ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่าอาหารเช้าน่ะสำคัญ แต่นึกไม่ออกว่าสำคัญอย่างไร บางคนไม่กินอาหารเช้ามาเป็นสิบ ๆ ปี ร่างกายก็ยังปกติ ไม่เห็นจะไม่แข็งแรงตรงไหน
ต้องถามก่อนว่าคุณเคยสังเกตตัวเองบ้างหรือเปล่า…หลังจากไม่ได้กินมื้อเช้าแล้ว ในระหว่างวันมีอาการอย่างไรบ้าง เคยอ่อนเพลีย ง่วงงุน หงุดหงิดง่ายไหม ลองคิดดูดี ๆ ถ้าเคย..ก็นี่แหละ คือผลต่อร่างกายที่เราไม่ได้กินมื้อเช้า
คำว่า “มื้อเช้า” ไม่ได้แปลว่ามื้อแรกของวัน แต่มื้อเช้าที่ดี ที่สมบูรณ์ควรรับประทานตอน 7.00 น. หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่ควรเกิน 9.00 น. เพราะเป็นช่วงที่มีการย่อยและดูดซึมของกระเพาะอาหารและม้ามได้ดี เพราะฉะนั้นก็ควรกินอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ของทุกวัน
หลายคนน่าจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า “มื้อเช้ากินอย่างราชา มื้อกลางวันกินอย่างคนธรรมดา และมื้อเย็นกินอย่างยาจก” ซึ่งเป็นการบอกว่าเราไม่ควรละเลยอาหารเช้าแม้จะไม่มีเวลา ตื่นสาย หรือเร่งรีบแค่ไหนก็ตาม
ทีนี้มาดูกันว่าอาหารเช้าที่เหมาะสมและเพียงพอสำหรับร่างกายคนเราต้องแค่ไหน กาแฟหนึ่งแก้ว หรือขนมปังหนึ่งแผ่น หรือไข่ลวกสักใบ จะเรียกว่าเป็นอาหารเช้าได้หรือไม่
หลักของการกินอาหารเช้าที่ดีมีแค่ 3 อย่าง คือ เลือกกิน ไม่ต้องรีบ และกินในปริมาณที่พอเหมาะกับร่างกาย
1. เลือกกิน
การเลือกกินในทีนี้ก็คือ เลือกกินของที่มีประโยชน์ อย่าลืมว่ามื้อเช้าเป็นการเริ่มต้นใหม่ของวัน ถ้าเราไม่เลือกของที่มีประโยชน์ไว้ก่อน มื้อที่เหลือก็คงเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
วิธีก็คือมื้อเช้าไม่ควรมีแป้งกับน้ำตาลมากนัก เพราะดูดซึมได้เร็ว ก็ทำให้หิวเร็ว แต่เราสามารถทดแทนคาร์โบไฮเดรตได้ด้วย ซีเรียลธัญพืชหรือข้าวกล้องได้ อาจเพิ่มวิตามินด้วยผัก-ผลไม้ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ หรือถั่ว ปิดท้ายด้วยนมไขมันต่ำ เช่น นมพร่องมันเนย หรือโยเกิร์ตก็ได้
2. ไม่ต้องรีบ
อย่างที่บอกว่ามื้อเช้าต้องกินอย่างราชา ซึ่งคงไม่มีราชาคนไหนที่ยัดทุกอย่างเข้าปากแบบรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด เป็นราชาก็ต้องค่อย ๆ กิน ค่อย ๆ เคี้ยว ดังนั้นก็ควรให้เวลากับมื้อเช้าอย่างเต็มที่ ไม่รีบเร่งจนเกินไป
3. กินในปริมาณที่พอเหมาะ
นอกจากจะกินแบบไม่ต้องรีบ และเลือกกินแล้ว ต้องกินอย่างพอดีด้วย ที่สำคัญไม่ควรทำกิจกรรมอื่นไปพร้อมกับการกินมื้อเช้า เพราะอาจทำให้กินมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว..รู้ไว้เลย มื้อเช้าต้องกินแต่พอดี ไม่อิ่มเกินไป เพราะจะทำให้จุกและอึดอัดไปตลอดวันได้
จากหลักของการกินอาหารเช้าที่ดี 3 ข้อข้างต้นน่าจะตอบได้แล้วว่า กาแฟหนึ่งแก้ว หรือขนมปังหนึ่งแผ่น หรือไข่ลวกสักใบ ไม่เพียงพอสำหรับการเป็นมื้อเช้าได้เลย ทั้งสารอาหารไม่ครบ และปริมาณก็น้อยเกินไปด้วย
โดยเฉพาะคนส่วนใหญ่ที่ยกให้กาแฟเป็นมื้อเช้า โดยไม่มีอาหารอื่น ๆ เลย ควรต้องรีบเปลี่ยนพฤติกรรมโดยด่วน เพราะการดื่มกาแฟในขณะท้องว่าง มีแต่โทษ ไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลย เพราะกาแฟมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งจะไปทำปฏิกิริยากับกระเพาะอาหารและลำไส้ นอกจากนี้ยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงจนทำให้รู้สึกอยากกินจุบจิบทั้งวัน เมื่อเป็นแบบนี้น้ำหนักตัวก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นได้ด้วย
ทีนี้ก็น่าจะรู้แล้วว่าเราไม่ควรพลาดมื้อเช้าเลยสักวัน งั้นลองมาดูตัวอย่างอาหารเช้าที่เพียบพร้อมครบทั้ง 5 หมู่กันดีกว่า ซึ่งน่าจะเป็นอาหารยอดนิยมของทุกคนเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ ต้มเลือดหมูนั่นเอง แต่จะกินทั้งทีก็ต้องเลือกซะหน่อยตามคอนเซ็ปต์ โดยต้องเลือกต้มเลือดหมูที่ใส่ผักเยอะ เครื่องในน้อย ที่สำคัญอย่าใส่หมูกรอบหรือหมูสามชั้น ไม่ใส่น้ำมันเจียว ไม่ต้องปรุงรส กินกับข้าวกล้อง ปิดท้ายด้วยนมไขมันต่ำขนาดเล็ก แค่นี้ก็จะได้อาหารเช้าที่สุดสตรองเปี่ยมไปด้วยพลังงานแล้ว
Janii อาหารเช้าสำคัญมากค่ะ
24 ก.ย 2561 เวลา 13.03 น.
Mr.Santi ทำงานกางคืน ตื่นก็เกือบเที่ยง จะทำไง
23 ก.ย 2561 เวลา 17.55 น.
กรด ทำไมมันต้อง วุ่นวายน้อ มนุษย์เนี้ย
จะอยู่จะกิน มันช่างวุ่นวาย ต้องนั่นต้องแบบนี้..ฮึ้ยยยยย...
24 ก.ย 2561 เวลา 02.12 น.
ขอบคุณครับ
25 ก.ย 2561 เวลา 03.18 น.
คุณยายสุ จค้ฅ
29 ก.ย 2561 เวลา 07.22 น.
ดูทั้งหมด