นักการเมืองต้องศึกษาไว้! “แบ่งเขตเลือกตั้ง” ยังไงให้ชนะมากที่สุด!
BY : TEERAPAT LOHANAN
จากเหตุการณ์เมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา (30 พฤศจิกายน 2561) ที่ทางรัฐมนตรี คสช. ได้ออกมาใช้ ม.44 อีกครั้ง กับการแบ่งเขตเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งมีผลให้กกต. สามารถเปลี่ยนแปลงการแบ่งเขตเลือกตั้งได้ นอกเหนือจากสิ่งที่ กกต. ได้เคยดำเนินการมาแล้วในการทำประชาพิจารณ์ โดยเฉพาะประเด็นที่ ม.44 ที่ออกมาอนุญาตให้ กกต.สามารถทำสิ่งที่อาจผิดกับกับกฎเกณฑ์ กติกาต่างๆได้และให้ถือว่าเป็นการกระทำโดยชอบ
โดย "นายภูมิธรรม เวชยชัย" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวเอาไว้ว่า “การแบ่งเขตดังกล่าวเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นเป็นรูปธรรมว่ามีความพยายามที่จะแบ่งเขตโดยไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น เรื่องนี้ไม่ควรเกิดเพราะก่อนหน้าที่จะมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 กกต.ได้แบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จแล้ว ผ่านกระบวนการฟังความคิดเห็นจากพรรคการเมืองและประชาชนมาแล้ว แต่เมื่อ คสช.ออกคำสั่งมาให้สามารถเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้ง ทำอะไรก็ได้ อนุญาตให้ทำผิดกฎกติกาและหลักเกณฑ์ เท่ากับชัดเจนแล้วว่ามีเจตนาแอบแฝงเอื้อประโยชน์ ซึ่งหลักรัฐศาสตร์ระบุไว้ว่าการแบ่งเขตทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ”
และในความเป็นจริงแล้ว โมเดลของการแบ่งเขตเลือกตั้งในครั้งนี้ เป็น “การแบ่งเขตเลือกตั้งแบบอยุติธรรม”(Gerrymandering) หรือ “การแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อที่จะให้พรรคของตนเองเชียร์อยู่ ได้เปรียบหรือเป็นฝ่ายชนะขึ้นมา" ซึ่งเป็นการทำให้พรรคในฝ่ายที่ตนเองสนับสนุนอยู่นั้นได้กลายเป็นเสียงข้างมากจากประชาชน เพราะ สัดส่วนของ ประชาชนในพื้นที่รวม (ของเขตเลือกตั้ง) มีอิทธิพลในการ แบ่งเขตเลือกตั้งด้วย
คือ การออกแบบการแบ่งเขตการเลือกตั้งว่า จะทำอย่างไร และพรรคไหนจะชนะ ทั้งๆ ที่ประชากรผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งนั้น ส่วนใหญ่เป็นสีน้ำเงิน และการออกแบบ ก็สามารถทำให้ พรรคสีแดง ซึ่งเสียเปรียบจากจำนวนคน มีโอกาสที่จะ "ตีเสมอ" และสามารถทำให้เขตที่จะแพ้ กลายเป็น "การลุ้น" (Swing) ได้เช่นกัน
เรื่องนี้ ไม่จำเป็นว่า ประชากรในเขตมีเท่าไร ถ้าออกแบบเขตเลือกตั้งได้ดี ผลจะเป็นอย่างที่ตนเองต้องการ ถึงแม้ว่า ฝ่ายตรงข้าม จะมีประชากรมากกว่าก็ตาม
แต่ทางนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “เรื่องนี้ คสช. ไม่ได้สั่งให้ไปเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งนะ เพราะมันเป็นการตัดสินใจของ กกต. ต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้น นายกฯ ก็ยืนยันว่าการแบ่งเขตใหม่ครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อเอื้อประโยชน์พรรคการเมืองใด”
"เป็นการปรับพื้นที่ เพราะ 4-5 ปี ที่ผ่านมา จำนวนประชากรเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะต้องไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ถ้าเอาแบบเดิมแบบเก่า ประเทศจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ก็ลองดูว่าแบ่งเขตไปแล้วจะดีขึ้นหรือไม่ และถึงแบ่งเขตอย่างไร จะเข้าพรรคไหน ประชาชนไม่เลือกก็จบ อย่าดูถูกประชาชน เพราะประเทศไม่ใช่อยู่ที่คนไม่กี่คน ต้องอยู่ด้วยประชาชนทั้งประเทศ”
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ก็มีนักการเมืองจากหลายพรรคหลายฝ่ายได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปเป็นจำนวนมาก และก็มีอีกหลายฝ่ายออกมาชี้แจงถึงตัวอย่างการแบ่งเขตที่เห็นได้ชัดถึงความอยุติธรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่กำลังจะมาถึงนี้
อ้างอิง : https://www.thairath.co.th/content/1433073
ยังไม่เลือกตั้งเลย คสช.มีสว.250คนในมือแล้ว ขี้โกงฉิบหายเลย
07 ธ.ค. 2561 เวลา 11.56 น.
พรรคประชาธิปัตย์โกงเก่งสุด คสช.ใช้อำนาจที่ตัวเองเป็น กบฎ เอาเปรียบเลือกตั้งเก่งสุด สลิ่มเหลืองนกหวีดคิดเองไม่เป็นโง่เก่งสุด พรรคเพื่อไทยกูไม่รู้ว่าโกงยังไงนะแต่ สมัยโนนกูมีเงิน แต่ตอนนี้เศรษฐกิจแย่ คสช.อัปปรีจังไรสุดๆ
07 ธ.ค. 2561 เวลา 11.48 น.
ps.sod เลือกเพื่อไทย ไม่เอาเผด็จการ เข็ดแล้วอยู่มาจะ 5 ปี ไม่มีอะไรดีขึ้น
07 ธ.ค. 2561 เวลา 11.04 น.
รัฐธรรมนูญที่เผด็จการร่างขึ้น มาเพื่อปล้นอำนาจและเสียงของประชาชน
07 ธ.ค. 2561 เวลา 12.59 น.
เรื่องมากจริงๆ..มันจะได้เปรียบเสียเปรียบตรงไหน..ทุกพรรคก็ต้องส่งเหมือนกัน.มันอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน..และทุกคะแนนมีค่าหมด..เป็นการเลือกตั้งที่ดีที่สุดแล้ว.
07 ธ.ค. 2561 เวลา 13.57 น.
ดูทั้งหมด