ญาติสาวถูกสาดน้ำกรด รับไม่ได้การกระทำ รพ. ยันเอาผิดผัวหึงโหดถึงที่สุด!

ญาติเร่งเตรียมสถานที่จัดพิธีศพ น.ส.ช่อลัดดา เหยื่อเสียชีวิตจากเหตุถูกสามีสาดน้ำกรดใส่ ที่บ้าน จ.ขอนแก่น พร้อมกำหนดพิธีฌาปนกิจ 14 พ.ย.นี้ ยันเอาเรื่องสามีก่อเหตุให้ถึงที่สุด ส่วน รพ.มอบทนายทำตามกฎหมาย พร้อมรับลูกสาวผู้ตายกลับมาเรียนต่อที่ขอนแก่น

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 12 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 10 ม.9 บ้านแสงอรุณ ต.โนนทอง อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ช่อลัดดา ทาระวัน อายุ 38 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุสามีใช้น้ำกรดสาดใบหน้าตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น ขณะนี้คนในครอบครัวและญาติต่างเร่งช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ สำหรับการประกอบพิธีศพ โดยมีการเก็บกวาดบ้านบริเวณชั้น 1 สำหรับการใช้เป็นสถานที่บรรจุศพ โดยญาติรวมทั้งคนในหมู่บ้าน ได้ทำการติดตั้งเต็นท์และเก้าอี้ไว้บริเวณด้านหน้าบ้าน รวมทั้งเตรียมข้าวของเครื่องใช้ในการประกอบพิธีศพ 

โดย นางกัญหา จูมมาลี อายุ 61 ปี พี่สาวของ น.ส.ช่อลัดดา เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา น้องเต อายุ 12 ปี หลานสาวซึ่งเป็นบุตรสาวของ น.ส.ช่อลัดดา ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า ผู้ตายถูกสามีใหม่ใช้น้ำร้อนสาดหน้า ซึ่งด้วยความเป็นเด็กไม่ทราบว่า น้ำร้อนนั้นคือน้ำกรด ซึ่งพอครอบครัวทราบข่าวก็ได้ให้น้องเตรีบพาผู้ตายนั่งรถแท็กซี่ไปหาหมอ โดยได้ไปที่โรงพยาบาลพระราม 2 จนกระทั่งเวลาประมาณ 07.30 น. วันเดียวกันได้มีโทรศัพท์จากแพทย์โรงพยาบาลบางมดว่า น.ส.ช่อลัดดาเสียชีวิตแล้ว ซึ่งในขณะนั้นครอบครัวถึงกับช็อคทำอะไรไม่ถูก ห่วงแต่น้องเตซึ่งเมื่อโทรไปก็พบว่าน้องเตร้องไห้ตลอดเวลา แม่ของผู้ตายจึงตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯทันที เพื่อไปดูบุตรสาวและหลานสาว พร้อมเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ก่อนที่กำนัน ต.โนนทอง แพทย์ตำบล และญาติ จะเดินทางติดตามไปเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว 

ทั้งนี้ผู้ตายพึ่งกลับบ้านมาพร้อมกับสามีใหม่ เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยชาวบ้านก็พบพฤติกรรมว่า สามีของผู้ตายนั้นมีอาการหึงหวงชัดเจน จนกระทั่งก่อนเสียชีวิต ก็พบว่า แม่ของผู้ตายพึ่งเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ ได้เพียง 3 วัน ก็มาทราบข่าวเศร้าสลดดังกล่าว โดยแม่ของผู้ตายบอกว่าจะไปอยู่กับผู้ตายที่กรุงเทพฯ เพราะผู้ตายบอกว่าถ้าแม่ไม่มาหาลูกคงต้องตายแน่ๆ ด้วยความเป็นแม่จึงรีบเดินทางไปอยู่ด้วย แต่เมื่อกลับมาบ้านไม่ทันไร ก็มาทราบข่าวว่า น.ส.ช่อลัดดา เสียชีวิตแล้วจากฝีมือของสามีใหม่

ขณะที่ นางอ้อยหวาน จูมมาลี อายุ 31 ปี ญาติผู้ตาย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นครอบครัวได้มีการหารือกันแล้ว แยกเป็นคดีความที่เกิดขึ้นจากการกระทำของสามี ที่ทุกคนอยากให้ประหารชีวิต แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามกฎหมาย จึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเต็มที่ที่สุด ส่วนเรื่องของโรงพยาบาลพระราม 2 ที่ไม่ทำการรักษาจนกระทั่ง น.ส.ช่อลัดดา เสียชีวิตนั้น คงมอบหมายให้ทนายความดำเนินการเอาผิดในด้านต่างๆ เพราะครอบครัวไม่รู้กฎหมาย แต่การกระทำของโรงพยาบาลในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่รับไม่ได้และไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีกกับคนทั่วไป โดยเฉพาะคนยากจนที่ต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นนี้ ซึ่งเด็กวัย 12 ปี เพียงคนเดียวพาแม่ไปหาหมอ เพราะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น กลับถูกโรงพยาบาลไล่ให้ไปรักษาที่อื่น จนกระทั่งแม่ตายไปต่อหน้าต่อตา วันนี้เรื่องเกิดขึ้นแล้ว ครอบครัวได้นำร่างผู้เสียชีวิตกลับบ้านเพื่อมาประกอบพิธีศพ และจะมีการฌาปนกิจในวันที่ 14 พ.ย.นี้ ที่วัดแสงธรรมรังสี ส่วนน้องเตลูกสาวของผู้ตายนั้น จะมีการทำเรื่องย้ายมาเรียนที่ จ.ขอนแก่น เพื่อมาอยู่ในความดูแลของยายและญาติ เนื่องจากไม่มีคนดูแลหากเรียนต่อที่กรุงเทพฯ