น้ำตาคลอ! ความพยายามตั้งท้อง 3 ปีกับ "แม่แท้ ๆ" ที่มาช่วยอุ้มบุญให้กับลูกสาวคนนี้ - ดีกับใจ

ความรักและอดทนที่ยิ่งใหญ่ของ 'ว่าที่' คุณแม่คนนี้ กับความเสียสละที่มีค่ากว่าสิ่งอื่นใดของคุณแม่ของเธอ คือสิ่งที่ทำให้เรื่องราวของ บริอานา ล็อกวูด พิเศษเอาซะมาก ๆ 

เธอกับสามีแต่งงานกันมา 3 ปีและทั้งคู่ก็พยายามที่จะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบด้วยการมีเจ้าตัวน้อย แต่ก็เป็นเวลา 3 ปีหลังจากนั้นที่บริอานาต้องใช้ความอดทนทั้งกายและใจอย่างมาก เพราะเธอเป็นโรค Asherman Syndrome หรือภาวะที่โพรงมดลูกเป็นพังผืด ทำให้เธอไม่สามารถตั้งท้องเองได้และต้องพึ่งวิธีทางการแพทย์อย่างการทำ IVF (ผสมเด็กหลอดแก้ว) และหาคนอุ้มบุญที่จะมาช่วยให้เธอกลายเป็นคุณแม่ดั่งใจหวัง

บริอานาเริ่มต้นเล่าประสบการณ์ของเธอในอินสตาแกรม @ivf.surrogacy.diary ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017 เธอเริ่มฉีดกระตุ้นไข่เพื่อเตรียมตัวสำหรับขั้นตอนต่อไป และสถานที่ ๆ เธอเลือกที่จะฝังเข็มแรกลงไปคือที่ Disney World ระหว่างงานปาร์ตี้สละโสดของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง 

ถึงผลการเก็บไข่จะออกมาน่าพอใจแต่เมื่อมาถึงขั้นตอนของการฝังไข่ที่ผสมแล้วเข้าไปในร่างกายของเธอ บริอานากลับต้องเจอกับความผิดหวัง "ฉันโง่จริง ๆ ที่คิดว่าครั้งแรกมันจะผ่านฉลุย…ฉันคงมั่นใจเกินไปและยังไม่รู้จักกับสิ่งนี้ดีใช่ไหม?" เธอเขียนระบายความในใจไว้ในโพสต์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2017 1 วันหลังคริสต์มาสซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอรอคอยข่าวดีมากที่สุด..

ความผิดหวังไม่ได้กระแทกใจเธอเพียงแค่ครั้งเดียว แต่ผู้หญิงที่วาดฝันอยากเป็นคุณแม่คนนี้กลับต้องพยายามอีกในครั้งที่ 2 กับผลลัพธ์ที่ล้มเหลวพร้อมกับการจากไปของคุณตาผู้เป็นที่รักของเธอในช่วงเวลาเดียวกัน 

ครั้งที่ 3 เริ่มส่งสัญญาณที่ดีและมอบความหวังให้เธอกับสามี เมื่อคุณหมอพบว่าเธอตั้งท้องลูกแฝด แต่หลังจาก 10 อาทิตย์ผ่านไป เธอกลับมานั่งในห้องตรวจอีกครั้ง ครั้งนี้คุณหมอกลับอุลตร้าซาวด์หาคลื่นหัวใจของเด็กทั้งสองในครรภ์ของเธอไม่เจอ 

บริอานาแท้งลูกแฝดและเหตุการณ์ที่เธอเผชิญก็ทำให้หัวใจของเธอแหลกสลาย

ความอดทนและความพยายามที่จะตั้งท้องด้วยตัวเองจบลงด้วยการฝังไข่ 7 ครั้ง ล้มเหลว 4 ครั้งและแท้งไปอีก 3 ครั้ง นี่ยังไม่นับจำนวนเข็มฮอร์โมนมากกว่า 400 เข็มที่เธอต้องจิ้มฉีดท้องตัวเอง น้ำตาไม่รู้กี่ล้านหยด กับระยะเวลาที่รอคอยมานานกว่า 3 ปีครึ่ง ในที่สุดบริอานาและสามีเลยเลือกหนทางที่ดูให้ความหวังกับทั้งคู่ได้มากกว่าเดิมซึ่งนั่นก็คือการหาคนอุ้มบุญให้ 

พวกเขาขายบ้านแล้วย้ายกลับไปอยู่กับพ่อแม่ของบริอานาเพื่อเก็บเงินส่วนนี้ไว้ใช้จ่ายสำหรับการอุ้มบุญแทน และทั้งคู่ก็เริ่มต้นปรึกษาคุณหมอและคัดเลือกบุคคลที่จะมาช่วยอุ้มครรภ์ให้ "หลังจากที่ฉันได้คุยกับหลาย ๆ คนที่เสนอให้ความช่วยเหลือ ฉันรู้สึกช็อกมากที่มีผู้หญิงที่แสนใจดีที่พร้อมจะเสียสละและมอบของขวัญชิ้นล้ำค่าให้กับเราทั้งสอง มีคนส่งข้อความมาหาฉันเยอะมาก แต่หลังจากที่เราทั้งคู่ได้คุยและคัดคนที่จะมาช่วยเราได้จริง ๆ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ ฉันก็เจอ perfect match แล้ว"

บริอานาประกาศผ่านไอจีของเธออีกครั้งว่าคนที่จะมาช่วยอุ้มครรภ์ให้ไม่ใช่คนอื่นคนไกลแต่เป็น "คุณแม่แท้ ๆ" ของเธอเอง

"แม่ของฉันอายุ 51 แล้วและแกก็ต้องผ่านการทดสอบมากมายเพื่อเช็กว่าเธอเหมาะสมที่จะอุ้มครรภ์ในอายุนี้หรือไม่ ตอนเริ่มต้นขั้นตอนทั้งหมด ฉันถูกปฏิเสธมาครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะอายุของคนอุ้มครรภ์สูงสุดอยู่ที่ 45 แต่แม่ของฉัน คนที่ผ่านมาราธอนที่บอสตันมาแล้ว 2 ครั้ง การแข่งไตรกีฬาอีก และที่สำคัญคือเธอยังดูเด็กมาก ๆ เหมือนเป็นพี่สาวฉันมากกว่า เอาจริงนะ สุขภาพของเธอดีกว่าตอนอายุ 20 ที่เธอคลอดฉันซะอีก 

พอหมอเห็นคอนดิชั่นต่าง ๆ ในตัวของแม่แล้ว เขาเลยลองเทสต์เธอและบอกว่าถ้าแม่ผ่านการทดสอบทั้งหมด เขาจะลองเสนอบอร์ดให้เซ็นยินยอม และวันนี้ก็คือวันครบรอบ 12 สัปดาห์ของเจ้าตัวน้อย

แม่ของฉัน เพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตของฉัน กำลังอุ้มหลานตัวน้อย ๆ ในครรภ์ของเธอ และนั่นก็คือลูกรักของฉันเอง"

ความรักและเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของแม่กลายเป็นคำตอบของเรื่องนี้ หลังจากที่บริอานาแชร์เรื่องราวของเธอออกไปเมื่อ 3 วันที่แล้ว เธอก็ได้รับกำลังใจอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะจากว่าที่คุณแม่ที่กำลังพยายามสร้างชีวิตใหม่เหมือนกับเธอเมื่อ 3 ปีก่อนหน้า : )

อ้างอิง

เรื่องและรูปภาพจากอินสตาแกรม @ivf.surrogacy.diary