(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.asiatimes.com)
Smartphone firms net rewards of chip R&D
By Dave Makichuk
05/12/2019
ชิป อีซีโนส 980 ซึ่งเป็นชิป 5จี ที่ วีโว่ พัฒนาร่วมกับ ซัมซุง มีกำหนดเปิดตัวครั้งแรกบนสมาร์ตโฟน เอ็กซ์ 30 ในช่วงต่อไปของปีนี้ ขณะที่ เสียวหมี่ มี เซิร์จ 1 ชิปตัวแรกที่พัฒนาขึ้นภายในบริษัทเองตั้งแต่เมื่อปี 2017
เหมือนกับคำพังเพยในภาษาอังกฤษที่พวกปลุกใจให้มองโลกแง่ดีพูดกันนั่นแหละ ถ้าคุณมีแค่มะนาวอยู่ในมือ คุณก็ทำน้ำมะนาวสิ
ทำนองเดียวกัน พวกผู้ผลิตสมาร์ตโฟนสัญชาติจีนจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กำลังยกขบวนเดินหน้าเข้าสู่ภาคส่วนการผลิตชิป หลังจากตระหนักถึงความสำคัญของการมีศักยภาพความสามารถในการวิจัยและพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ขึ้นมาภายในบริษัท ไชน่าเดลี่ หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของทางการจีนรายงานเอาไว้เช่นนี้
ตัวอย่างเช่น วีโว่ บริษัทสมาร์ตโฟนจีนรายสำคัญรายหนึ่ง ได้จับมือเข้าร่วมกับยักษ์ใหญ่เทคเกาหลีใต้อย่าง ซัมซุง ในการเปิดตัว ชิป 5 จี ตัวใหม่ตัวหนึ่งในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นหลักหมายแสดงถึงความพยายามล่าสุดของฝ่ายแรกในการหันมาเน้นหนักเรื่องการส่งเสริมเพิ่มพูนศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนา
ชิปตัวนี้ ซึ่งมีชื่อว่า อีซีโนส 980 (Exynos 980) เป็นการพัฒนาร่วมมือของบริษัททั้งสอง โดยมีกำหนดเปิดตัวครั้งแรกบนสมาร์ตโฟน เอ็กซ์ 30 ของวีโว่ (Vivo’s X30) ในช่วงต่อไปของปีนี้
โจว เว่ย (Zhou Wei) รองประธานบริหารของวีโว่ บอกว่าทั้งสองฝ่ายมีการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับอีกฝ่ายหนึ่งในการปรับปรุงยกระดับประสิทธิผลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผลที่ออกมาก็คือ สมาร์ตโฟนรุ่น เอ็กซ์30 ซึ่งมีชิป อีซีโนส 980 เป็นผู้ให้พลังงาน สามารถที่จะวางตลาดได้ก่อนกำหนด 2 ถึง 3 เดือน
ชิป อีซีโนส 980 นั้น สามารถใช้ได้ทั้งในโหมดการวางเครือข่าย (networking modes) แบบ non-standalone (NSA) และ stand-alone (SA) ทำให้มันกลายเป็นชิป 5จี ใช้ได้ 2 โหมด (dual-mode 5G chip) ตัวที่ 2 ตามหลัง คิริน 990 5จี (Kirin 990 5G) ของหัวเว่ย ทั้งนี้ NSA และ SA เป็นวิธีการ 2 วิธีในการสร้างเครือข่าย 5 จี โดยที่วิธีแรกยังคงพึ่งพาอาศัยโครงสร้างพื้นฐาน 4จี ซึ่งมีอยู่แล้ว ให้ทำหน้าที่บางอย่างบางประการต่อไป
ปัจจุบัน สมาร์ตโฟน 5จี แทบทั้งหมดที่เปิดตัวกันไปแล้วในประเทศจีน จะใช้ได้กับโหมด NSA เท่านั้น แต่จีนมีกำหนดจะเริ่มการก่อสร้างโหมดเครือข่าย 5จี แบบ SA ในเร็วๆ นี้ จึงทำให้โทรศัพท์ 5จีจะต้องสนับสนุนได้ทั้ง 2 โหมดในอนาคตข้างหน้า รายงานชิ้นนี้ของไชน่าเดลี่ระบุ
วีโว่แถลงว่า มีวิศวกรด้านการวิจัยและพัฒนาของบริษัทจำนวนมากกว่า 500 คนทำงานเป็นหุ้นส่วนกับทางซัมซุงในช่วงเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันพัฒนาชิปตัวใหม่ดังกล่าว โดยที่ฝ่ายวีโว่ได้แบ่งปันฟีเจอร์และฟังก์ชั่นต่างๆ มากกว่า 400 อย่างซึ่งสะสมรวบรวมขึ้นมาได้ให้แก่ฝ่ายซัมซุง เพื่อเป็นการตอบแทนเพิ่มเติมให้แก่แพลตฟอร์มซึ่งมาจากฝ่ายเกาหลีใต้
อีซีโนส 980 มีโมเดม 5จี อยู่ในตัว (integrated 5G modem) ซึ่งทำให้มันสามารถดาวน์โหลดได้สูงสุดที่ความเร็ว 2.55 Gbps ใน sub-6 GHz spectrum นอกจากนั้นยังสามารถปรับปรุงยกระดับเรื่องประสิทธิภาพในการใช้พลังงานขึ้นมาอย่างมากมาย
ทางด้าน เสียวหมี่ คอร์ป ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนสัญชาติจีนรายใหญ่อีกรายหนึ่ง ก็กำลังระดมเพิ่มอินพุตเข้าไปในแผนกงานนี้เช่นเดียวกัน
ในปี 2014 เหลย จิว์น (Lei Jun) ผู้ก่อตั้งเสียวหมี่ ได้ให้คำจำกัดความภาคส่วนชิป ว่าเป็น “มงกุฎของภาคอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน” อีก 3 ปีต่อมา เขาก็มีเพชรเม็ดใหญ่ของตนเองเอาไว้ประดับในมงกุฎนี้ ซึ่งคือ เซิร์จ 1 (Surge 1) ชิปตัวแรกของเสียวหมี่ที่พัฒนาขึ้นมาเองภายในบริษัท
เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยีผู้นี้ ชื่นชอบและมีความทรงจำอันมีชีวิตชีวาเกี่ยวกับชั่วขณะซึ่งมีความหมายยิ่ง โดยที่มันเป็นสัญญาณแสดงว่า เสียวหมี่ได้ก้าวเข้าสู่ภาคส่วนชิปแล้ว
เขาย้อนหลังทบทวนไปถึงคืนๆ หนึ่งในเดือนกันยายน 2015 เมื่อเวลาเคลื่อนมาถึง 01.40 น. แล้วในการทดสอบ ปรากฏว่า เซิร์จ 1 สามารถทำให้เกิดการติดต่อพูดสายกันได้เป็นครั้งแรกระหว่างวิศวกรกลุ่มหนึ่งกับเหลย “หัวใจของผมกำลังพุ่งพรวดพราดด้วยความตื่นเต้นในชั่วขณะนั้น นี่แหละคือคำอธิบายว่าทำไมชิปเซ็ตตัวนี้จึงมีชื่อเช่นนี้” (เซิร์จ surge เป็นคำในภาษาอังกฤษที่แปลว่า พุ่งพรวด -ผู้แปล)
เจมส์ เหยียน (James Yan) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ เคาน์เตอร์พอยต์ เทคโนโลยี มาร์เกต รีเสิร์ช (Counterpoint Technology Market Research) บอกว่า ถึงแม้ เซิร์จ 1 ยังถือว่าเป็นชิปในระดับแรกเริ่มเข้าสู่วงการ แต่ความพยายามของเสียวหมี่ในการเดินหน้าเข้าไปในอุตสาหกรรมซึ่งมีการแข่งขันอย่างสูงเช่นนี้ ก็เป็นไฮไลต์แสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนเองแตกต่างออกไปจากของพวกคู่แข่งทั้งโขยง และความมุ่งมั่นที่จะเสาะแสวงหาการเติบโตขยายตัวโดยผ่านนวัตกรรม
คุณสมบัติของการมุ่งแสวงหานวัตกรรมนี้ คือสิ่งที่เป็นพลังขับดันยักษ์ใหญ่เทคซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปักกิ่งแห่งนี้ เมื่อช่วงปี 2014 โดยหลังจากบริษัทประสบความสำเร็จจากโมเดลการจำหน่ายที่มุ่งขายผ่านทางออนไลน์อย่างเดียวแล้ว ก็ได้ก่อตั้งแผนกงานด้านชิปของตนเองขึ้น ซึ่งก็คือ เป่ยจิง ซงกัว อิเล็กทรอนิกส์ (Beijing Songguo Electronics)
บริษัทสามารถมองเห็นได้ว่า การที่เสียวหมี่จะต้องเข้าถึงชิปได้อย่างมั่นคงไว้วางใจได้ กำลังจะกลายเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จในตลาดสมาร์ตโฟนซึ่งมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดนี้
เสียวหมี่ยังได้ลงทุนในบริษัทดีไซน์ชิปหลายต่อหลายแห่งในประเทศจีน ส่วนหนึ่งก็ด้วยความวาดหวังที่จะได้เรียนรู้มากขึ้นจากเพลเยอร์เหล่านี้ เพื่อให้สามารถผลิตชิปของตนเองได้ดียิ่งขึ้น
ออปโป้ บริษัทสมาร์ตโฟนสำคัญสัญชาติจีนอีกรายหนึ่ง ก็กำลังกระโจนเข้าร่วมขบวนเช่นเดียวกัน เวลานี้บริษัทกำลังระดมหามืออาชีพด้านชิปเข้ามาร่วมงานเพื่อยกระดับฝ่ายออกแบบสมาร์ตโฟนของตน รวมทั้งยังกำลังทำงานในเรื่อง coprocessor ซึ่งเป็นอุปกรณ์ประมวลผลที่ใช้เพื่อเพิ่มเติมสนับสนุนฟังก์ชั่นต่างๆ ของ processor ตัวหลัก
แรงจูงใจอันแรงกล้าที่ทำให้บริษัทจีนเหล่านี้เร่งรีบเข้าสู่ภาคส่วนชิป ยังบังเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯสั่งห้ามไม่ให้ หัวเว่ย เข้าถึงส่วนประกอบเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เหตุการณ์ดังกล่าวนี้จุดชนวนให้เกิดความวิตกกังวลขึ้นมาว่าว่าเทคโนโลยีสหรัฐฯบางอย่างบางประการซึ่งพวกบริษัทจีนต้องพึ่งพาอาศัยอย่างมากมายเหลือเกินนั้น กำลังจะเข้าถึงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว และจำเป็นที่จะต้องเร่งรัดจัดทำแผนการที่เป็นทางเลือกอื่นๆ ขึ้นมา
อย่างไรก็ดี การวิจัยและพัฒนาชิปเป็นธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงและต้องใช้จ่ายเงินทองแพงลิบ เมื่อตอนที่เสียวหมี่กำลังพิจารณาธุรกิจชิปอยู่นั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายรายเคยบอกกับ เหลย ว่ามันเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเฉพาะชิปอย่างเดียวเท่านั้นก็จะต้องใช้เงินทองถึง 1,000 ล้านหยวน (ราว 4,300 ล้านบาท หรือ 142 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และหากต้องการประสบความสำเร็จก็จะต้องใช้จ่ายอย่างน้อย 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
“เป็นสัญญาณที่น่าชื่นชมและก่อให้เกิดกำลังใจ ที่มีเพลเยอร์มากรายยิ่งขึ้นต้องการเอาชนะอุปสรรคต่างๆ เพื่อเป็นผู้ประสบความสำเร็จในการทำชิป แต่ยังคงต้องเฝ้าดูกันต่อไปว่า ใครจะสามารถทำมันออกมาได้จริงๆ ในตอนท้าย” นี่เป็นคำกล่าวของ เซี่ยง หลี่กัง (Xiang Ligang ) ผู้อำนวยการใหญ่ของ สมาคมอุตสาหกรรมเทเลคอมจีนซึ่งมีชื่อว่า กลุ่มพันธมิตรการบริโภคสารสนเทศ (Information Consumption Alliance)
กฤติเดช สุขเนืองนอง ศักยภาพพอกัน แล้วมาโดนบีบ คนจีน ไม่เคยยอมก้มหัว หรือ อยู่เฉย สู้ทุกเม็ด
13 ธ.ค. 2562 เวลา 15.21 น.
Chanwit หมดยุค อเมริกาแล้วจริงๆ
13 ธ.ค. 2562 เวลา 16.39 น.
kamen rider Exynos อ่านว่า เอ็กซี่นอส ไม่ใช่อีซี่โนส เรียกชื่อซะเสียเลย
13 ธ.ค. 2562 เวลา 15.41 น.
ดูทั้งหมด