เอเจนซีส์ - เจ้าชายแฮร์รีเผย “เสียพระทัยสุดซึ้ง” ที่ต้องสละฐานันดรศักดิ์ แต่ไม่มีทางเลือกอื่นเพื่อแลกกับการใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างสงบสุข ขณะที่สื่อเมืองผู้ดีแย้มควีนเอลิซาเบธทรงประทานพระราชตำหนักฟร็อกมอร์ให้เนื่องจากเกรงว่า ทั้งคู่อาจไม่กลับไปอังกฤษ
เจ้าชายแฮร์รีตรัสกับผู้สนับสนุนมูลนิธิในแอฟริกาของพระองค์เมื่อวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) ว่า ทรงเสียพระทัยอย่างยิ่งที่เรื่องกลายเป็นแบบนี้ นับเป็นการเปิดใจครั้งแรกหลังจากแถลงการณ์จากสำนักพระราชวังบัคกิ้งแฮมเมื่อวันเสาร์ (18) เพื่อยุติวิกฤตการณ์ของราชวงศ์
ดยุกแห่งซัสเซกซ์สำทับว่า พระองค์เตรียมพร้อมมาโดยตลอดในการยุติการรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล แต่ขณะเดียวกันทรงยอมรับว่า มีความกังวลในระดับหนึ่งในการยุติพระกรณียกิจและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างแดน รวมทั้งรู้สึกเจ็บปวดกับการสละยศทางทหารและตำแหน่งต่างๆ ที่ได้มาภายหลังการรับใช้ชาติในการปฏิบัติภารกิจในอัฟกานิสถานสองครั้ง
เจ้าชายแฮร์รีทรงอ่านแถลงการณ์ที่เตรียมมาด้วยท่าทีเคร่งเครียด ขณะขอให้คนอังกฤษที่เคยสนับสนุนพระองค์มาโดยตลอดตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนสับสนและไม่พอใจการตัดสินใจสละฐานันดรศักดิ์ให้เข้าใจพระองค์ และย้ำว่า ไม่มีทางเลือกอื่นเพื่อแลกกับการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับครอบครัว
ทั้งนี้ วิกฤตการณ์ในพระราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งถูกสื่อเรียกขานว่า “เม็กซิต” (Megxit) คราวนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา โดยเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน พระชายา ประกาศโดยไม่ได้ปรึกษาสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งเป็นพระราชอัยยิกาว่า ต้องการ “บทบาทใหม่ที่สร้างสรรค์” และใช้เวลาในอเมริกาเหนือมากขึ้น
ขณะที่ตามแถลงการณ์ของพระราชวังบัคกิ้งแฮมในวันเสาร์ (18) เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาจะยุติการใช้คำว่า His/Her Royal Highness" (HRH) ซึ่งอาจจะเทียบกับทางไทยทว่าไม่ตรงกันนักว่า “สมเด็จเจ้าฟ้า” นำหน้าพระนาม ในทำนองเดียวกับที่เจ้าหญิงไดอานา พระมารดาที่สิ้นพระชนม์ไปแล้วของเจ้าชายแฮร์รีเคยใช้อยู่ ภายหลังทรางหย่ากับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษ ในปี 1996 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ของครอบครัวนี้ที่ทำให้สมเด็จพระราชินีไม่พอพระทัย
นอกจากนั้น ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ยังตกลงคืนเงินภาษีที่ใช้ตกแต่งพระตำหนักฟร็อกมอร์ที่จะใช้เป็นที่พำนักในสหราชอาณาจักร จำนวน 3.4 ล้านปอนด์
ดิกกี้ อาร์บิเทอร์ อดีตเลขาธิการฝ่ายสื่อของราชวงศ์อังกฤษ วิจารณ์ในหนังสือพิมพ์เดอะ ซันฉบับวันอาทิตย์ (19) ว่า ไม่เคยมีสมาชิกราชวงศ์พระองค์ใดคืนเงินภาษีประชาชน แต่ที่ถือเป็นประวัติศาสตร์บทใหม่ของราชสำนักอย่างแท้จริงคือ การยุติการใช้คำว่า “HRH” เพราะแม้กระทั่งในกรณีพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ที่ทรงสละราชสมบัติในปี 1936 โดยที่ต้องเปลี่ยนพระนามจากกษัตริย์เป็นดยุกแห่งวินด์เซอร์ กระนั้นก็ทรงเปลี่ยนคำนำหน้าพระนามจาก His Majesty มาเป็น HRH (HRH the Duke of Windsor) ไม่ได้ตัดทิ้งไปเลย
น้อยคนนักที่จะรู้ว่า เมแกน นักแสดงหญิงอเมริกันที่มีผู้ติดตามจำนวนมากในโซเชียลมีเดีย คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์เคยยอมรับในรายการทีวีของอังกฤษเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วว่า พยายามเก็บงำความรู้สึกแบบคนอังกฤษ ก่อนสำทับว่า นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญของชีวิต
ขณะเดียวกัน เจ้าชายแฮร์รียังตรัสในวันอาทิตย์ (19) ว่า พระองค์รู้สึกว่า พระชายาถูกแท็บลอยด์บางฉบับ “รังแก” เช่นเดียวกับที่เจ้าหญิงไดอานาเคยถูกปาปารัสซี่ไล่ตามกระทั่งประสบอุบัติเหตุสิ้นพระชนม์เมื่อปี 1997 ซึ่งยังตามหลอกหลอนพระองค์จนถึงวันนี้
ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์กำลังฟ้องร้องหนังสือพิมพ์อังกฤษหลายฉบับเมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งรวมถึงหนังสือพิมพ์ที่เผยแพร่บางส่วนของจดหมายที่เมแกนส่งถึงโทมัส มาร์เคิล พ่อที่มีเรื่องหมางใจกัน หลังจากที่เธออภิเษกกับเจ้าชายแฮร์รีในเดือนพฤษภาคม 2018
ด้านโทมัส มาร์เคิล ให้สัมภาษณ์สถานีแชนเนล 5 ของอังกฤษว่า เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนกำลังหลงทาง รวมทั้งยังตำหนิลูกสาวว่า ทำลายความฝันของเด็กผู้หญิงมากมาย รวมทั้งทำร้ายราชวงศ์อังกฤษ
ขณะเดียวกัน หลายคนเริ่มสงสัยว่า ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์จะทำอย่างไรกับค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้อง รวมถึงค่ารักษาความปลอดภัยที่อาจต้องรับผิดชอบเอง
หนังสือพิมพ์เดลิเทเลกราฟรายงานเมื่อวันจันทร์ (20) ว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์อาจยังคงประทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้ทั้งคู่ในปีหน้า
เจ้าชายแฮร์รีนั้นทรงมีเงินฝากหลักล้านดอลลาร์ในบัญชีธนาคาร ส่วนเมแกนมีรายได้ก้อนใหญ่จากอาชีพนักแสดงก่อนหน้านี้ และปัจจุบันกำลังพิจารณาทำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ นอกจากนั้นยังมีข่าวว่า ผู้บริหารเน็ตฟลิกซ์แสดงความสนใจร่วมงานกับดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ในอนาคต
ทางด้านหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์ยังสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ในราชสำนักว่า เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาสามารถทำธุรกิจจากแบรนด์ “ซัสเซกซ์ รอยัล” ที่เพิ่งจดทะเบียนเมื่อเดือนธันวาคมได้หรือไม่ และได้รับคำตอบว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ซึ่งตีความได้ว่า พระราชินียังไม่แน่พระทัย
อย่างไรก็ตาม เดลิเมล์รายงานว่า ระหว่างการเจรจาก่อนหน้านี้ ควีนเอลิซาเบธทรงต้องการให้เจ้าชายแฮร์รีมีที่พำนักที่สะดวกสบายในอังกฤษเพื่อให้พระราชนัดดายังทรงเป็นส่วนหนึ่งในราชวงศ์ ด้วยเหตุนี้ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์จึงตกลงคืนเงินภาษีที่นำมาซ่อมแซมพระตำหนักฟร็อกมอร์ และยังต้องเริ่มจ่ายค่าเช่าและค่าดูแลรักษาพระตำหนักด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ค่าเช่าตามราคาตลาดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ปอนด์ (13,000 ดอลลาร์)
แหล่งข่าวคนหนึ่งเผยว่า แถลงการณ์ระบุชัดเจนว่า พระราชินีทรงประทานพระตำหนักดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ในพระราชวังวินด์เซอร์เพื่อให้เจ้าชายแฮร์รีมีที่พำนักที่สะดวกสบายในอังกฤษ ซึ่งบ่งชี้ว่า พระองค์ทรงเกรงว่า ทั้งคู่อาจไม่กลับไปพำนักในอังกฤษบ่อยนัก
เป็นบุญวาสนาแค่ไหนที่เกิดมาเป็นราชวงศ์ สามารถช่วยเหลือคนอื่นๆและทำประโยชน์ได้อีกมากมาย แต่เลือกที่จะเชื่อเมีย ผู้ซึ่งหัวสมัยใหม่เกินไป ต่อให้รักแค่ไหนก็ควรจะมีขอบเขต เมียที่ดีควรจะเป็นช้างเท้าหลัง support สามี ให้สามีและครอบครัวมีแต่ความเจริญ เข้าใจแล้วว่าทำไมเธอเคยหย่าร้าง ทำไมมีปัญหากับครอบครัว ทำไมชาวอังกฤส่วนใหญ่แอนตี้เธอ
20 ม.ค. 2563 เวลา 15.55 น.
Aイイんムアんノ乃Yム พระองค์. อยุ่ใต้ คำสั่งเมีย. ก้อเปนแบบนี้แหละ.
20 ม.ค. 2563 เวลา 15.50 น.
chuanchom ได้เมียที่นำความขัดแย้งมาให้ตัวเองและราชวงค์
20 ม.ค. 2563 เวลา 16.22 น.
Winita🌿Hong สกุลกา เป็นอย่างนี้เอง ดึงเจ้าชายลงคลุกดิน
20 ม.ค. 2563 เวลา 16.25 น.
RurouniX เมียกาก
20 ม.ค. 2563 เวลา 16.24 น.
ดูทั้งหมด