สุขภาพ

“สารี”แฉสารพัดอาหารใช้ “ไขมันทรานส์”

new18
อัพเดต 17 ก.ค. 2561 เวลา 06.41 น. • เผยแพร่ 17 ก.ค. 2561 เวลา 06.35 น. • new18
“สารี” หนุนยุติการใช้ “ไขมันทรานส์” ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งโรคหัวใจหลอดเลือด พบสารพัดใน ขนมเค้ก ขนมอบกรอบ ครีมเทียม เนยเทียม เครื่องดื่มใส่ครีมเทียม พิซซ่า ป๊อบคอร์น โดนัท จี้ อย. ตรวจสอบผู้ประกอบการทำตามประกาศหรือไม่

“สารี” หนุนยุติการใช้ “ไขมันทรานส์” ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งโรคหัวใจหลอดเลือด พบสารพัดใน ขนมเค้ก ขนมอบกรอบ ครีมเทียม เนยเทียม เครื่องดื่มใส่ครีมเทียม พิซซ่า ป๊อบคอร์น โดนัท จี้ อย. ตรวจสอบผู้ประกอบการทำตามประกาศหรือไม่

จากกรณีที่ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย โดยระบุว่า ปรากฏหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่ากรดไขมันทรานส์ (Trans Fatty Acids) จากน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) ส่งผลเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งนี้ ให้ประกาศดังกล่าวใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 13 มิ.ย.2561

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) กล่าวว่า ประกาศฉบับนี้ มีผลบังคับใช้อีก 180 วัน ซึ่งคิดว่านานไป แต่ก็ต้องยอมรับและเป็นการให้โอกาสผู้ประกอบการในการเตรียมตัวที่จะเปลี่ยนสูตรในการผลิต โดยไขมันทรานส์มักพบอยู่ในขนมเค้ก ขนมอบกรอบ ครีมเทียม หรือเนยเทียม กาแฟใส่ครีมทรีอินวัน เครื่องดื่มที่ใส่ครีมเทียม พิชซ่า ป๊อบคอร์น โดนัท ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งโรคหัวใจหลอดเลือด เมื่อเป็นโรคดังกล่าวจะมีความรุนแรงและมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง จึงคิดว่ามีความจำเป็นที่ต้องยุติการใช้ไขมันทรานส์
น.ส.สารี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มพบ. ได้มีการแถลงผลทดสอบไขมันทรานส์ในโดนัท รสช็อกโกแลต จำนวน 13 ยี่ห้อ พบว่ามี 5 ยี่ห้อ ที่มีปริมาณไขมันทรานส์อยู่ในเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด หลังจากนั้นมีผู้ประกอบการ 2 ราย ที่ มพบ. เผยผลทดสอบออกมาแล้วพบว่ามีส่วนผสมไขมันทรานส์เกินมาตรฐาน ได้ทำจดหมายมาถึง มพบ. ว่าได้เปลี่ยนสูตรการทำโดนัทแล้ว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“เราสนับสนุน อย. ในการออกประกาศฉบับนี้ เนื่องจากเป็นผลดีต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ด้วยระยะเวลา 180 วัน น่าจะเพียงพอที่ผู้ประกอบการจะมีการปรับตัวและหันมาปรับปรุงสูตร อีกทั้งเมื่อผู้บริโภคตื่นตัวเรื่องไขมันทรานส์ ก็จะทำให้ผู้ประกอบการหันมาสนใจเรื่องนี้มากขึ้นและนำไปสู่การปรับปรุงสูตร ซึ่งจะเป็นผลดีกลับไปสู่ผู้บริโภคต่อไป นอกจากนี้ หลังออกประกาศไปแล้ว อย. ควรติดตามตรวจสอบด้วยว่าผู้ประกอบการมีการทำตามระเบียบฉบับนี้มากเพียงใด คิดว่าเวลา 6 เดือนเพียงพอสำหรับผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนตรงนี้” น.ส.สารีกล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟันแล้ว! สธ. แบน “ไขมันทรานส์” เด็ดขาด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 2
  • ก่อนอื่นขอให้ก.พาณิชย์สั่งงดขายน้ำมันปาล์มให้ได้ก่อน รณรงค์ให้ผู้บริโภคหันมากินน้ำมันหมูแทน
    17 ก.ค. 2561 เวลา 23.12 น.
  • 𝓁<𝒂𝓂𝑜𝓁
    ทำไมไม่บอกชื่อตรงๆ หรือให้หน่วยงานรัฐไปตรวจสอบแล้วบอกชื่อร้านมาเลย แบรนสินค้า อย่างมันฝรั่ง มีหลายแบรน บอกอย่างนี้เหมารวมไม่ต้องกินเลยมั้ย
    17 ก.ค. 2561 เวลา 13.38 น.
ดูทั้งหมด