"ธนาธร" เมินกระแสสาดโคลน ขอสู้ด้วยความจริง

"อนาคตใหม่" เปิดตัว ผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค 6 เขต "ธนาธร" ชี้กระแสความนิยมดีขึ้นทุกวัน ทำให้ชนชั้นปกครองผู้มีอำนาจเก่าใช้การสาดโคลน สร้างคำลวง สร้างข่าวเท็จ โดนมาหมดแล้ว ลั่นไม่ยอมแพ้ ขอสู้ด้วยการเมืองสร้างสรรค์ ความจริง หลักการอันถูกต้อง

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ก.พ. ที่สนามกีฬา รร.ประชานุเคราะห์ จ.นครสวรรค์ พรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค นายสุนทร บุญยอด กรรมการบริหารปีกแรงงาน น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค นายรังสิมันต์ โรม ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค ร่วมเวทีปราศรัยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ในจังหวัดทั้ง 6 เขต ท่ามกลางประชาชนนับพันคนที่มาร่วมฟัง

นายธนาธร กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่เป็น 1 ในไม่กี่พรรคการเมืองที่สามารถส่งผู้สมัครลงครบทั้ง 350 เขต ตลอดระยะเวลา 11 เดือนในการเดินทางของพรรค คือผลพวงจากทำงานอย่างหนักของทีมงานทุกคน ทั้งหมดไม่มีใครเข้ามาทำงานกับพรรคเพราะผลประโยชน์ นั่นเพราะเราไม่มีให้ แต่สิ่งที่เรามีให้มีเพียงความฝันร่วมกันที่อยากจะเห็นประเทศไทยดีกว่านี้ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เราเติบโต มีทีมงานที่เข้มแข็งทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ นี่คือพรรคการเมืองที่เราอยากเห็น พรรคการเมืองที่สมาชิกทุกคนร้อยรัดกันด้วยอุดมการณ์ ร้อยรัดกันด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำเพื่อประชนอย่างแท้จริง ผู้สมัครทุกคนของเราคือคนธรรมดา ที่รู้สึกว่าทนต่อไปไม่ไหวแล้วกับสภาพบ้านเมืองที่เป็นอยู่ พอกันที ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ซึ่งตอนนี้ กระแสของพรรคอนาคตใหม่ดีขึ้นเรื่อยๆ ดีขึ้นทุกวัน ทำให้ชนชั้นปกครองผู้มีอำนาจเก่าไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร ซึ่งสิ่งที่เขาทำก็คือใช้การเมืองแบบเก่ามาจัดการพวกเรา ด้วยอิทธิพล ด้วยการข่มขู่ และการเมืองแบบเก่าที่ใช้การสาดโคลน สร้างคำลวง สร้างข่าวเท็จ ซึ่งตนเองคงไม่ต้องพูดว่ามีอะไรบ้าง เพราะโดนมาแล้วเต็มไปหมด

“วิธีการที่จะต่อสู้กับข่าวลวง คำโกหก การใส่ร้ายป้ายสี คำพูดจาที่ทำให้ประชาชนเกลียดชังกัน สำหรับพรรคอนาคตใหม่เชื่อว่ามีอยู่ทางเดียวเท่านั้นคือ การต่อสู้ด้วยความสร้างสรรค์ ด้วยความจริง และหลักการอันถูกต้อง ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชนชั้นปกครองใช้วิธีใส่ร้ายป้ายสีแบ่งฝักแบ่งฝ่ายประชาชน เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว เมื่อ 6 ต.ค.2519 เมื่อ พ.ค.2535 เพราะเมื่อประชาชนเกลียดชังกันเองเมื่อไหร่ พวกเขาจะใช้เป็นข้ออ้างให้ทหารเอารถถังมายึดอำนาจ และบอกว่าประชาธิปไตยคือต้นเหตุของปัญหา ทหารซึ่งเป็นเครื่องมือของชนชั้นปกครองคือทางแก้ คือทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ชาวอนาคตใหม่ต้องต่อสู้ด้วยความสร้างสรรค์ ด้วยความจริง และด้วยหลักการอันถูกต้อง เราไม่ยอมแพ้การเมืองแบบเดิมๆ หัวจิตหัวใจเราแข็งแกร่งเกินกว่าที่เครื่องมือเหล่านี้จะทำลายเราได้ ไม่ทำให้จิตใจที่รักความเป็นธรรมของเราเปรอะเปื้อน เราจะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง การเมืองของเผด็จการคือการเมืองแห่งความกลัว พรรคอนาคตใหม่อยู่ตรงข้ามกับการเมืองแห่งความกลัว นั่นคือการอยู่บนการเมืองแห่งความฝัน คือ ฝันว่าเราจะเห็นการเมืองที่ดีกว่า เป็นธรรมกว่า เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประชาชน" นายธนาธร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า ประชาธิปไตยอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน และมีอำนาจเลือกผู้บริหารประเทศ ดังนั้น จึงสัมพันธ์กับปัญหาปากท้องอย่างแยกไม่ได้ เพราะถ้าเรามีรัฐบาลจากการยึดอำนาจ เขาจะบริหารประเทศแบบไม่เห็นหัวประชาชน เพราะประชาชนไม่ได้เลือกมา แต่ถ้ามีรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน การบริหารประเทศต้องฟังเสียงของประชาชน ที่ว่าสัมพันธ์กันเพราะว่าถ้าพี่น้องท้องหิว ต้องหาเช้ากินค่ำ คงไม่มีเวลาขบคิดเรื่องการเมือง ไม่มีเวลาตรวจสอบรัฐบาล ไม่มีเวลาเรียกร้องเรื่องต่างๆ ดังนั้น ประชาธิปไตยจึงเกี่ยวกับเรื่องปากท้องอย่างแยกไม่ได้ แต่วันนี้ประชาธิปไตยเราถูกยึดไป จึงต้องทวงคืนกลับมา โดยการ ยุติ 3 เรื่องคือ 1 ยุติอำนาจของ คสช. 2.ยุติวงจรรัฐประหารด้วยการล้มล้างผลพวงรัฐประหาร และ 3 ยุติการเมืองแบบเก่าเพื่อไม่ให้ทหารใช้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจ

"สำหรับเยาวชนคนหนุ่มสาวที่เดินทางมากมายในวันนี้ มีคนค่อนขอดว่ามาตามกระแสฟ้ารักพ่อ ซึ่งคนที่พูดอย่างนี้ คือ คนที่ดูถูกเยาวชนคนหนุ่มสาว แต่จากที่พรรคอนาคตใหม่ได้ไปพบปะ ได้พบว่าพวกเขาไม่ได้สนใจเพียงเพราะรูปร่างหน้าตาของหัวหน้าพรรคเท่านั้น กระแสฟ้ารักพ่อเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคลื่นความคิดของคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศ พรรคอนาคตใหม่อยากให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้ท้าทายต่อคำดูถูกนี้ ออกมาแสดงพลังว่าว่าเราสนใจการเมือง ยุติรัฐธรรมนูญปี 60 ยุติ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่เราไม่ได้มีส่วนร่วม เราคนหนุ่มสาวมีความชอบธรรมที่จะบอกว่า พอกันทีกับมรดกที่เขาจะส่งมอบมาให้ การคนรุ่นใหม่สนใจการเมืองนี่คือมิติใหม่ อยากให้ใช้การเลือกตั้งครั้งนี้พลิกมิติประเทศ คนรุ่นใหม่ 7.5 ล้านคน ถ้าออกมาใช้สิทธิ์เกินครึ่งหนึ่ง เท่ากับว่า คนรุ่นใหม่มีอำนาจกำหนด ส.ส. 1 ใน 5 ของสภา แต่ถ้ามาทั้งหมดก็คือครึ่งหนึ่งของสภา ดังนั้น ขอให้ออกมาแสดงพลังให้คนที่ดูถูกเราได้เห็น เลือกพรรคอนาคตใหม่เปลี่ยนแปลงประเทศนี้" นายปิยบุตร กล่าว

ด้าน นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ขอเชิญชวนชาวนครสวรรค์เลือกพรรคอนาคตใหม่ร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศ ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาหลายปี ตนต่อสู้เพื่อเรียกร้องประขาธิปไตยได้รับผลกระทบมากมาย แต่จะไม่หยุดยั้ง ครั้งนี้ บทบาทเปลี่ยนไปคือเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ เพราะต้องการเข้าไปแก้ไขโครงสร้างของประเทศไทย ทวงคืนประชาธิปไตยจากการยึดอำนาจ คสช. พรรคอนาคตใหม่คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ในประเทศนี้ได้ หากไม่ได้รับความเมตตาจากพี่น้องประชาชนทุกคน และหากประชาชนที่มาในวันนี้มีจุดยืนเดียวกัน วันที่ 24 มีนาคมร่วมกันกาพรรคอนาคตใหม่ เพื่อสร้างอนาคตใหม่ไปพร้อมกัน