห็นได้ชัดๆ ก็คือ ธุรกิจสายการบิน ที่เหล่าเครื่องบินพาณิชย์แทบจะทุกยี่ห้อ จอดนิ่งเรียงราย ต่อให้ผู้โดยสารอยากบิน อยากเดินทางใจจะขาด แต่การเดินทางเข้า-ออกประเทศ กลายเป็นเรื่องยากลำบาก ทุกประเทศเข้มงวด ตรวจละเอียดผู้โดยสาร หลายประเทศห้ามคนเข้า ทำให้ธุรกิจสายการบินจำต้องหยุดกิจการชั่วคราว ยาวไปจนถึงปลายปีเสียด้วยซ้ำ
ต่อเนื่องและหนักไม่แพ้กัน ก็คือ ธุรกิจทัวร์และโรงแรม พากันประกาศหยุดกิจการ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมรายเล็กรายย่อย ไปจนถึงรายใหญ่ที่เป็นเชนระดับโลกทั้งหลาย โควิด-19 ได้สังหารนักท่องเที่ยวจนล้มหายตายไปจากระบบเศรษฐกิจของทุกประเทศ
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวของโลก ระบุว่า โควิด-19 ได้สร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของโลก ที่มีมูลค่าประมาณ 5.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 171 ล้านล้านบาท ประเมินว่า คนในธุรกิจท่องเที่ยวที่มีประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งโลก จะถูกกระทบให้ต้องตกงานไปแบบไม่รู้อนาคตว่า ธุรกิจท่องเที่ยวจะฟื้นกลับมาเป็นปกติได้เมื่อไหร่
แต่ยังมีอีกหลายต่อหลายธุรกิจที่ได้รับพิษโควิด-19 ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เพราะระบบเศรษฐกิจที่เสมือนห่วงโซ่ที่เชื่อมโยงเข้าหากัน ตัวอย่างเช่น เมื่อนักท่องเที่ยวหาย คนทำร้านอาหาร ขายสินค้าโอท็อป หาบเร่แผงลอยทั้งหลาย ร้านขายเสื้อผ้า ก็ได้รับผลกระทบ ยอดขายลดลงไปด้วย แม้กระทั่งวินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยก็กระทบกระเทือน ลูกค้าใช้บริการน้อยลงไปเช่นกัน
เห็นได้ชัดๆ จากมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อัตราเดือนละ 5,000 บาท ติดต่อกัน 3 เดือนที่รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ล้นทะลัก จากที่รัฐประมาณการว่า จะมีคนลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือประมาณ 3 ล้านคน
กลายเป็นว่า คนแห่กันมาลงทะเบียนจนเว็บล่มตั้งแต่นาทีแรก และผ่านมาแค่ 4 วันยอดคนขอรับการเยียวยาผ่านหลัก 20 ล้านคนไปแล้ว คำนวณเงินคร่าวๆ ว่า ถ้าเดือดร้อนจากพิษโควิดจริงทั้ง 20 ล้านคน รัฐบาลจะหาเงินมาจากไหน ตั้ง 3 แสนล้านบาทจึงจะพอเยียวยา
นี่ยังไม่รวมคนเดือดร้อนในระบบประกันสังคม ซึ่งหมายถึงบรรดาพนักงานสายการบิน โรงแรม ทัวร์ บริษัทห้างร้านทั้งหลาย ที่มีทั้งหยุดกิจการชั่วคราวไปแล้ว ให้พนักงานหยุดงานแบบไม่รับเงินเดือน (Leave without pay) และอีกหลายบริษัทที่คาดว่า กำลังสรุปสถานะตัวเอง และน่าจะใช้มาตรการสักอย่างในการบรรเทาความเดือดร้อนที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นการลดเงินเดือน เลิกจ้างพนักงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย
ดังนั้น เหล่าลูกจ้าง มนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย เตรียมใจไว้เลย ถ้าต้องถูกลดเงินเดือน หรือตกงาน!!
ถามว่า ประกันสังคมเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เตรียมเงินเยียวยาผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ที่มีอยู่กว่า 16.65 ล้านคนไว้แค่ไหน
เห็นหรือยัง วิกฤตโควิด-19 หนักหนาสาหัสแค่ไหน ถ้าไม่ตายเพราะติดเชื้อ ก็อาจตายเพราะพิษเศรษฐกิจ!!
Tomvorapot ไม่แน่เสมอไป ในมุมดุลบัญชีเศรษฐกิจมหภาค
ยกตัวอย่าง มาเลเซีย เป็นประเทศมีขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่าเรา ทุนสำรองระหว่างประเทศน้อยกว่าเรา ประชากรต่ำกว่าเรา และอื่นๆ
พูดง่ายๆ เขาพร้อมน้อยกว่าเรา
แต่เขาได้จัดงบเพื่อรับมือกับโควิทและเศรษฐกิจชะลอตัวให้ประชาชนไปแล้ว 1.88 ล้านล้านบาท
ทำไม
เพราะมันสอดคล้องและ พอเพียงในการรับมือกับเศรษฐกิจมหภาคขณะนี้
ส่วนเรายังเถียงกันไม่จบว่าจะแจก 5,000 กี่คนดี และ คิดแต่จะตัด 10%
คิดไปข้างหน้าไม่เป็น อันไหนไม่ใช่
ก็เอาใจช่วยทุกคน ฝากลุงตู่ อย่าเชื่อคนรอบข้างง่ายๆ...
02 เม.ย. 2563 เวลา 02.43 น.
Mo เอาทีละอย่างนะ...ตอนนี้เอาชีวิตให้รอดก่อน เอาให้ไม่ไปแย่งเตียงใน รพ.ก่อน ค่อยออกมาคิดหาเงินทีหลังอย่าน้อยก็ยังมีลมหายใจเหลืออยู่ สู้เอา!! นอนติดเตียงใช้เครื่องช่วยหายใจ มันก็ออกมาหาเงินไม่ได้อยู่ดี แถมเอาเงินเก็บมารักษาตัวอีก
03 เม.ย. 2563 เวลา 08.20 น.
ไม่ตาสเพราะเศรษซกิจ แต่ติด covidจะตาย..
03 เม.ย. 2563 เวลา 08.16 น.
หนุ่ม ดังสุภาษิตที่ว่า “เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้” ถ้าหายากนัก ก็ใช้เศรษฐกิจพอเพียง ครับ
03 เม.ย. 2563 เวลา 08.24 น.
ประเทศไทยเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำชาวนากหญ้าไม่ถึงอดหยาก ขยันทำส่งขายฟื้นตัวเร็ว
03 เม.ย. 2563 เวลา 08.07 น.
ดูทั้งหมด