หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐอเมริกาได้ประกาศแบน Huawei ด้วยการเพิ่มชื่อเข้า Entitylist จนทำให้บริษัทต่างๆ ในสหรัฐไม่สามารถทำงานร่วมกับ Huawei ได้ แม้ว่าจะมีการเลื่อนการแบนเป็น 90 วัน และบริษัทที่เป็นคู่สัญญากับรัฐบาลสหรัฐจะขอให้เลื่อนเป็น 2 ปี ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าหลายบริษัทจะยังไม่เห็นด้วยกับมาตรการนี้ โดยล่าสุดผู้ผลิตชิปเซ็ตรายใหญ่อย่าง Qualcomm, Intel และ Xillinx ได้กดดันรัฐบาลสหรัฐให้ผ่อนปรนการแบน Huawei อีก
โดยตามการรายงานของ Reuter เผยว่า Qualcomm ได้ให้ความเห็นว่าการแบนกลุ่มอุปกรณ์ทั่วไอย่างสมาร์ทโฟน และ คอมพิวเตอร์เซิรฟเวอร์ นั้นดูไม่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของประเทศ เพราะอุปกรณ์เหล่านั้นใช้ชิ้นส่วนทั่วไป ไม่เหมือนกับอุปกรณ์ด้านเครือข่าย 5G
นอกจากนี้ทางผู้ผลิตชิปยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ได้ต้องการจะช่วยเหลือ Huawei แต่อย่างใด แต่เป็นการช่วยเหลือคนอเมริกา และบริษัทในอเมริกาเอง เนื่องจาก Huawei เป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทในสหรัฐอเมริกาด้วย
อย่างในปี 2018 ที่ผ่านมา Huawei มียอดสั่งซื้อชิ้นส่วนจากสหรัฐมากถึง 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.18 ล้านล้านบาท และเป็นเงินที่เข้าบริษัท Qualcomm, Intel และ Micron Technology ถึง 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.43 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีสมาคมอุตสาหกรรม Semiconductor (SIA) ได้ยื่นคำร้องแบบเดียวกันให้กับทางรัฐบาลสหรัฐเช่นเดียวกัน โดยให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่า อุปกรณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ไม่ควรถูกเหมารวมและแบนไปด้วย
อีกทั้งก่อนหน้านี้ Liang Hua ประธานของ Huawei ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีนว่า Google บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกายังคงต้องการร่วมธุรกิจกับ Huawei ด้วย
โจโจ้ มูลค่ารวม2 ล้านล้านบาท
18 มิ.ย. 2562 เวลา 14.06 น.
เมื่อสายลม พัดผ่านไป แบนหัวเหว่ย แต่คนอเมริกาเดือดร้อนเอง
17 มิ.ย. 2562 เวลา 12.08 น.
Surapun ความมั่นคงเป็นเพียงข้ออ้าง ที่ทุกวันนี้ก็ไม่มีอะไรพิสูจน์ยืนยันได้เลย แต่เป็นเพียงความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองอเมริกัน เท่านั้นเอง เครือข่ายความร่วมมือทางเทคโนโลยีกว้างใหญ่จนต้องพึ่งพากันในหลายมิติ .. ข้าต้องเด่นต้องเป็นหนึ่งของโลกเป็นความคิดของพวกตกขอบหลงยุค
17 มิ.ย. 2562 เวลา 11.17 น.
ดูทั้งหมด