ทั่วไป

"สหรัฐฯ-จีน" เปิดศึกปมฮ่องกงกลางเวที 'ยูเอ็นเอสซี'

มติชนสุดสัปดาห์
อัพเดต 14 ธ.ค. 2563 เวลา 10.19 น. • เผยแพร่ 28 พ.ค. 2563 เวลา 02.27 น.

วันที่ 28 พฤษภาคม 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหรัฐฯและจีนได้เปิดหน้าชนกันต่อประเด็นสถานการณ์ในฮ่องกงกลางในที่ประชุมองค์การสหประชาชาติ หลังจากที่รัฐบาลจีนไม่ยอมให้รัฐบาลสหรัฐฯยื่นญัตติเข้าที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคง (ยูเอสเอสซี) เพื่อหารือต่อประเด็นฮ่องกงหลังจากที่สภาประชาชนจีนผลักดันกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เพื่อใช้ควบคุมฮ่องกงให้หนักขึ้นเพื่อตอบโต้การลุกฮือต่อต้านรัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์อย่างเปิดเผยของชาวฮ่องกงที่รวมตัวประท้วงตั้งแต่มิถุนายนปีที่แล้ว และเกิดการรวมตัวประท้วงอีกครั้งหลังจากมีการผลักดันกฎหมายดังกล่าว รวมถึงเมื่อวานนี้ที่มีการชุมนุมคัดค้านสภานิติบัญญัติที่จะพิจารณากฎหมายเพลงชาติจีนเพื่อจัดการคนดูหมิ่นเพลงชาติจีน

โดยทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็นกล่าวในแถลงการณ์ว่า ประเด็นฮ่องกงเป็นปัญหาน่ากังวลอย่างเร่งด่วนระดับโลกซึ่งส่งผลต่อสันติภาพและความมั่นคง จึงขอเสนอเพื่อให้ 15 ชาติสมาชิกให้ความสนใจ อย่างไรก็ตาม จาง จุน ทูตจีนประจำยูเอ็นได้ออกมาตอบโต้ผ่านทวิตเตอร์ว่า ขอปฏิเสธคำร้องขอที่ไม่มีมูลความจริงอย่างเด็ดขาด เพราะกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของจีนต่อฮ่องกงเป็นเรื่องภายในและไม่มีความเกี่ยวข้องต่อข้อปฏิบัติของยูเอ็นเอสซี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คำร้องของสหรัฐฯครั้งนี้ เป็นความต่อเนื่องหลังเกิดความตึงเครียดระหว่างสองรัฐบาลชาติมหาอำนาจจากกรณีการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส โดยรัฐบาลสหรัฐฯตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดที่จีนออกมาปกปิดข้อมูลการระบาดช่วงแรกที่เกิดขึ้นในเมืองอู่ฮั่น แม้จีนจะออกมาชี้แจงว่าการรับมือการระบาดมีความโปร่งใส

สหรัฐฯยังกล่าวว่าท่าทีปฏิปักษ์ของจีนต่อเวทียูเอ็นเอสซีในเรื่องฮ่องกงมาคู่กับประเด็นการปกปิดและความไร้สามารถในการรับมือการระบาดของโควิด-19 ถือเป็นการละเมิดต่อความแน่วแน่ในสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และยังรวมถึงพฤติกรรมละเมิดกฎหมายในกรณีพิพาททะเลจีนใต้ จึงเห็นได้ทั้งหมดนี้ จีนไม่ปฏิบัติตัวให้สมกับเป็นชาติสมาชิกยูเอ็นที่มีความรับผิดชอบ

จากนั้นทูตจางได้ออกมาตอบโต้ว่า ความจริงที่ย้ำแล้วย้ำอีกว่า สหรัฐฯเป็นตัวก่อปัญหากับโลก และเป็นสหรัฐฯเองที่ละเมิดข้อปฏิบัติภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ จีนจึงขอเรียกร้องให้สหรัฐฯหยุดแสดงอำนาจทางการเมืองและการกลั่นแกล้งทันที

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทั้งนี้ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวกับสภาคองเกรสวานนี้ว่า ฮ่องกงจะไม่ได้มีคุณสมบัติในการได้รับสถานะพิเศษภายใต้กฎหมายสหรัฐฯเนื่องจากจีนกำลังบั่นทอนหลักปกครองตนเองของฮ่องกง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการเงินโลก

 

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 10
  • Taa Lee
    ทรัมป์แค่อยากเป็นฝ่ายถูกเท่านั้นแหละ ทำ แบบนี้ผิดกับเด็กมีเรื่องแล้ววิ่งไปฟ้องพ่อแม่ตรงไหน
    28 พ.ค. 2563 เวลา 11.19 น.
  • Sing
    พี่ทอน. พี่ช่อ. อ.ปิยบุตร. เนติวิ. เพนกวิน ท่ียังไม่ไดกล่าวนามโปรดไปรายงานตัวด่วน. ฮ่องกงนะ
    28 พ.ค. 2563 เวลา 10.26 น.
  • เมกาเล่นเกมบีบ มึงต้องเล่นเกมถอยบ้าง ทำแบบนี้มีแต่พัง ทั่วโลกต้องมารับกรรมกับพวกมึงไม๊ โลกตอนนี้มันเชื่อมโยงกันหมด ไม่มีใครหนีกันไปได้หรอก แค่โรคก็แย่ละ ยังจะกัดกันอีก
    28 พ.ค. 2563 เวลา 09.39 น.
  • อมรเชษฐ์
    สหรัฐ สมควรกระทำการยังยั้งการขยายอาณานิคมของจีน แต่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับฮ่องกงโดยตรงควรให้คนฮ่องกงเจรจาปรองดองให้สำเร็จเพราะฮ่องกงคือประเทศจีน
    28 พ.ค. 2563 เวลา 04.42 น.
  • Damm Panichkul
    กูงง,ฮ่องกงเป๊นเกาะเล็กๆ,ไม่มีบทบาทในเวทีการเมืองโลก,ไม่มีกำลงทางทหารและอาวุธนิวเคลียร์,เต่ไอ้กันบอกว่าเหตุการณ์ในฮ่องกงมีผลต่อความมั่นคงและสันติภาพของโลกได้ไงวะ,barking dog seldom bite.🤣🤣🤣🤣
    28 พ.ค. 2563 เวลา 04.38 น.
ดูทั้งหมด