ความบังเอิญแบบจับพลัดจับผลูพาตัวฉันให้มาอยู่ที่จังหวัดสุดปลายขวานของประเทศไทย เพราะเพียงลำพังตัวฉันยังไม่ค่อยจะเชื่อว่าจะพาตัวเองมาถึงที่นี่จนได้ทั้งๆ ที่ใจยังนึกหวั่นอยู่ ก็เพราะเรื่องราวอันตรายที่เคยได้ยินมาตลอดทั้งชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่ยังคงเป็นข่าวคราวให้ได้ยินกันอยู่ ก่อนหน้านี้ถ้าไม่ได้อ่านสเตตัสของรุ่นพี่คนหนึ่งในเฟซบุ๊กที่พูดถึงการขอบคุณตัวเองที่ไม่ยอมถูกจองจำไว้กับความกลัวอะไรทำนองนี้ ฉันก็คงไม่พาตัวเองมาจนถึงที่นี่หรอก… นี่ที่ผ่านมาในชีวิตเราสูญเสียโอกาสอะไรจากความกลัวไปบ้างนะ? บางทีนี่อาจจะถึงเวลาที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองจากแพตเทิร์นเดิมๆ กันเสียที เริ่มจากทริปนราธิวาสนี่แหละ ว่าแล้วก็ยกมืออาสาไปทำงานในจังหวัดที่ไม่มีคนแย่งจะไป กระนั้นคนรอบตัวที่พอทราบว่าจะไปเยือนด้ามขวาน ก็ยังไม่วายจะตอกย้ำ “อ้าว จะไปนราธิวาสเหรอ ระวังตัวให้ดีนะ” โอ๊ย ปล่อยให้มันผ่านหูไปเถอะ ถ้าตัดสินใจแล้ว
แน่ล่ะว่าด้วยข่าวร้ายที่เคยได้ยิน เมื่อแรกมาถึงนราฯ จึงรู้สึกค่อนข้างหวั่นเกรง และแปลกแยกอยู่ไม่น้อย นั่นเพราะประชากรส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นคนไทยเชื้อสายมลายู ที่พูดภาษามลายู และนับถือศาสนาอิสลามถึง 83 เปอร์เซ็นต์ แต่ตลอดทั้งทริป 4 วัน 3 คืน ที่ท่องเที่ยวไปทั่วในนราฯ ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่แตกต่าง ได้ยลธรรมชาติที่สวยงาม ได้ลิ้มรสอาหารพื้นถิ่นรสเลิศ และได้รับน้ำใจจากคนนราฯ ก็ทำให้พูดได้อย่างเต็มปากว่า “อะกูชินตา นราฯ” (ฉันรักนราฯ)
และต่อไปนี้คือ 18 พิกัด พร้อมเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกหลงรักจังหวัดสุดปลายด้ามขวานแห่งนี้ โดยจะนำเสนอแบ่งเป็น 2 ตอน ในตอนแรกนี้จะขอพาไปเที่ยวยัง 9 พิกัดในละแวกตัวเมืองนราฯ และใกล้เคียงกันก่อน
1. อ่าวมะนาว
ทิวสนยาวขนาบโค้งหาดทรายระยะทางหลายกิโลเมตร เราโชคดีที่มาถึงอ่าวมะนาวกันในวันที่ฟ้าใสเป็นใจดีเหลือเกิน แม้หาดทรายของที่นี่จะไม่ได้เป็นทรายสีขาวละเอียดงาม หากค่อนไปทางสีน้ำตาลเข้ม แต่แสงแดดและฟ้าใสก็ช่วยส่องให้เห็นความสวยใสของน้ำ ปลายสุดโค้งหาดติดกับที่ทำการอุทยานเป็นพื้นที่ยอดนิยมซึ่งทั้งคนในท้องที่และนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนมักจะมาเล่นน้ำจับจองพื้นที่ในการหย่อนใจรับลมทะเล โดยเฉพาะบริเวณโขดหินใหญ่ที่ต้องปีนขึ้นไป สามารถมองวิวละแวกอ่าวได้โดยรอบ
สิ่งหนึ่งที่เราเห็นอยู่ตลอดในหาดบริเวณนี้ก็คือ แพะ สัตว์เลี้ยงของชาวบ้านซึ่งมีกันอยู่หลายตัวในแถบนี้ นับเป็นภาพแปลกตาซึ่งไม่ค่อยจะได้เห็นยังชายหาดที่ไหนเช่นในภาคตะวันออก เมื่อเดินกึ่งข้ามโขดหินไปก็จะเข้าเขตเขาตันหยง ซึ่งพื้นที่ทั้งสองส่วนนี้เรียกรวมว่า ‘อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง’ พื้นที่รวมกันมีอาณาเขตกว้างขวาง เป็นทั้งอุทยานแห่งชาติทางทะเล และป่าสงวนอันอุดมสมบูรณ์ จริงๆ แล้วหากยังพอมีเวลามากกว่านี้ ก็ยังมีเส้นทางเดินธรรมชาติให้ไปเดินสำรวจเขาตันหยง แต่ก็น่าเสียดายที่การเดินทางในคราวนี้เราอยากจะเห็นนราฯ กันให้ถ้วนทั่ว จึงขอใช้เวลาไปกับส่วนอื่นๆ ของเมืองนี้กันก่อน
Address:ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส
Contact:–
Open:–
Map:
——————
2. องค์พระศรีคเณศ พระพิฆเนศกลางแจ้ง
แม้ศาสนาอิสลามจะเป็นศาสนาหลักที่คนส่วนใหญ่ในจังหวัดนราธิวาสนับถือ แต่ที่นี่ก็ยังมีศาสนสถานของศาสนาอื่น ให้เห็นเป็นหลักฐานถึงการอยู่ร่วมกันของความเชื่ออันแตกต่าง หนึ่งในนั้นคือ พระพิฆเนศกลางแจ้งองค์งาม ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ‘องค์พระศรีคเณศ พระพิฆเนศ ณ นราธิวาส’ ซึ่งสร้างขึ้นโดยศรัทธาของ ‘อินดาร์แซล บุศรี’ คหบดีเจ้าของกิจการ ‘ห้างดีวรรณพาณิชย์’ ผู้จำหน่ายผ้ารายใหญ่ของจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเชื่อว่านอกจากจะเป็นเทพเจ้าแห่งศิลปะ แล้วยังเปี่ยมไปด้วยเมตตา การสร้างพระพิฆเนศจึงเป็นศรัทธาที่หวังจะนำความสุขกลับคือมายัง 3 จังหวัดชายแดนใต้
จุดเด่นของพระพิฆเนศองค์นี้ คือลวดศิลปะไทยผสมอาหรับอันละเอียดอ่อนที่ประณีต วิจิตร งดงาม ด้วยกระเบื้องโมเสกหลากสี ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 9 ปี นับตั้งแต่ พ.ศ. 2546 จนแล้วเสร็จและทำพิธีเบิกเนตรในปี พ.ศ. 2555 ด้วยความยิ่งใหญ่และงดงามขององค์พระพิฆเนศขนาดหน้าตักกว้าง 7 เมตร สูง 16 เมตร จึงทำให้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น ‘พระพิฆเนศกลางแจ้งที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย’ กลายเป็นอีกสัญลักษณ์ของจังหวัดนราธิวาส
Address: ถ.บายพาส ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส
Contact: –
Open:08.00-17.00 น.
Map:
——————
3. ศาลเจ้าโก้วเล้งจี่
เพียงถัดจากองค์พระศรีคเณศ พระพิฆเนศ ไปทางด้านซ้าย ในแนวกำแพงเดียวกัน (แถมยังเปิดประตูทะลุถึงกันได้) ก็เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโก้วเล้งจี่ของชาวไทยเชื้อสายจีน
ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2458 พร้อมๆ กับการเปลี่ยนชื่อเมือง ‘บางนรา’ มาเป็น ‘นราธิวาส’ ที่นี่จึงมีอายุเก่าแก่ถึงกว่าร้อยปีเช่นเดียวกับเมืองนราธิวาส ภายในประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมพันมือ องค์พระ และเทพเจ้าต่างๆ กว่า 20 องค์
Address: ถ.บายพาส ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส
Contact:–
Open:08.00-17.00 น.
Map:
——————
4. มัสยิดกลาง และบ้านบางนรา
ตั้งอยู่ที่บ้านบางนราก่อนจะถึงหาดนราทัศน์ มัสยิดกลางประจำจังหวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2524 เป็นอาคาร 3 ชั้นแบบอาหรับ ชั้นล่างเป็นห้องประชุมใหญ่ ส่วนห้องละหมาดอยู่ 2 ชั้นบน บนยอดเป็นโดมขนาดใหญ่ มีหอสูงสำหรับส่งสัญญาณอาซานเรียกชาวมุสลิมเข้ามาละหมาด หากต้องการจะชมบรรยากาศในการทำละหมาดให้เห็นถึงความศรัทธาของชาวมุสลิมในพื้นที่ ให้ลองมาช่วงตอนกลางวันของวันศุกร์เวลาประมาณ 11.00-12.00 น. จะพบว่ามีชาวมุสลิมจำนวนมากล้วนทยอยมุ่งหน้ามาที่นี่กันแน่นขนัด จนถึงขั้นล้นออกมานอกมัสยิด
ที่ติดกันกับมัสยิดยังมีชุมชนบางนราซึ่งเป็นชุมชนชาวประมง มีเรือกอและให้ชม ผู้มาเยือนอาจจะได้พบชาวประมงกำลังเอาเรือแล่นออกสวนกันไปมา รวมทั้งได้เห็นภาพของเด็กๆ ดำผุดดำว่ายเล่นน้ำกันกลางแม่น้ำบางนรา ตรงสะพานข้ามแม่น้ำ ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก ที่เห็นวิวของมัสยิดกลางสะท้อนแสงอาทิตย์ยามอัสดงอย่างสวยงาม
Address: ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส
Contact: –
Open:–
Map:
——————
5. หาดนราทัศน์
ด้วยความที่ใกล้ตัวเมืองมากกว่า แถมเรายังเดินทางมาถึงในตอนที่แดดร่มลมตก จึงทำให้ที่นี่มีผู้คนคึกคักกว่าที่อ่าวมะนาว หาดนราทัศน์ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำบางนรา เป็นหาดที่มีความยาวกว่า 5 กิโลเมตร บริเวณรอบๆ ชายหาดเต็มไปด้วยต้นสนให้ร่มเงา บรรยากาศเงียบสงบเหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจ จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมของชาวนราฯ
เราจะได้เห็นครอบครัวพากันมานั่งปิกนิกและเล่นน้ำ เพื่อนๆ มาจับกลุ่มกันนั่งรับลมทะเล หรือรับประทานอาหารจากร้านอาหารริมหาด อีกอย่างที่น่าพูดถึงคือเป็นหาดที่อุดมไปด้วยแมว บนชายหาดมีแมวนับสิบกว่าตัว ที่มาคอยออดอ้อนขอเศษอาหารจากผู้มาเยือนอย่างเรา
บริเวณใกล้ๆ กับชายหาดยังมีสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ ตลาดนัดขายเสื้อผ้ามือสอง ซึ่งหากพอจะมีเวลาเสาะหาและสายตาที่ดีหน่อย ก็อาจจะพบเจอเข้ากับของดีในราคาแสนถูกก็ได้ แต่อย่างหนึ่งที่ขอเตือนเอาไว้สำหรับนักท่องเที่ยวต่างถิ่นก็คือ อย่ายกกล้องขึ้นมาถ่ายร้านหรือคนที่นี่อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะผิดมารยาทและโดนโวยเอาเรื่องได้ ถ้าจะให้น่ารักและสบายใจหายห่วง จะถ่ายรูปใครหรืออะไรให้ถามเจ้าของหรือเจ้าตัวเขาก่อน จึงจะเป็นคนต่างถิ่นที่น่ารักน่าเอ็นดู
Address: ถ.ชายทะเล ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส
Contact: –
Open: 08.00-18.00 น.
Map:
——————
6. หอนาฬิกาประจำจังหวัด
ใกล้กับมัสยิดกลางประจำจังหวัดนราธิวาส คือหอนาฬิกา อันเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองนราธิวาส ตั้งโดดเด่นอยู่ใจกลางเมือง หอนาฬิกาแห่งนี้ได้มีการต่อเติมปรับปรุงใหม่มาแล้วหลายครั้ง แต่ยังคงจุดเด่นของโครงสร้างเดิมเอาไว้เสมอ นั่นคือหลังคารูปทรงปั้นหยา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นภาคใต้ มีการประดับส่องแสง ด้วยลวดลายของอัลลอยและศิลปะอาหรับ โดยรอบบุผนังด้วยหินเทียม เวลาดีที่ควรมาถึงที่นี่คือช่วงหัวค่ำ เพราะจะมีการเปิดไฟสลับสีเป็นลูกเล่นให้แชะภาพได้สวยงามยิ่งขึ้น (แต่แอบขัดใจจอภาพที่เอาไว้ฉายวิดีโอประชาสัมพันธ์และโฆษณาชะมัด มันบดบังความงามลงไปแยะ) แต่ก็บริเวณนี้อีกเหมือนกันที่พนักงานของโรงแรมที่เราพักเล่าให้ฟังว่าเคยเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นใกล้ๆ
Address: ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส
Contact: –
Open:ตลอด 24 ชั่วโมง
Map:
——————
7. ร้านแอโรตี
ถามว่าตกดึกคนนราฯ เขาทำอะไรกัน ก็ต้องมานั่งจิบชา (ซึ่งจริงๆ ก็จิบกันได้ตลอดทั้งวัน และจากการสังเกตของเรา ร้านที่นี่ส่วนใหญ่มักจะชงชาและกาแฟค่อนข้างหวานมาก) กินโรตี และนั่งคุยกันตั้งแต่หัวค่ำไปจนถึงดึก ส่วนร้านดังที่ได้รับความนิยม มีผู้คนมากันคับคั่งจริงๆ เพราะขนาดร้าน 2 คูหายังล้นออกมานอกถนน ก็คือร้านแอโรตี (ลูกแบลี) ซึ่งมีของอร่อยเด็ดอยู่มากมาย อาทิ ข้าวยำน้ำบูดูใส่ปลาป่นกับไข่ต้ม โรตีแกงถั่ว แกงเนื้อ มะตะบะเนื้อและไก่ ซึ่ง ‘บังซึ’ รองผู้อำนวยการ ททท. นราธิวาส ซึ่งให้เกียรติเป็นผู้นำทางให้กับเราตลอดทั้งทริปนั้นบอกว่า “โรตีที่อร่อยจะต้องนุ่มขนาดที่ว่าเอาทิ้งตากลมไว้ก็ยังไม่แข็ง” และโรตีเจ้านี้ก็นุ่มมากอย่างนั้นจริงๆ เสียด้วย นอกจากนี้ยังมีลูกชิ้นเนื้อ และ ‘มาม่าซือดะ’ ซึ่งเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปท้องถิ่นของที่นี่ มีรสชาติค่อนไปทางเปรี้ยวให้ลองชิม
Address: ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส
Contact:–
Open:10.00-22.00 น. ทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์
Map:
——————
8. ตลาดเช้า
มีคนเคยบอกว่าถ้าอยากจะรู้จักเมืองนั้นๆ ให้ดีที่สุดให้ไปเดินตลาดเช้า และเราก็ตื่นกันแต่เช้าเพื่อไปยังตลาดสดเทศบาลฯ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้ๆ กับหอนาฬิกา บรรยากาศตอนเช้าคลาคล่ำไปด้วยผู้คน โดยเฉพาะแม่บ้านในชุดฮิญาบซึ่งต่างก็พากันออกมาจ่ายตลาดหาซื้ออาหารทั้งวัตถุดิบสดๆ และที่ทำสำเร็จแล้วไปให้กับสมาชิกที่บ้าน ที่เด่นอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือปลาทะเลที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเราได้เห็นปลาแปลกๆ เต็มไปหมด แถมยังตัวใหญ่มากและราคาไม่แพง
ในระหว่างที่เดินเพลิดเพลินตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็น คนแปลกถิ่นอย่างเราก็พลันรู้สึกตัวว่าตกเป็นเป้าสายตา ด้วยความที่คนในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิมแทบทั้งหมด แต่เราก็รู้สึกประทับใจเหลือหลาย เมื่อเห็นร้านหนึ่งที่มีคนมุงเยอะเหลือเกิน จึงไปด้อมๆ มองๆ และเห็นว่าทุกคนกำลังต่อคิวซื้อขนมดอกโดนกันอยู่ แต่คุณป้าแม่ค้าไม่พูดภาษาไทย คุณพี่ผู้หญิงที่รอต่อคิวอยู่จึงใจดีช่วยส่งภาษาให้ แถมยังจะให้เราลัดคิวรับขนมไปก่อนอีก เท่านั้นยังไม่พอคุณป้าแม่ค้าถามว่าเรามาจากไหนแล้วยังเอ็นดูยืนยันจะให้ขนมเรามาฟรีๆ อีก ขนมดอกโดนนุ่มๆ หอม มัน พร้อมความเมตตาเป็นเครื่องชูรสในเช้านี้จึงเป็นมื้อเช้าที่อร่อยที่สุด ทำเอาเราประทับใจในน้ำใจของคนนราฯ และคลายความกลัวที่มีต่อเมืองนี้ลงไปได้อีกเยอะ
Address: ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส
Contact :–
Open: 05.00-10.00 น.
Map:
——————
9. ซุปเนื้อ คาวัน มุสลิม (ซุปยะลา)
ร้านซุปเนื้อรสเด็ดมีที่มาจากจังหวัดยะลา มีเมนูจานเด็ดคือซุปเครื่องในวัว กินกับข้าวเปล่าและไข่เจียวอร่อยอย่าบอกใคร เป็นร้านเด็ดที่ชาวนราฯ ไปกินกันเยอะ ใครที่ไม่ชอบกินเครื่องในวัวขอให้เปลี่ยนใจแล้วลองก่อน แล้วจะรู้ว่าฟินได้เพราะเครื่องใน นอกจากนี้ยังมีซุปตีนวัว กับของหวานอย่างข้าวเหนียวมะม่วงและขนมใส่ไส้ให้กินล้างปาก นับเป็นของดีศรีนราธิวาสอีกอย่างที่คนรักเนื้อไม่ควรพลาดจะมาเติมพลังให้พร้อมออกเดินทางไปเที่ยวนอกเมืองกันต่อ
Address: 60 ถ.โสภาพิสัย ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส
Contact:08 1099 2603
Open: 09.00-19.00 น.
*Map: *
krit น่าไปเที่ยววมาก เมื่อไหร่จะมีแต่ความสงบเสียที
18 พ.ย. 2560 เวลา 05.15 น.
เคยไปหนึ่งครั้ง ติดใจมาก สวยเวอร์ ปลายๆปีตะไปอีกกก
18 พ.ย. 2560 เวลา 06.17 น.
New nuna มาเที่ยวสิ ไม่ได้น่ากลัวแบบที่คิด มาตากใบด้วยนะ ทุกคน
18 พ.ย. 2560 เวลา 06.35 น.
เราว่านะสวยกว่าทางชลบุรีหรือเพชรบุรีอีกนะ3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าม่ะติดการก่อเหตุเปนจังหวัดที่น่าปัยมากๆทะเลสวยงาม
18 พ.ย. 2560 เวลา 06.12 น.
วิชญา มะสาและ นราธิวาส ยังมีอะไรอีกเยอะ ที่รอทุกๆท่าน นราธิวาส ไม่ได้น่ากลัว อย่างที่คิดน่ะค่ะ เพราะเราก็คนนราธิวาสโดยกำเนิด
18 พ.ย. 2560 เวลา 06.58 น.
ดูทั้งหมด