/ซีน นี้ มา -ว่าด้วยการหยิบยกซีนหรือฉากหนังบางฉาก มาขยายความน่าสนใจให้ใหญ่ขึ้น
เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ - นักเขียนบทภาพยนตร์ นักเขียน และผู้กำกับภาพยนตร์ที่มัก เล่าเรื่องที่ถนัดในการเล่า เรียกได้ว่าเขาเป็นคนที่พลิกวงการทำ ‘หนังนอกกระแส’ ที่ ‘คนในกระแส’ ก็สามารถดูได้ เริ่มจากการเขียนบทหนังสั้นในเวที Fat Film Festival ต่อมาอีกหลายเรื่องที่เขามีโอกาสร่วมเขียนบทภาพยนตร์อย่าง รถไฟฟ้า มาหานะเธอ , Top Secret วัยรุ่นพันล้าน และตามมาด้วยผลงานกำกับแบบเต็มตัวที่เรากระหายอยากรู้ว่า คอนเซปต์ในเรื่องต่อไปมันจะเป็นยังไงได้อีก พี่เต๋อจะเอาไดอะล็อคไหนที่ตรงกับช่วงชีวิตฉันมาใส่ในหนังเรื่องหน้าอีก ด้วยสไตล์ที่ชัดเจน บทสนทนาที่เข้าปาก ดูเป็นธรรมชาติ ทำให้ความรู้สึกตอนดูมันใกล้ตัวมากๆ จนมาเป็นผู้กำกับที่เริ่มมีชื่อเสียงในวงกว้างขึ้นในปัจจุบัน
.
‘เราจะเล่าเรื่องจากมุมที่ถนัด และมีความรู้หรือมี passion กับมัน’
ตั้งแต่ Mary is happy, Mary is happy ที่ทำให้เรารู้จักเขา ไอเดียมันชัดมากๆ จากการเอาข้อความทวิตเตอร์ของผู้หญิงคนนึงมาร้อยเป็นเรื่องในแบบของเต๋อ ทำให้เราเริ่มเข้ามาในวงการดูหนังอีกใบ หนังในแนวทดลอง หนังที่ส่วนมากสร้างมาจากไดอาล็อกในชีวิตจริง ซีนที่เค้าเคยพบเจอตามถนน หนังที่ลงทุนสร้างไม่มากแต่สร้างความอิมแพ็คในใจเทียบเท่าได้กับหนังบู๊ล้างผลาญแบบจัดหนัก และอีกสิ่งที่เป็นเรื่องขำๆ เล็กๆ ของเขาคือ พี่เต๋อเป็นผู้กำกับที่ขึ้นชื่อว่า ถ้าไปใช้ Location ที่ไหนในการถ่าย ก็ต้องโดนทุบ โดนปิดมาแล้วทั้งนั้น ถึงกับโดนแซวเลยว่า ‘เต๋อทุบตึก’
.
ซีน นี้ มา ในอาทิตย์นี้ ขอไล่ลำดับหนังเต๋อ ให้ทุกคนได้รู้จักผู้กำกับคนนี้ ผ่านหนังที่เขาทำ ‘จริงๆ’ ด้วยความตั้งใจ ‘จริงๆ’ ในการนำเสนอคอนเซปต์ที่ไม่เหมือนใคร และคงโดนใจใครบางคน ‘จริงๆ’ บ้างแหละ ;)
36 (2555)
'บางอย่างพอไม่มีรูปแล้ว ก็เหมือนมันไม่เคยมีอยู่จริง'
เรื่องราวของ คนหาโล(เคชั่น) ที่ทำฮาร์ดดิสก์พัง ข้อมูล-รูปภาพ-ความทรงจำในนั้น ก็ดูเหมือนจะหายไปด้วย เป็นหนังที่พูดถึงความอนาล็อคและดิจิตอลได้อย่างธรรมชาติมากๆ เล่าผ่านช็อต 36 ช็อต(ตามชื่อหนัง) โดยแต่ละช็อตจะตั้งกล้องนิ่ง แต่ตัวละครมีมูฟเม้น ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ อาจจะสนุกยากสำหรับบางคน จี๊ดใจสำหรับบางกลุ่ม หนังเว้นช่องว่างให้คิด ว่าเหตุการณ์ในระหว่างที่หายไปนั่นคืออะไร ทำให้มันใส่ความรู้สึกของเราเข้าไปในหนังได้ด้วย พี่เต๋อทำมันออกมาได้ดีมากๆ
Mary Is Happy , Mary Is Happy (2556)
มันคือหนังที่ทำให้เราเริ่มเปิดหูเปิดตากับหนังนอกกระแส จำได้ว่าช่วงนี้บ้าใส่ชุดให้เหมือนแมรี่อยู่ช่วงนึง
เรื่องราวสุดว้าวุ่นผ่านทวิตเตอร์ ของแมรี่ มาโลนี ที่ยิ่งดูยิ่งต้องร้องว่า ‘ชีวิตคนเราแม่งมั่วสัด’ แต่พอดูจบแล้วอาจจะพูดกับตัวเองก็ได้ว่า ‘ชีวิตเรามันก็เหมือนแมรี่เหมือนกันวะ’ บางอย่างในชีวิตเราก็ทำไปอย่างไร้เหตุผล บางอย่างในชีวิตบังคับให้เราทำมันอย่างไม่ตั้งใจ เราเลือกจังหวะไม่ได้ แต่นั่นแหละคือชีวิตจริง
The Master (2557)
‘The Master’ แว่น วิดีโอ หนังสารคดีผ่านการนำเสนอแบบ ‘Talking Head หรือภาพระยะใกล้ของบุคคลที่พูดคุยกันเป็นระยะเวลานาน’ เช่น คนนั้นบอกว่า… คนนี้เคยพูดไว้ว่า…. ชวนให้เราฉงน สงสัย อยากรู้ อยากเห็นมากขึ้นก็เรื่องราวเหล่านั้น หนังเปิดหูเปิดตาให้เรารู้จักตำนาน ร้านพี่แว่น คนลึกลับคนนี้(ที่เราเกิดไม่ทัน) ที่มีร้านวิดีโอเถื่อน รวบรวมหนังจากทั่วทุกมุมโลกให้คนไทยได้รู้จักมันมากขึ้น ในช่วงเวลาที่ยังไม่มีโรงหนังเฮ้าส์อาร์ซีเอ หรือแม้กระทั่งลิโด้เอาไปฉาย โดยคนให้สัมภาษณ์คือผู้คนในวงการหนังในเมืองไทยอย่าง เป็นเอก รัตนเรือง , ทรงยศ สุขมากอนันต์ และอีกมากให้เราได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังไปพร้อมๆ กัน
ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย..ห้ามพัก..ห้ามรักหมอ (2558)
‘ทำงานจนลืมใช้ชีวิต’
ชีวิตของฟรีแลนซ์หนุ่มคนนึง ที่ทำงานหนักจนร่างกายมันฟ้องว่า ‘หยุดทำงานได้แล้วโว้ย!’ จนต้องไปหาหมอ และเริ่มตกหลุมรักหมอที่รักษาเขาขึ้นมา บทส่วนนึงสร้างมาจากเสี้ยวหนึ่งในเรื่องจริงของพี่เต๋อ ที่ร่วมงานกำกับกับค่ายใหญ่ครั้งแรก GTH (แต่ก่อนเคยร่วมเขียนบทด้วยเฉยๆ) สร้างปรากฎการการเปลี่ยนมุมมองจาก ‘หนังนอกกระแส’ ของผู้กำกับอินดี้ มาให้ ‘คนในการแส’ ดูได้ง่าย ไม่งง แอบขำ และลดกำแพงกับหนังนอกกระแสไปในตัว
Die Tomorrow (2560)
‘24 ชั่วโมงก่อนตาย มันก็คงเป็นวันธรรมดาๆ วันนึง’
หนังสั้น 6 เรื่องที่พูดถึงความตายในรูปแบบต่างกัน ที่พี่เต๋อเคยให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้เหมือนเป็นหนังส่วนตัวก่อนตาย ที่อยากเปิดในงานศพของตัวเอง มันจึงเป็นหนังที่เค้าค่อนข้างภูมิใจและลงใจไปกับมันมาก เหมือนกับว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสุดท้ายของเขา เรียกได้ว่าเรื่องนี้รวบรวมนักแสดงที่เคยทำงานกับพี่เต๋อมาแล้วทั้งหมด ช่วยให้เรื่องนี้ยิ่งแน่นไปด้วยความเรียลของตัวละครและบทอย่างที่สุด
BNK48: Girls Don't Cry (2561)
ด้วยรางวัลการันตี Best Documentary Feature Award ที่เทศกาล See the Sound – Soundtrack Cologne เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมันในอาทิตย์ที่ผ่านมา กับหนังที่ทำให้พี่เต๋อ มีแฟนคลับถึงกับแซวว่า ‘นวพลแมสแล้ววะ!’ เป็นหนังสารคดีตามติดชีวิตเกิร์ลกรุ๊ปขวัญใจโอตะ BNK48 รุ่นแรก ที่จะมานั่งหน้าเลนส์เล่าชีวิตแบบเจาะลึกถึงการเป็น ‘ไอดอล’ ความน่ารักสดใสที่เราเห็นกันทั่วไป แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังนั้นยากลำบาก ทรมานหัวใจ การเป็นไอดอลหรือคนตัวอย่างให้ทุกคนได้ชื่นชม มันมาจากความขื่นขมจากทั้งในทีมกันเอง ความกดดันจากภายนอก และการต่อสู้กับ 'ความคิดของตัวเอง' มันคือการต้องเติบโตอย่างฉับพลัน ที่สาวๆ BNK48 จะได้เจอ
Happy Old Year (ชื่อยังไม่เป็นทางการ) (2562)
และเรื่องล่าสุดของปีนี้ เต๋อได้เปิดตัวหนังที่มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า Happy Old Year โดยเนื้อเรื่องก็ดึงความสนใจเราได้เช่นเดิม เป็นเรื่องราวของการจัดบ้านของผู้หญิงคนหนึ่ง เธอต้องเก็บบางสิ่ง ทิ้งบางอย่าง และเอาของไปคืนบางคน เป็นเรื่องราวที่ธรรมดาแต่ทำให้เรารู้สึกมีจุดร่วม กับคนแสดงเดิมอย่าง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ , ออกแบบ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง และอีกคับคั่ง กำหนดเข้าฉายเดือนธันวาคมนี้ แฮปปี้รับปีใหม่แน่ๆ ;)
.
ทำงานที่สนุกสนุก และไม่จำเป็นต้องพิชิตใจทุกคนก็ได้
มีคนซักกลุ่มนึงที่เข้าใจ มันก็โอเคแล้ว - เต๋อ นวพล
.
kunk909 สรุปว่า หนังแนวนี้บางคนดูแล้วรู้สึกเหมือนไร้สาระ เป็นหนังที่ผสมผสานระหว่างไดอาล้อกจากชีวิตจริงบวกแนวอีโรติค ผู้กำกับมันอยู่คนเดียวแต่คนดูอาจไม่อินด้วย หนังจบแล้วคนดูจะเป็นงงๆ เป็นหนังที่ไม่ค่อยทำเงิน
07 ก.ย 2562 เวลา 00.39 น.
poo 🔹🔹🔷รับด่วน🔷🔹🔹
ขอคนที่รับผิดชอบงานจริงๆ (เพราะไม่มีเจ้านาย)ดูแลลูกค้า
ทำงานในอ๊อฟฟิต หรือ รับมาทำที่บ้านได้
#เป็นบริษัทจากอเมริกา
*งานถูกต้องตามกฏหมาย*
*⭕️คุณสมบัติผู้สมัคร⭕️
1. รับอายุ 18-60 ปี (ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา)
2. รับทั้งชายและหญิง หรือเพศที่สาม
3. ขยัน/รับผิดชอบงาน/ ตั้งใจจริงๆ
*** part time
** Full time
#รายได้ 18,000-30,000/เดือน หรือมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความขยัน
🔴อยู่กรุงเทพรับเป็นพิเศษ🔴
สนใจงานแอด Line ID : @gmt9811n (ใส่@ด้วย)
06 ก.ย 2562 เวลา 17.30 น.
ดูทั้งหมด