In focus
- ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย เพิ่งพบปะหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่กรุงเฮลซิงกิ แต่สาระสำคัญของการหารือแบบสองต่อสองเป็นเวลา 2 ชั่วโมงนั้น ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด
- ไม่ทันข้ามสัปดาห์ รัสเซียก็เผยแพร่คลิปวีดิโอชุดใหญ่ แสดงให้เห็นขีปนาวุธหลายแบบ แต่ละแบบล้วนเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าความเร็วเสียง แถมกองทัพสหรัฐฯ ก็ยอมรับว่า ยังไม่มีขีดความสามารถจะสกัดกั้นขีปนาวุธไฮเทคเหล่านี้
- อาวุธความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียง คือ ขีปนาวุธที่เดินทางด้วยความเร็วเหนือกว่าความเร็วเสียงเกิน 5 เท่าขึ้นไป ศัพท์เฉพาะเรียกว่า มัก 5 (Mach 5) นั่นหมายถึงอัตราเคลื่อนที่วินาทีละ 1.6 กิโลเมตร
หลังจากซัมมิต ‘ทรัมป์-ปูติน’ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียอวดโฉมอาวุธความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียงชุดใหม่ ในแบบที่กองทัพอเมริกันต้องยอมรับว่า ยังไม่มีขีดความสามารถที่จะสกัดกั้นขีปนาวุธไฮ-เทคเหล่านี้
ในคลิปวีดิโอที่รัสเซียเผยแพร่เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม แสดงให้เห็นขีปนาวุธหลายแบบ แต่ละแบบล้วนเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าความเร็วเสียงเกิน 5 เท่าขึ้นไป อาวุธความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียงเหล่านี้ ทำให้เกิดความวิตกกันว่า รัสเซียกับสหรัฐฯ อาจเปิดเกมแข่งขันสร้างสมอาวุธอีกครั้ง ซ้ำรอยบรรยากาศยุคสงครามเย็น
ที่มาภาพ: Sergei Karpukhin / Reuters
ยิ่งกว่านั้น การแสดงแสนยานุภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย เพิ่งพบหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่กรุงเฮลซิงกิ เมื่อวันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม เป็นการพบปะกันที่หลายฝ่ายกังวล เพราะจนตอนนี้ สาระสำคัญของการหารือแบบสองต่อสองเป็นเวลา 2 ชั่วโมงนั้นมีอะไรบ้าง ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด
ประเด็นหลักจากซัมมิตเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่สื่อมวลชนตีข่าวครึกโครม มีเพียงว่า ทรัมป์ไม่ได้เล่นงานปูตินในเรื่องที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งของอเมริกา มิหนำซ้ำ ยังตำหนินโยบายต่างประเทศของรัฐบาลอเมริกันชุดก่อนๆ ว่า “โง่เขลาและบ้องตื้น”
ด้วยความที่ต่างเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ ถือเป็นคู่แข่งทางยุทธศาสตร์ในการเมืองโลก รัสเซียกับสหรัฐฯ จึงมีประเด็นต้องสะสางกันอยู่มาก หนึ่งในประเด็นเหล่านั้นก็คือ การควบคุมอาวุธ
ในซัมมิตครั้งนี้ ไม่มีการออกแถลงการณ์ร่วม หรือการลงนามเอกสารใดๆ ตามมา ปูตินกับทรัมป์หยิบยกเรื่องการควบคุมอาวุธขึ้นพูดจากันบ้างหรือไม่ อย่างไร ไม่มีใครรู้ นอกจากล่ามสุภาพสตรีที่นั่งร่วมวงอยู่ด้วยเพียงคนเดียว
การอ่านและตีความเจตนาของรัฐ ต้องอาศัยข้อมูลสารพัด ตั้งแต่สภาพแวดล้อมระหว่างประเทศ ประวัติและสถานะความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ และอื่นๆ เรื่อยไปจนถึงการพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร
ดังนั้น ท่ามกลางความไม่แน่ชัดเกี่ยวกับผลลัพธ์ของซัมมิต เมื่อรัสเซียเปิดตัวอาวุธความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียง คล้อยหลังการประชุมสุดยอดในเวลาไม่ทันข้ามสัปดาห์ จึงน่าสนใจว่า รัสเซียมีเจตนาอะไร คำถามแบบนี้ ต้องรอฟังผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ แต่ในที่นี้ ขอหยิบส่วนเสี้ยวเดียวเอามาเล่าสนุกๆ ดีกว่า
วิทยาการจรวด
แวดวงการทหารอเมริกันจับตาเรื่องอาวุธความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียงกันมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ปูตินแถลงนโยบายประจำปีในสภาเมื่อ 1 มีนาคม 2018
อาวุธความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียง คือ ขีปนาวุธที่เดินทางด้วยความเร็วเหนือกว่าความเร็วเสียงเกิน 5 เท่าขึ้นไป ศัพท์เฉพาะเรียกว่า มัก 5 (Mach 5) นั่นหมายถึงอัตราเคลื่อนที่วินาทีละ 1.6 กิโลเมตร
นึกภาพเปรียบเทียบง่ายๆ เครื่องบินพาณิชย์ทั่วไปบินเร็วต่ำกว่าความเร็วเสียง คือ ไม่ถึงมัก 1 ในขณะที่เครื่องบินรบไอพ่นทำได้ที่มัก 2 หรือมัก 3
เคล็ดลับของการทำความเร็วที่สูงขนาดนั้น อยู่ที่การพัฒนาระบบสันดาปภายในเครื่องยนต์ขับดัน จากระบบเจ็ตกลายเป็นสแกรมเจ็ต (supersonic combustion ramjet) ปูตินโอ่อวดอย่างภาคภูมิใจว่า อาวุธความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียง ทำความเร็วได้ถึงมัก 20 !
อาวุธในตระกูลนี้ แบ่งเป็น 3 แบบ คือ ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงยิ่งยวด (hypersonic ballistic missile) จรวดร่อนความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียง (hypersonic cruise missile) และยานร่อนความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียง (hypersonic glide vehicles)
ขีปนาวุธกับจรวดร่อน ต่างกันตรงที่ว่า อย่างแรก จะเคลื่อนที่ไปตามแนววิถีหลังจากหมดแรงขับ คือ เมื่อเครื่องยนต์ขับดันหยุดทำงานแล้ว มันจะพุ่งต่อไปตามโมเมนตัมและแรงโน้มถ่วง ส่วนอย่างหลังจะมีเครื่องยนต์ทำงานโดยตลอดจนพุ่งชนเป้าหมาย
จรวดร่อนมีความร้ายกาจกว่าขีปนาวุธ เพราะจรวดร่อนสามารถเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา บินเชิดบินดิ่งได้ ศัพท์เฉพาะเรียกว่า ความสามารถในการควบคุมทิศทางและระดับบิน (maneuverability)
รัสเซียมีดีต้องอวด
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม กระทรวงกลาโหมของรัสเซียนำวิดีโอการทดสอบอาวุธความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียงออกอากาศให้ประชาชนชม
อย่างแรกคือ ขีปนาวุธความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียง ชื่อ Kinzhal หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Dagger (มีดสั้นสองคม) เจ้าตัวนี้มีความเร็วที่มัก 10 เริ่มนำเข้าประจำการแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนในย่านทะเลแคสเปียน วิธีใช้คือ ปล่อยจากเครื่องบินรบ มิก-31 อีกรุ่นในกลุ่มนี้คือ ขีปนาวุธข้ามทวีป ชื่อ Sarmat ทำความเร็วได้ถึงมัก 20
เครื่องบินรบ มิก-31
อย่างที่สอง จรวดร่อนความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียง ชื่อ Burevestnik หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Storm Petrel (นกโต้คลื่น) ซึ่งเครื่องยนต์ขับดันด้วยเชื้อเพลิงนิวเคลียร์
อย่างที่สาม ยานร่อนความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียง ชื่อ Avangard (ล้ำยุค) เจ้ารุ่นนี้ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ ทำความเร็วถึงมัก 20 เมื่อเดือนมีนาคม ปูตินโอ่อวดถึงยานร่อนตัวนี้ด้วยน้ำเสียงประกาศศักดา
สหรัฐฯไม่มีระบบป้องกัน
พลอากาศเอก จอห์น ไฮเทน ผู้บัญชาการกองกำลังทางยุทธศาสตร์สหรัฐฯ บอกกับคณะกรรมาธิการการทหารของวุฒิสภาเมื่อเดือนมีนาคม หลังจากปูตินอวดอาวุธความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียงว่า สหรัฐฯ ไม่มีระบบป้องกันพวกจรวดร่อนหรือยานร่อน อเมริกาต้องอาศัยการป้องปรามเป็นหลัก
พูดง่ายๆ ว่า เวลานี้ สหรัฐฯ ต้องพึ่งขีดความสามารถด้านอาวุธนิวเคลียร์ ด้วยความคาดหมายว่านิวเคลียร์จะทำให้ปรปักษ์รู้สึกครั่นคร้ามที่จะโจมตี
ริชาร์ด สเปียร์ ทีมงานของแรนด์ หน่วยงานคลังสมองด้านความมั่นคงในสหรัฐฯ บอกในทำนองเดียวกันว่า สหรัฐฯ ยังไม่มีระบบป้องกันที่หวังผลได้ เนื่องจากระบบป้องกันในปัจจุบันออกแบบสำหรับยิงสกัดกั้นพวกขีปนาวุธ (ballistic missile) เป็นหลัก
เปรียบเทียบให้เห็นภาพ ขีปนาวุธเป็นคล้ายกับลูกเบสบอล เรารู้ว่าจะดักจับลูกได้ในตำแหน่งใดเพราะเราเห็นทิศทางของมัน
แต่จรวดร่อนหรือยานร่อนสามารถเปลี่ยนทิศทางและระดับบินได้ จึงไม่อาจคาดได้ว่ามันจะพุ่งไปทางไหน ดังนั้น จึงไม่สามารถยิงสกัดได้
ถ้าจะป้องกันอาวุธจำพวกนี้ สเปียร์บอกว่า สหรัฐฯ ต้องทำ 2 อย่าง หนึ่ง ติดตั้งระบบตรวจจับในอวกาศ เพื่อให้สามารถติดตามเส้นทางของยานร่อนได้ทั่วโลก สอง สร้างระบบสกัดกั้นสายพันธุ์ใหม่สำหรับรับมืออาวุธความเร็วสูงเหล่านั้น
ตามข่าวบอกว่า อันที่จริง นอกจากรัสเซียแล้ว สหรัฐฯ กับจีนกำลังซุ่มพัฒนาอาวุธความเร็วยิ่งยวดเหนือเสียงเช่นกัน แต่ยังอุบไต๋เงียบ เพราะถือเป็นความลับทางการทหาร
เหตุที่ปูตินเอามาอวดก่อนใคร เข้าใจได้ไม่ยาก ตอนที่เขาคุยโอ่ในสภานั้น รัสเซียกำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี แล้วเขาก็ได้นั่งเก้าอี้ต่อเป็นสมัยที่สี่เมื่อเดือนพฤษภาคม
อ้างอิง:
ภาพหน้าแรก: การซ้อมพาเหรดในวันแห่งชัยชนะที่มอสโก มีการนำขีปนาวุธข้ามทวีปมาจัดแสดงด้วย (ภาพเมื่อ 6 พฤษภาคม 2018 โดย REUTERS/Tatyana Makeyeva)
กรูอยากรู้แต่ความลับในArea51ของไอ้กัน.. อะไรที่มันไฮเทคสุดขีดไอ้กันไม่เว่อร์อวดให้ขู่แข่งล้วงข้อมูลไปศึกษาขึ้นมาเทียบชั้นหรอก
22 ก.ค. 2561 เวลา 15.43 น.
รัสเซีย เหนือกว่าตั้งนานแล้ว ทั้งเทคโนโลยีอวกาศ เทคโนโลยีอาวุธ..
22 ก.ค. 2561 เวลา 16.36 น.
แน่เหรอว่าเรวกว่าเสียงไม่น่าใช่
23 ก.ค. 2561 เวลา 01.04 น.
panu คงวางแผนผลิตอาวุธขายไทยแน่ๆ เลย
22 ก.ค. 2561 เวลา 16.39 น.
WANLOP ไอ้กัน นำโดยไอ้ทรัม มันต้องเจอ รัฐเซีย นำโดยท่านปูติน และ จีน นำโดยท่านสี่จิ้นผิง คานอำนาจความกร่างของไอ้กันที่มันทดรองได้ทุกอย่าง รังแกประเทศเล็ก ๆ จัดการทุกเรื่องที่ไอ้กันเสียประโยชน์ แม้แต่ทวีปอเมริกา ไอ้กันก็ฆ่าและปล้นชนเผ่าพื้นเมือง "อินเดียแดง" จนสิ้นซากและยึดมาเป็นเจ้าของประเทศ ที่จริง USA ควรเป็นชื่อ "ซาตาน" ถึงจะถูกต้อง
22 ก.ค. 2561 เวลา 16.39 น.
ดูทั้งหมด