ไลฟ์สไตล์

ยิ่งภาวนา อัตตายิ่งโต? งานศึกษาพบว่าโยคะและการทำสมาธิอาจทำให้อีโก้สูงขึ้น

The MATTER
เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2561 เวลา 12.49 น. • Pulse

การทำสมาธิภาวนาและการเล่นโยคะเป็นศาสตร์ตะวันออกที่กำลังเป็นที่นิยมในโลกตะวันตก แนวปฏิบัติดังกล่าวถือเป็นแนวทางการปฏิบัติของพุทธศาสนา แนวทางที่เชื่อในการลดทอนตัวตน ลดทอนอัตตาของเราลง แต่นักวิชาการทำการทดลองแล้วพบว่า ผลการปฏิบัติสมาธิและการเล่นโยคะกลับมีแนวโน้มจะทำให้อัตตาของเราใหญ่ขึ้นแทนที่จะเล็กลง

นักวิจัยทางจิตวิทยาเริ่มจับตามองกระแสความนิยมการฝึกจิตที่กำลังเฟื่องฟู และค่อนข้างมองเห็นว่า การฝึกจิตดูจะมีความยอกย้อนในตัวเอง คือตามแนวปฏิบัติดั้งเดิมว่าด้วยการลดทอนตัวตนลง แต่ในทางกลับกันการที่ฝึกอะไรจนเก่งขึ้นเป็นทักษะ เราก็มีแนวโน้มที่ตัวตนของเราจะใหญ่ขึ้น การโตขึ้นของอัตตานี้สอดคล้องกับความคิดของนักจิตวิทยาชื่อ William James ที่มองว่าการฝึกทักษะใดๆ ทำให้ตัวตนเราเข้มข้นขึ้น นักจิตวิทยาเรียกว่า self-enhancement ประมาณว่าเราเห็นตัวเองดีกว่าหรือใหญ่ขึ้น เข้าข้างตัวเองขึ้นกว่าปกติ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อืม ยอกย้อนเนอะ การฝึกจิตบอกให้เราลดทอนอัตตา แต่การฝึกความสามารถไปจนถึงความมั่นใจก็อาจทำให้เราหลงอยู่ในอัตตาอีกที…ซับซ้อน มีงานวิจัยสองชิ้นที่พยายามศึกษาผลของการปฏิบัติสมาธิและการเล่นโยคะ ในงานศึกษาจากมหาวิทยาลัย Southampton ก็ใช้แนวคิดเรื่อง self-enhancement และ self-centrality ไปประเมินอาสาสมัครที่เล่นโยคะและปฏิบัติภาวนาเป็นเวลา 15 สัปดาห์ พบว่าทั้ง self-enhancement และ self-centrality มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เทียบกับช่วงเวลาที่ไม่ได้เล่นโยคะ

อัตตาจริงๆ ค่อนข้างวัดยากแต่ตัวงานศึกษามีวิธีวัด self-enhancement ที่ค่อนข้างหลายชั้น เช่น ให้นักเรียนโยคะเทียบตัวเองกับนักคนคนอื่นๆ ในคลาส ให้ทดลองทำแบบทดสอบที่ดูแนวโน้มการหลงตัวเอง และให้ตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับความเคารพตนเอง (self-esteem)

อนึ่ง ผลการศึกษาดังกล่าวอาจจะเป็นประเด็นว่ากระแสการฝึกจิตในตะวันตกอาจฝึกไปในทางที่ไม่ถูกต้องและไม่อาจนำผู้ฝึกไปสู่เป้าหมายดั้งเดิมได้ เพราะว่าอาสาสมัครทั้งหมดเป็นคนที่เล่นโยคะและปฏิบัติภาวนาในเยอรมัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ในประเทศตะวันออกหรือแม้แต่บ้านเราเองที่เป็นเมืองพุทธ การปฏิบัติกรรมฐานและเป้าหมายเพื่อลดอัตตายังเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ นักคิดบางคนก็บอกว่า การหลับตาอยู่กับตัวเองบางครั้งแทนที่จะเป็นการพิจารณาความไม่เที่ยงแท้และลดอัตตาลง กลับกลายเป็นการอยู่กับตัวเองและเห็นตัวเองใหญ่โตขึ้น

อ้างอิงข้อมูลจาก

qz.com

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

eprints.soton.ac.uk

psychology.iresearchnet.com

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 68
  • Rungkiat
    มองตัวเอง แล้วพิจารณา ตัวเราเป็นแบบนั้นหรือเปล่า เมื่อเราสนใจสิ่งใดใส่ใจทุ่มเท จนเราคิดว่าเรารู้มากกว่าคนอื่น ส่วนลึกเราก็จะ เกิดอัตตาขึ้นมา. ผมก็เป็น. ขอบคุณบทความนี้ครับ
    23 มิ.ย. 2561 เวลา 17.29 น.
  • อาจจะไม่รู้จัก ดิน น้ำ ไฟ ลม ดีพอ เลยหลงรักมั้ง
    23 มิ.ย. 2561 เวลา 11.59 น.
  • 🐙PeDeny_NÚM🐙
    เคยนะครับ "อัตตาสูง" สำหรับท่านที่จิตรวมใหม่ๆจนถึงคนิกควรระวังใจกันด้วยนะครับ ถ้าปล่อยจิตเที่ยวจนเคยตัวจะไม่เห็นตัวเราทำได้แค่ดูคนอื่น (ขออภัยกับทุกท่านที่ผมเคยเข้าไปดู) ครับ
    23 มิ.ย. 2561 เวลา 05.25 น.
  • ทัศนา
    เขาเข้าใจอย่างนั้นก็เป็นเรื่องของเขา ห้ามความคิดและความเชื่อเช่นนั้นไม่ได้ เรามองตัวเรา พิจิราณาตัวเราเองดีกว่าว่ายังมี โลภ โกรธ หลง เพียงใดครับ...
    22 มิ.ย. 2561 เวลา 02.27 น.
  • 😅😶PEX🙄🥴
    สรุปในฐานะ ที่ผมปฏิบัติสมาธิ(แต่ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า) ปล่อยเขาไปครับ แล้วแต่เขาจะคิด "พระพุทธองค์ตรัสว่า สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม หมู่สัตว์เป็นปตามกรรม" ถ้าเรายิ่งมาสนใจใส่ใจในเรื่องที่มากระทบทางผัสสะ เราก็ยังคงอัตตา อยู่เช่นเดิม
    21 มิ.ย. 2561 เวลา 17.53 น.
ดูทั้งหมด