23 ส.ค.62 - ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ ในคดีหมายเลขดำ ที่ ๑๐๗/๒๕๕๒ ,๒๐๓๘/๒๕๕๑, ๑๓๗๙/๒๕๕๒ คดีหมายเลขแดงที่ ๓๖๖-๓๖๘/๒๕๕๗ ระหว่าง กระทรวงคมนาคม ที่ ๑ การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ ๒ ผู้ร้อง บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คัดค้าน ซึ่งคดีดังกล่าวศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๒ ให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการข้อพิพาทหมายเลขดำที่ ๑๑๙/๒๕๔๗ หมายเลขแดงที่ ๖๔/๒๕๕๑ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๑ ที่ให้ผู้ร้องทั้งสองคืนเงินค่าตอบแทนที่ผู้คัดค้านชำระและใช้เงินในการก่อสร้างโครงการ พร้อมดอกเบี้ย ให้แก่ผู้คัดค้าน
ผู้ร้องทั้งสองได้มีคำร้องยื่นต่อศาลปกครองกลางขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่า ศาลปกครองสูงสุดรับฟังข้อเท็จจริงผิดพลาด และมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐาน “กรณีโฮปเวลล์” ซึ่งหากได้พยานหลักฐานใหม่จะนำเสนอศาลปกครองสูงสุดต่อไป ทั้งโต้แย้งเรื่องความสามารถในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในประเทศของผู้คัดค้านในขณะเข้าทำสัญญาพิพาท รวมทั้งอ้างว่าการที่ศาลปกครองสูงสุดมิได้ย้อนสำนวนให้ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยในประเด็นเนื้อหาแห่งคดีถือว่าเป็นข้อบกพร่องในกระบวนการยุติธรรม
ศาลปกครองกลางวินิจฉัยคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ ว่า ข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องทั้งสองโต้แย้งประเด็นที่ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยเรื่องระยะเวลาการใช้สิทธิเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ การเลิกกันของสัญญาพิพาท และการกลับคืนสู่ฐานะเดิมของผู้ร้องทั้งสองและผู้คัดค้าน มีลักษณะเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการพิพากษาคดีและผลของคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด สำหรับกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมิได้ย้อนสำนวนให้ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยนั้น เป็นดุลพินิจของศาลปกครองสูงสุดที่จะวินิจฉัยข้อพิพาทตามคำอุทธรณ์ได้เอง ไม่มีบทกฎหมายที่บังคับให้ศาลปกครองสูงสุดต้องส่งคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นที่ยังมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือระเบียบวิธีพิจารณาคดีปกครองกลับไปให้พิจารณาพิพากษาใหม่ทุกกรณี ทั้งคดีนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยแล้วว่า คดีมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่ศาลปกครองสูงสุดจะพิจารณาพิพากษาชี้ขาดคดีต่อไปได้เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาพิพากษาคดี จึงไม่ถือว่ามีข้อบกพร่องสำคัญในกระบวนพิจารณาพิพากษาที่ทำให้ผลของคดีไม่มีความยุติธรรม
ส่วนข้อโต้แย้งเรื่องความสามารถของผู้คัดค้านในขณะเข้าทำสัญญาว่าเป็นการดำเนินการของคนต่างด้าวนั้น เอกสารหลักฐานดังกล่าวมิได้เป็นพยานหลักฐานที่ปรากฏขึ้นใหม่ อันมีผลทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังยุติแล้วเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ ทั้งในขณะที่ยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่นี้ผู้ร้องทั้งสองไม่มีพยานหลักฐานที่จะนำเสนอต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเป็นพยานหลักฐานใหม่อันมีผลทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังยุติแล้วเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ คำขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา ๗๕ วรรคหนึ่ง (๑) และ (๓) ประกอบวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งนี้คดีดังกล่าว ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้กระทรวงคมนาคมและ รฟท.จ่าย 12,000 ล้านบาท แก่บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทบ) จำกัด เพื่อชดเชยการบอกเลิกสัญญาตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
รักเธอคนเดียว กรรมของคนไทย ไอพวกโกงก็ใช้เงินสบายจนตายห่าไปหมดละจะเหลือก็กับลูกหลานโคตรเง่ามัน แล้วแบบนี้จะไปเอากับใครได้ถ้าไม่ใช่ภาษีที่จะขดเอากับคนยุกปัจุบัน
23 ส.ค. 2562 เวลา 16.17 น.
U'AN พวกนักการเมืองเลวๆที่อนุมัติโครงการมันตายห่าตามกันไปแล้ว แต่ทิ้งค่าโง่ไว้ให้คนไทยใช้หนี้แทน
23 ส.ค. 2562 เวลา 12.07 น.
peera th. ตายไปแล้ว ไปทวงในยมโลกเถอะ เสียดายเงินภาษี
23 ส.ค. 2562 เวลา 11.49 น.
สมศักด ิ์วังแผน นี่คือวีรกำนักการเมืองเลวสิ้นดี
23 ส.ค. 2562 เวลา 11.33 น.
แสดงว่า..โง่ซ้ำซาก
23 ส.ค. 2562 เวลา 11.21 น.
ดูทั้งหมด