ทั่วไป

“Status” ภาพสะท้อนความสัมพันธ์ ของ ‘การไร้สถานะ’ ในหมู่วัยรุ่นยุคปัจจุบัน

Another View
เผยแพร่ 07 มี.ค. 2562 เวลา 13.00 น.

“Status” ภาพสะท้อนความสัมพันธ์ ของ ‘การไร้สถานะ’ ในหมู่วัยรุ่นยุคปัจจุบัน

ฉันรู้ว่าเธอก็รู้สึก
และรู้ว่าเธอจริงใจ
คล้ายคล้ายว่าเรานั้นคบกัน
เพียงไม่รู้ว่ามันคือแบบไหน…”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เนื้อเพลงในสไตล์ K-POP R&B ของลุลา ‘Status’ แค่ขึ้นมาประโยคแรก ๆ ก็ทำให้รู้แล้วว่า เพลงนี้เริ่มต้นด้วย ‘ความไม่ชัดเจน’ และนี่แหละคือภาพสะท้อนปัญหาสังคมปัจจุบัน ท่ามกลาง status ที่ใครหลาย ๆ คนในสังคมมักเป็นกัน นั่นคือ "เราเป็นอะไรกันก็ไม่รู้"
เพราะรูปแบบความสัมพันธ์ของคนในสังคม ปัจจุบันมีความซับซ้อนและหลากหลายมาก หลายครั้งที่เราเผลอสร้างสเตตัสความสัมพันธ์ในรูปแบบแปลก ๆ ที่มีความคลุมเครือ…

แต่จริง ๆ แล้ว สถานะหรือ"status"  มีความสำคัญอย่างไร?
สถานะความสัมพันธ์หรือrelationship status” เป็นตัวชี้วัดที่บอกผู้คนถึงคุณลักษณะของรูปแบบความสัมพันธ์ของคนสองคนว่าเขาทั้งคู่เป็นอะไรกัน ตั้งแต่คนรู้จัก เพื่อน แฟน คู่รัก คู่สมรส กิ๊ก ชู้ ศัตรู ไปจนถึงคนไม่รู้จัก โดยที่การระบุสถานภาพทางสังคมด้านความสัมพันธ์ จะเป็นประโยชน์ในเรื่อง "การสร้างความชัดเจน" และ "การแสดงความเป็นเจ้าของ" ในการปฏิบัติตนต่อกันบนความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น
 

เมื่อไหร่ก็ตาม ที่สถานะชัดเจน เราจะสบายใจเสมอ ที่จะทำอะไรให้ถูกต้อง และมีเกณฑ์ที่แน่ชัดว่า เรานอกใจไม่ได้เพราะอะไร เราจะไม่ไปทำอะไรให้คู่ของเราไม่สบายใจ
แต่ในทางตรงกันข้าม เมื่อไหร่ก็ตามที่สถานะไม่ชัดเจน เมื่อนั้นจะตามมาด้วยปัญหา ทั้งการวางตัวต่อบุคคลในความสัมพันธ์ กับคนรอบข้างบุคคลนั้น หรืออิสระในการกระทำที่มีความไม่แน่ใจว่าถูก หรือผิด เพราะเกณฑ์ที่ไม่ชัดเจน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

"ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่นา" ประโยคง่ายมักใช้เป็นข้ออ้างให้ทำผิดซ้ำๆ
การไม่สร้างเส้นแบ่งในความสัมพันธ์ จะทำให้การคบกันมีโอกาสพังพินาศสูงมาก ไปจนถึงอนาคตที่เราเรียกว่า ‘การมองหน้ากันไม่ติด’ หรือเกลียดกันเข้ากระดูกไปเลยก็มี เพราะความคลุมเครือ พาเราเผลอไปละเมิดอีกฝ่าย ด้วยการทำผิดต่าง ๆ นานา ที่ตามมาด้วยข้ออ้างของความสัมพันธ์ที่ว่า "ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่นา" และด้วยข้ออ้างนี้เอง มันเปิดโอกาสให้เราทำตัวชุ่ย ๆ และไม่ใส่ใจกับความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดนั้น เพื่อให้เรามีโอกาสได้ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะเป็นการนอกใจ หรือการล่วงเกินบุคคล…
มีหลายคนที่มักจะกล่าวแบบแมน ๆ ว่า
"ความสัมพันธ์ก็เป็นแค่ความรู้สึกของคนสองคนไม่มีอะไรซับซ้อนไม่ต้องมาสัญญามีพันธะผูกพันอะไรแค่เรารู้กันสองคนในใจก็เพียงพอแล้วว่าเรารู้สึกดีต่อกันอย่างไร"
อย่างเช่นในเพลง status ของลุลา จะพูดถึง "ความรู้สึก" ของคนทั้งสองฝ่าย ที่ต่างรู้สึกดีเหมือน ๆ กัน แต่ไม่ได้เป็นอะไรกัน นั่นส่งผลให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปต่อแบบไร้ทิศทาง เดินไปข้างหน้าไม่มีอนาคต และเมื่อไม่รู้อนาคต จึงทำให้การก้าวเดินไปต่อของความสัมพันธ์แบบไร้สถานะ มีความอึดอัดปนอยู่ในนั้น

การสื่อสารทำให้รู้ว่าขณะนี้กำลังอยู่ในสถานะที่คนทั้งคู่เข้าใจตรงกัน
ความสัมพันธ์ที่ดีที่ควรจะเป็น ต้องมี "การสื่อสารกำกับ" เสมอ ให้คนสองคนคิดและรู้สึกตรงกันจริง ๆ ว่ามันคืออะไร และอยากจะเป็นอะไรต่อกัน มิเช่นนั้นแล้ว มันจะเป็นความผูกพันที่ไม่แข็งแรง เป็นความเปราะบางที่ถูกสร้างขึ้นจากความสัมพันธ์แบบหลวม ๆ เมื่อคนหนึ่งก็ไม่ชัด และอีกคนก็ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วอีกคนคิดอย่างไร
 

“….บอกหน่อยได้ไหมว่าจะให้เป็นอะไรของเธอ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ช่วยตอบได้ไหมว่าคนคนนี้ที่เธอพบเจอและยืนข้างกายอยู่ในสถานะใด
ให้เป็นคนรักที่เธอจะคอยดูแลเรื่อยไปหรือว่าแบบไหนไม่อยากเป็นคนที่เธอพบกันแค่ตอนเหงาใจ
ให้เป็นแบบไหนช่วยทีให้มันชัดเจน…”

การถามหาความชัดเจนคือกุญแจของทางออก

ทางออกของปัญหาความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ ปรากฏผ่านการสื่อสารในเนื้อเพลงนี้ อยู่ในท่อน Hook ที่ราวกับตั้งใจเขียนไว้ เพื่อเป็นกุญแจของปัญหา นั่นคือ "การถาม”…ถามหาความชัดเจนจะเป็นคำตอบชัด ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่า ณ ปัจจุบัน กำลังคบกันแบบไหนแน่ หรือควรจะไปต่อในแบบไหนกันดี
แน่นอนว่า การถามลักษณะนี้ นำไปสู่ทางออก ไปในรูปแบบของคำตอบสองทาง เป็นไปได้ทั้ง Yes or No กล่าวคือ อาจสร้างความเจ็บปวดที่ถูกปฏิเสธ หรือ อาจจะไปในทางบวก ที่เป็นความสุขสมหวัง

พอมีคำตอบที่เป็นไปได้ทั้งสองแบบ คนถามที่ต้องการความชัดเจน จึงกลัว "ความเสี่ยง" ที่เกิดจากคำตอบซึ่งไม่อาจคาดเดาได้ นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่หลายคน ‘ปล่อยเบลอ’ คือการจมอยู่กับความคลุมเครือต่อไป เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้น เพราะกลัวการถูกปฏิเสธความสัมพันธ์ที่ตนไม่ต้องการให้เป็นไปแบบคลุมเครือต่อไปอีกแล้ว
แต่จริง ๆ แล้ว ความเสี่ยงของการถามคำถามที่ว่า "ตกลงเราเป็นอะไรกันเราคบกันแบบไหน?" ถือเป็นทางออกที่ฉลาดที่สุด เพราะมันพาความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นไปสู่อนาคต ไม่ใช่แค่ yes หรือ no ที่พาเศร้าใจ หรือกระโดดดีใจที่ได้รับความชัดเจนในความรัก แต่มันหมายถึง "อนาคตที่คนสองคนจะไปต่อได้" ไม่ว่าจะสุขสม หรือทุกข์ระทมใจก็ตาม
ใช่หรือไม่ใช่ยังไงชีวิตเราก็ต้องก้าวไปต่อ

ถ้าคำตอบคือใช่ ก็แค่คบกันและไปต่อในความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ แต่ถ้าไม่ ก็ไปต่อเหมือนกัน แต่เป็นการแยกย้ายไปเริ่มต้นใหม่จริง ๆ กับคนที่สามารถจะให้ "ความชัดเจน" กับเราได้ บนความสัมพันธ์ที่เราต้องรู้เสมอว่า 'ตกลงเราเป็นอะไรกับคนตรงหน้าที่เราคบอยู่?'
ถ้าคู่ไหน ๆ ที่คบกันมาพักหนึ่งแล้ว แต่คุณยังคงตอบถึงรูปแบบความสัมพันธ์ที่ ‘ชัดเจน’ ไม่ได้ว่าเป็นอะไรกัน…วันหนึ่งข้างหน้า คุณต้องรู้ และทำใจเอาไว้เลยว่า 'หายนะของความสัมพันธ์' ของคุณกับอีกคน ก็แค่กำลังรอวันปะทุในอนาคต…ไม่ช้า ก็เร็ว

ฟัง “Status” ของ “ลุลา” feat. Ben Bizzy สามารถติดตามได้ทุกคลื่นวิทยุ 
ดาวน์โหลดได้ แล้ววันนี้ ที่ *1230038 / APPLE MUSIC/ ITUNE / JOOX/ SPOTIFY 
และรับชม MV “Status” ได้ที่ : https://youtu.be/zbMj2p_2kzo 

ความเห็น 18
  • Topaz
    Status สำหรับบางคนที่มองว่าไม่สำคัญ แต่กับบางคนมันคือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะยึดเหนี่ยวกันไว้ (โดยเฉพาะคนไกลกัน)​ ซึ่งมันก็หมายถึงสถานะความเป็นเจ้าของ บนสังคมออนไลน์อย่างมองแค่ว่าเรื่องแค่นี้ มันก็เหมือนการแต่งงานนั่นแหละ คนที่แต่งงานกันแล้วอยู่ๆ กันไปยังเลิกกันได้ นับประสาอะไรกับคนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันล่ะ ปล.เศร้าชิปหาย
    07 มี.ค. 2562 เวลา 13.31 น.
  • ก็จริงนะ คำเดี๋ยวนี้ใช้กันมั่วหมด แต่ก็เพราะมันมีความซับซ้อน ไม่ว่าเรื่องชิวิตส่วนตัว สภาพเพศที่หลากหลาย สังคมที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้มุมมองความคิดคนรุ่นใหม่ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อีกหน่อยน่าจะมีหุ่นผัวหุ่นเมียเอไอแน่ๆๆ
    07 มี.ค. 2562 เวลา 13.32 น.
  • J
    Statusมันจะสำคัญยังไงเป็นผัวเมียยังเลิกกันได้
    07 มี.ค. 2562 เวลา 13.14 น.
  • อยากให้วัฒนธรรมนี้มันจบลงสักที
    07 มี.ค. 2562 เวลา 14.05 น.
  • HWPD 754 ปัตตานี
    เมื่อถึงเวลาก็เจอเองครับ
    07 มี.ค. 2562 เวลา 13.19 น.
ดูทั้งหมด