รวมจิตเป็นหนึ่ง - ดังตฤณ

เมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา ทางมูลนิธิบูรณพุทธได้จัดงานใหญ่ขึ้นมางานหนึ่ง เพื่อสร้างปรากฏการณ์รวมจิตสองพันดวงเป็นหนึ่งเดียว ที่ไบเทค บางนา โดยสาระของงาน คือ ฝึกให้ผู้เข้าร่วมงานแผ่เมตตาเป็น ทั้งในแบบแผ่ไปไม่มีประมาณ กับในแบบแผ่เจาะจงเฉพาะบุคคล

เมื่อแผ่เมตตา ‘แบบไม่มีประมาณ’ เป็น คุณจะได้บ่อน้ำใจที่กว้างใหญ่ขึ้นมากลางอก และเมื่อแผ่เมตตา ‘แบบเจาะจง’ ถูก คุณจะมีสติเท่าทันโทสะที่เกิดขึ้นในจิต ปราบโทสะของตัวเองได้ก่อน แล้วสามารถเอาชนะศัตรูคู่อาฆาตด้วยการสยบความโกรธของเขา ดับความร้อนของเขาให้สงบเย็นตามคุณได้ในภายหลัง

เมื่อมีบ่อน้ำใจใสเย็นที่กว้างขวางพอ กับทั้งฝึกแผ่เมตตาแบบเจาะจงทันการณ์ได้สักพัก คุณจะมีความสามารถสัมผัสรู้สึกถึงดวงจิต และกระทั่งแผ่เมตตาให้บุคคลอันเป็นที่รักผู้ล่วงลับแบบถูกตัวจังๆก็ยังได้

เรื่องยากอยู่ที่ตอนฝึก คนส่วนใหญ่ไม่ทราบจะฝึกแผ่เมตตาอย่างไร อีกทั้งไม่ค่อยมีกะจิตกะใจอยากแผ่เมตตากันเสียด้วย เพราะวันๆเจอแต่คนนิสัยไม่ดี คอยยั่วแหย่ให้โมโห ยืมเงินแล้วไม่คืน แกล้งคุยไม่รู้เรื่อง ชอบแทงข้างหลัง พูดห้วนๆแบบมะนาวไม่มีน้ำ ใช้สายตาดูหมิ่นไม่เห็นหัว ด่าทอไม่เกรงใจ ฯลฯ

ฉะนั้น ในงานนั่งสมาธิแผ่เมตตาร่วมกัน จึงมีการทดลองใช้ ))เสียงสติ(( มาเป็นตัวช่วยแผ่เมตตา เพราะความสามารถอย่างหนึ่งของเวอร์ชั่นที่ใช้ในวันงาน (มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า ‘ปัดเป่าความฟุ้งซ่าน’) คือ เหนี่ยวนำคลื่นสมองย่านที่มีสปีดช้าสุดให้เด่นนำ ความฟุ้งซ่านจึงหายไปอย่างรวดเร็ว จิตจึงเปิดสว่างเป็นกุศลได้ภายในไม่กี่นาที

ธรรมชาติของจิตที่เปิดสว่างเป็นกุศล ให้ความรู้สึกเบา เป็นสุข และมีความสามารถรับรู้พื้นที่ว่างรอบตัวได้โดยง่าย นั่นหมายความว่า เพียงคุณฟัง ))เสียงสติ(( โดยการรู้สึกถึงลมหายใจเข้าออกไปด้วย เพียงไม่กี่นาที พอสมองถูกปลดล็อก คุณจะรู้สึกเบา โปร่ง โล่งทั้งหัว โล่งทั้งตัวขึ้นมา และที่นาทีนั้น เพียงมองทะลุเปลือกตาที่ปิดอยู่ออกมาตรงๆ เหมือนกำลังทอดมองขอบฟ้าลิบๆอย่างผ่อนพัก คุณจะรู้สึกถึงความสุขที่แผ่ออกมาเอง

ในความรู้สึกว่าเมตตากำลังแผ่ออก เริ่มต้นขึ้นมา ความสุขอาจเป็นองศาแคบๆ แต่หลังจากสุขนิ่ง สุขเย็นได้พักหนึ่ง คุณจะรู้สึกถึงกระแสจิตที่บานออกทำมุมป้าน บางคนอาจได้ถึง ๑๘๐ องศา และบางคนที่จิตรวมเต็มดวง ก็อาจกว้างใหญ่ครอบ ๓๖๐ องศา อันนี้เป็นประสบการณ์ทางจิตที่รู้ได้เฉพาะตน บอกเล่าอธิบายไม่ได้

เมื่อใจไม่ได้นึกถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แล้วมีความสุขสีขาวแผ่รัศมีออกไปได้กว้างๆ คุณจะลิ้มรสสุขที่ยิ่งใหญ่ไพศาล อันนี้จัดเป็นการแผ่เมตตาแบบไม่มีประมาณ ผลที่คงค้างหลังแผ่เมตตาเสร็จ คือ ความอิ่มสุข เยือกเย็น เหมือนมีบ่อน้ำใจขนาดใหญ่ผุดขึ้นในความว่างกลางอก พร้อมจะริน พร้อมจะอภัย พร้อมจะเผื่อแผ่ความสุขเย็นนั้นไปให้กับทุกคนในโลก

หลังจากแผ่เมตตาแบบไม่มีประมาณเป็น คุณจึงจะมีสิทธิ์แผ่เมตตาแบบเจาะจงได้ ซึ่งในงาน ‘รวมจิตเป็นหนึ่ง’ นั้น ผมก็ได้ให้ผู้ร่วมงานหันหน้าเข้าหากัน แล้วใช้ ))เสียงสติ(( ช่วยให้เข้าสมาธิจนเกิดความปลอดโปร่งเป็นสุข จากนั้น จึงให้ทุกคนลืมตาขึ้น มองผู้ที่นั่งอยู่ตรงหน้าให้เห็นครึ่งตัวแวบหนึ่ง แล้วปิดตาลงทันที โดยล็อกระยะโฟกัสของสายตาไว้ เท่ากับที่มองภาพครึ่งตัวของบุคคลตรงหน้า

เมื่อมีความสุขเอ่อออกมาจากกลางใจด้วย และล็อกสายตาไว้กับบุคคลตรงหน้าด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาเป็นธรรมชาติ คือ กระแสเมตตาอันเยือกเย็น ที่ฉายรัศมีไปกระทบอีกฝ่าย ซึ่งอีกฝ่ายจะสัมผัสรับรู้ได้ชัดเจนเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับว่า กระแสเมตตามีความอิ่มพลังคงเส้นคงวาเพียงใด

งานนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นด้วยว่า เมื่อจิตไร้ความฟุ้งซ่าน ปรับเปลี่ยนจากโหมดคิดสุ่มๆไร้คุณภาพ เป็นโหมดรู้ชัดอย่างมีคุณภาพ คุณเอาจิตที่มีคุณภาพแล้วนั้น ไปใช้ในทางไหนก็ได้ตามปรารถนา

สามารถรับชมงานตั้งแต่ต้นจนจบได้ที่

https://www.facebook.com/dungtrin/videos/428305271121906/

และสามารถดาวน์โหลด ))เสียงสติ(( ทุกเวอร์ชั่นได้จาก

http://dungtrin.com/BB