จากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ยังคงกระจายทั่วประเทศไทย แม้ขณะนี้จะมีมาตรการควบคุมโรค ทั้งการประกาศเคอร์ฟิวทั่วราชอาณาจักร ห้ามประชาชนออกจากเคหสถานตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. เพื่อให้อยู่บ้านมากที่สุด ลดการแพร่เชื้อ แต่ก็เกิดข้อกังวลว่า หลายพื้นที่มีพายุกระหน่ำ ขณะเดียวกันอีกใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูฝน จะทำให้เชื้ออยู่นานขึ้นหรือไม่ กระทรวงสาธารณสุขเตรียมแนวทางป้องกันโรคอย่างไร
อัปเดตข่าวโควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 7 เม.ย. 63
ราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิกแพทย์ฯ ประกาศอาการ “สูญเสียการได้กลิ่น” สัมพันธ์ป่วยโควิด-19
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องเร่งควบคุมโรคให้เบ็ดเสร็จตั้งแต่ช่วงนี้ ก่อนจะเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับโรงเรียน มหาวิทยาลัยต่างๆ จะเปิดเทอม ซึ่งแน่นอนว่าจะมี 2 ปัจจัยสำคัญ คือ ความชื้น และอุณหภูมิที่สูงขึ้น จะมีผลทำให้เชื้ออยู่ได้นานขึ้น ประกอบกับการมารวมตัวกันของนักเรียน นักศึกษา ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างมากในการควบคุมโรคของประเทศไทย เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าถ้าเกิดการติดเชื้อในเด็กอาการจะน้อยกว่าผู้ใหญ่ แสดงอาการไข้ ไอ เพียงไม่ถึงครึ่ง ดังนั้น ช่วงนี้จึงเป็นช่วงสำคัญที่เราต้องควบคุมให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด
นพ.ธนรักษ์ ยังกล่าวถึงกรณีคนต่อต้านผู้ป่วยที่หายดีแล้วไม่ให้กลับเข้าชุมชน ว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาพบว่าในสังคมไทยมีปัญหาเรื่องของการตีตรา ต่อต้านคนที่หายป่วยแล้วไม่ให้กลับเข้าชุมชน ซึ่งเป็นผลพวงจากการใช้ยุทธศาสตร์ป้องกันโรคที่ไม่ถูกด้วยการทำให้คนกลัว ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขพยายามสื่อสารมาตลอด โดยเน้นสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน ไม่ใช่การสร้างความตื่นกลัว เพราะจะเป็นเหตุให้เกิดการตีตราขึ้น คนไข้ก็เลยไม่ยอมไปพบแพทย์ พบแพทย์ก็ไม่บอกความจริง เป็นความเสี่ยงแก่บุคคลทั่วๆ ไป ดังนั้น การให้ความรู้ที่ถูกต้อง วิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง และความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่ว่าผู้ป่วยเมื่อหายแล้วกลับเข้าไปอยู่ในชุมชนได้หรือไม่นั้น ต้องขอชี้แจงว่าในกลุ่มคนป่วยที่มีอาการน้อยจะได้กลับบ้านใน 14 วัน หลักปฏิบัติของเรา คือ ให้คนเหล่านี้อยู่ในโรงพยาบาล 7 วัน เมื่ออาการดีก็จะอยู่ในฮอทพิเทล (โรงแรมที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานใช้รองรับผู้ป่วยไม่มีอาการ หรืออาการน้อย) อีก 7 วัน หรือครบ 14 วัน เมื่อหายแล้วให้กลับบ้าน ซึ่งเมื่อกลับถึงบ้านยังปฏิบัติตัวเข้มข้น ต้องสวมหน้ากากอนามัย เพราะฉะนั้นถามว่าจำนวน 14 วันที่เฝ้าดูกันอยู่นั้นพอหรือไม่ ยังมีเชื้ออยู่หรือไม่ มีงานวิจัยระบุว่า เพียงพอ โดยหลักการ คือ เชื้ออยู่ในลำคอแบบยังมีชีวิตและสามารถแพร่ได้ 8 วัน หลังจาก 8 วันไปแล้วไม่เจอเชื้อเลย ดังนั้นที่เราเฝ้าระวังกัน 14 วัน เท่ากับว่าเรายังมีระยะปลอดภัยอีก 6 วัน อย่างไรก็ตาม ถ้าวันหลังมีข้อมูลใหม่ว่าเชื้ออยู่ในคอและแพร่เชื้อนานกว่า 8 วัน เราก็ปรับมาตรฐานการรักษา ตอนนี้เราใช้ความรู้เท่าที่มีให้เกิดประโยชน์ในการรักษาป้องกันโรคให้ดีที่สุด
iPONG✌️CL10 คุณมาถูกทางแล้ว ทำต่อไปครับ ต้องรีบทำด้วย
07 เม.ย. 2563 เวลา 05.08 น.
Preawpraw House ใช่เลย
07 เม.ย. 2563 เวลา 04.50 น.
Finejewelthai.com ได้โปรด ตรวจหาคนที่ไม่แสดงอาการ แต่ติดเชื้อด้วยนะคะ เพราะกบุ่มนี้แพร่เชื้อได้
ตอนนี้อยากจะตรวจก็ต้องเสียเงินเองอย่างเดียว รัฐบาลไม่มีนโยบายหาคนติดเชื้อเลย มีแต่รักษาอย่างเดียวถ้ามีอาการ
07 เม.ย. 2563 เวลา 05.01 น.
ก็ยังห่วงอยู่เลยครับ ขอได้กรุณาช่วยเตือนไว้ด้วยว่า เมื่อครบ14วันแลัวก็ยังไม่ถือว่าปลอดเชื้อ !!
คนไทยเราดีอยู่อย่างหนึ่งที่เมื่อเข้าใจอะไรได้ถูกต้องเขาจะตื่นตัว ไม่ละเว้นทีจะปฏิบัติ(ตัวอย่างเช่นแม่ค้าใช้ตะกร้าผูกปลายไม้รับส่งเงินซื้อขายกับข้าว_มีชาติเดียวในโลก สวนพวกชายแดนซื้อขายสินค้าผ่านรั้วกั้น เอาของใส่ตะกร้า ผู้มาหยิบไป ใส่เงินลงแทน คนอยู่ห่างกัน)
07 เม.ย. 2563 เวลา 06.06 น.
ธนกร/ℭ𝔥𝔞𝔯𝔩𝔦𝔢🎵🎸 ให้ไวครับ รอดูอยู่บ้าน ไม่ไปใหนเลย จัดไป
07 เม.ย. 2563 เวลา 06.05 น.
ดูทั้งหมด