สหรัฐฯติดโควิด-19 ทุบสถิติใหม่เกือบ 2.8 แสนคนต่อวัน
ไม่ใช้คำว่า "ล็อกดาวน์" หวั่นกระทบเศรษฐกิจ
การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ทำให้รัฐบาลต้องงัดยาแรงใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อจำกัดวงและลดการแพร่เชื้อให้ได้โดยเร็ว ทั้งปิดสถานที่ต่างๆ รวมทั้งคุมเข้มการเดินทาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ สิ่งที่น่ากังวลคืออาจมีคนตกงานเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก จากธุรกิจที่ต้องปิดกิจการตามคำสั่งรัฐ หรือได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ อาทิ ร้านอาหาร ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ คล้ายช่วงระบาดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ภาคท่องเที่ยวยังอยู่ในภาวะยากลำบาก ส่อตกงานจำนวนมากอีกครั้ง
โดยเสนอว่า รัฐบาลควรเร่งพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพื่อประคองสถานการณ์ อาทิ อาจเพิ่มวงเงินให้กับโครงการคนละครึ่งเฟส 2 หรือออกโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ขึ้นมาใหม่ โดยขยายวงเงินจาก 3,500 บาท เป็น 5,000 บาทในช่วง 3 เดือน หรือเพิ่มระยะเวลาโครงการที่กำหนดสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 เพื่อให้เศรษฐกิจยังขับเคลื่อนไปได้
ในสถานการณ์ที่ไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิดรอบใหม่ ที่อาจรุนแรงขึ้น ส่วนตัวยังคงเสนอให้รัฐบาลกู้เงินเพิ่ม 1-2 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันรัฐบาลกู้แล้ว 1 ล้านล้านบาท เพื่อความอุ่นใจ เพราะสถานการณ์ไม่แน่นอน อาจลุกลาม เอกชนห่วงเรื่องนี้มาตลอด การมีเงินอยู่ในมือที่มากพอเพื่อใช้แก้ปัญหาย่อมดีกว่าเงินไม่พอ ขณะที่ดอกเบี้ยในเวลานี้ค่อนข้างถูก หากกู้มาแล้วไม่ใช้ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เป็นภาระมากนัก ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ในวันที่ 6 มกราคมนี้ จะมีการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจอีกครั้ง
ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI กล่าวถึง มาตรการในการระงับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลรอบนี้ ที่งดใช้มาตรการล็อกดาวน์ทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่ให้ท้องที่ออกคำสั่งทางปกครองในการดูแลพื้นที่ของตนเอง แต่หลายคนมองว่า มาตรการที่ออกออกมาก็คล้ายคลึงกับการล็อกดาวน์
โดย ดร.นณริฏ ระบุว่า มาตรการในการระงับการระบาดรอบนี้ คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในแง่มูลค่าภาพรวมเท่ากับรอบที่แล้ว เนื่องจากมีการแบ่งระดับการเฝ้าระวัง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในจังหวัดที่มีการระบาดของโรคน้อย ก็ยังคงทำกิจกรรมได้อยู่ แต่กลุ่มที่น่ากังวลสำหรับ การระบาดรอบใหม่นี้ คือ กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ในช่วงโควิดรอบแรก อาจจะนำเงินทุน เงินออม ที่มีอุ้มธุรกิจไว้ แต่เชื่อว่าในช่วงตั้งแต่ต้นปี2565 เป็นต้นไป อาจจะเห็นผู้ประกอบการขาดทุนจนปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานเพิ่มอีก
นักวิชาการรายนี้ เสนอต่อว่า รัฐบาลต้องนำงบประมาณจากก้อน พรก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ที่ยังคงเหลืออัดฉีดเป็นเงินให้เปล่าอุดหนุนไปยัง พื้นที่จังหวัด หรือพื้นที่รัฐบาลสั่งให้ปิดกิจการ โดยเน้นย้ำว่า จะต้องจ่ายตรง เป็นเฉพาะกลุ่มธุรกิจหรือกลุ่มจังหวัดที่ได้รับผลกระทบสูงสุดก่อน หากจำเป็นต้องให้ความรู้การจำหน่ายสินค้าเป็นรูปแบบเดลิเวอรี่ยังร้านอาหาร รัฐก็ต้องปฏิบัติอย่างทันถ่วงที เพื่อลดผลกระทบของร้านค้า
ด้านสมาคมผู้ค้าปลีกไทยและสมาคมศูนย์การค้าไทย มีข้อสรุปให้ทุกศูนย์การค้ารวมถึงร้านค้าในศูนย์การค้าและร้านค้าภาคีเครือข่าย ยกระดับมาตรการการคัดกรองและเข้มงวดความปลอดภัยสุขอนามัย พร้อมกำหนดปิดทำการเวลา 21.00 น. นับตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2564 เป็นต้นไป
Benz ขอลดภาษีคนละครึ่งด้วยเลยได้มั้ย เหอะๆ ให้ไปแย่งกันอย่างหมา ประชาชนมีกี่คน สมองคิดได้แค่เหมือนพวกซื้อเสียงเลือกตั้งอะ จะทำจริงก็ให้มันทั่วถึง ไม่ใช่เพิ่มเงิน เอาไปทำให้ค่าครองชีพลดลงก็ได้ แต่คงคิดไม่ได้แจกเป็นอย่างเดียว ถุย
05 ม.ค. 2564 เวลา 01.08 น.
Winner แทนที่จะเพิ่มจำนวนคนที่ได้สิทธิ เสือกไปเพิ่มจำนวนเงิน คนที่ลงยังได้ไม่ครบทุกคนเลย พวกนี้มีแต่สมองไว้คนคิด แต่ไม่มีตามีหู ไว้ดูไว้ฟังสิ่งที่ทำ
04 ม.ค. 2564 เวลา 05.03 น.
vayu^;^ งงตรงไม่มีเงินสำรอง พอเวลาแจกหรืแทำอะไร ต้องกู้
เหมือนคนหมุนเงินไม่ทัน ไม่มเงินต้องกู้นอกระบบ เหมือนเเบนี้มัย
04 ม.ค. 2564 เวลา 05.02 น.
pong นายบ่อนนายตำหนวดต้องรับผิดชอบมั้ย
04 ม.ค. 2564 เวลา 05.01 น.
สบายๆ คนมืเงินมืเงินเดีอนได้แล้วได้อืกสุขโขแต่คนจนคนแก่ไม่มืจะแดกรัฐก็แจกให้คนมืเงินคนจนคนแก่จะตายอยู่แล้ว3000 บาทไม่พอจะเอา5000 บาทรัฐคิดได้แค่นื้สงสารคนไทยทื่เป็นคนจนมาเจอแบบนื้ทำมาหากินก็ไม่ได้
04 ม.ค. 2564 เวลา 04.59 น.
ดูทั้งหมด