ทั่วไป

"เมธี" ได้เงินเดิมพันครบแล้ว 1 ล้าน พร้อมเคลื่อนไหวถึง "ยอดวันเผด็จ"

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์
อัพเดต 16 พ.ย. 2565 เวลา 04.44 น. • เผยแพร่ 16 พ.ย. 2565 เวลา 03.59 น.

"เมธี อมรวุฒิกุล" ได้เงินเดิมพันครบแล้ว 1 ล้านบาท พร้อมเคลื่อนไหวถึง "ยอดวันเผด็จ สุวรรณวิจิตร" นัดวันวางเงินเดิมพัน

ชาวเน็ตจับตาอย่างหนักสำหรับศึกระหว่าง "เมธี อมรวุฒิกุล" และ "ยอดวันเผด็จ สุวรรณวิจิตร" จากกรณีที่มีข่าวออกมาว่าต้องเลื่อนวางเงินเดิมพัน จากเดิมวันที่ 15 พ.ย. 65 เลื่อนออกไปกะทันหัน ทางด้านของ "เสี่ยโบ๊ท" ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวประกาศถอนตัวจากการเป็นโปรโมเตอร์มวยคู่นี้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
เมธี ได้เงินเดิมพันครบแล้ว 1 ล้าน พร้อมเคลื่อนไหวถึง ยอดวันเผด็จ

ซึ่งฝั้งทางด้านของเมธี ได้ออกมาเผยว่า ที่ต้องเลื่อนกำหนดวางเงินเดิมพัน เนื่องจากว่านายทุนเกิดถอนตัวกะทันหันในคืนก่อนถึงกำหนด โดยก่อนหน้านี้ได้มีการเสนอเงินทุนให้ตนจำนวน 1,500,000 บาท ในการเดิมพันครั้งนี้ จากนั้นประมาณเที่ยงคืนนายทุนก็ให้ลูกน้องติดต่อมาถอนตัว เลยทำให้ตนต้องเลื่อนกำหนดการวางเงินเดิมไปก่อน

เมธี ได้เงินเดิมพันครบแล้ว 1 ล้าน พร้อมเคลื่อนไหวถึง ยอดวันเผด็จ
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ล่าสุด เมธี ได้ไลฟ์สดเผยว่า ตอนนี้หาเงินเดิมพันครบแล้ว 1,000,000 บาท ต่อไปก็จะทำการนัดวันกับทางพี่วันเผด็จเพื่อวางเงินเดิมพัน

เมธี ได้เงินเดิมพันครบแล้ว 1 ล้าน พร้อมเคลื่อนไหวถึง ยอดวันเผด็จ

โดยทางด้านของ ยอดวันเผด็จ ก่อนหน้านี้ได้ออกมาเผยว่า ตนพร้อมชกกับเมธีเช่นกัน รอให้ฝั่งเมธีพร้อมเรื่องเงินเดิมพัน รอได้เสมอพร้อมเมื่อไรว่ามาเลย ซึ่งผู้พันวิทย์ได้เปิดใจกับทีมข่าวไทยนิวส์ ว่า ตนเองทราบข่าวจากเสี่ยโบ๊ทว่าทางด้านของน้องเมธี ขอเลื่อนชกเนื่องจากทุนไม่พอ ส่วนตัวตนก็ยังให้โอกาสเขาอยู่ และไม่ได้ไปบีบบังคับเขาว่าจะต้องชกเมื่อไร

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
เมธี ได้เงินเดิมพันครบแล้ว 1 ล้าน พร้อมเคลื่อนไหวถึง ยอดวันเผด็จ

ขณะที่ยอดเงินทุนของตนเองมีพร้อมแล้ว 1 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นยอดเงินสนับสนุนจากประชาชนที่ต้องการสนับสนุนตน ในเบื้องต้นก็ได้มีการทยอยคืนแล้ว แต่ถ้าฝั่งน้องเมธีพร้อมแล้ว ยอดเงินจำนวนนี้ก็สามารถนำกลับมาเป็นทุนในการขึ้นชกได้ ทั้งนี้ก็ต้องให้โอกาสเขาในการหาเงินทุนดังกล่าวมาเดิมพันชก

เมธี ได้เงินเดิมพันครบแล้ว 1 ล้าน พร้อมเคลื่อนไหวถึง ยอดวันเผด็จ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews

ดูข่าวต้นฉบับ