ทั่วไป

เตือนกินเนื้อวัวสดๆ ดิบๆ เสี่ยงโรคพยาธิตัวตืด และติดเชื้ออันตราย

MATICHON ONLINE
อัพเดต 04 ส.ค. 2565 เวลา 07.00 น. • เผยแพร่ 04 ส.ค. 2565 เวลา 07.00 น.

เตือนกินเนื้อวัวสดๆ ดิบๆ เสี่ยงโรคพยาธิตัวตืด และติดเชื้ออันตราย

วันที่ 4 สิงหาคม 2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากกระแสสังคมบนโลกโซเชียลมีเดีย ได้รีวิวการกินและวิธีการทำที่ชวนให้น่าลิ้มลอง เมนูนิยม ในการรับประทานอาหารประเภทเนื้อวัว-ควายสดๆ อาทิ เนื้อวัวดิบ จิ้มแจ่ว ซอยจุ๊ ลาบดิบ ก้อย ซอยห่าง แหนมดิบ (อาหารอีสาน) ลาบดิบ ส้า จิ้นส้ม (อาหารเหนือ) มีการกล่าวอ้างว่าเป็นมรดกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนกลายเป็นวัฒนธรรมการกินอันยิ่งใหญ่ระดับโลก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลเพื่อการเตือนภัยโรค สำหรับคนที่คิดอยากลอง หรือคนที่ชอบความหวานของการกินลาบวัว-ควายดิบ ทั้งนี้ ข้อมูลเตือนภัยโรคพยาธิที่พบบ่อย โรคพยาธิตัวตืดวัว-ควาย เกิดจากการกินตัวอ่อนพยาธิเรียกว่า เม็ดสาคูในเนื้อ ตัวอ่อนเจริญเป็นตัวเต็มวัยในลำไส้ รูปร่างคล้ายก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ยาว 5-10 เมตร อาจยาว 25 เมตร มี 1,000-2,000 ปล้อง ปล้องสุกจะหลุดออกมา 3-4 ปล้องกับอุจจาระ หรือคืบคลานออกจากทวารหนักในแต่ละวัน อายุอยู่ในลำไส้คน 10-25 ปี พยาธิจะแย่งอาหารในลำไส้ คนติดโรคจะมีอาการหิวบ่อย ปวดบริเวณลิ้นปี่ ไม่สบายท้อง อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ อาเจียน บางครั้งท้องร่วง ท้องผูก น้ำหนักตัวลดลง ปล้องสุกที่หลุดออกมาอาจเข้าไปไส้ติ่ง ทำให้ไส้ติ่งอักเสบได้

ด้าน นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังมีโรคและการติดเชื้ออื่นๆ ด้วย ได้แก่ โรคซาร์โคซิสติส มีลักษณะคล้ายเม็ดข้าวสาร ในวัว-ควาย มีอัตราการเป็นโรคสูงมาก สำหรับในคน มีรายงานโดยพบซีสต์ในกล้ามเนื้อหัวใจ กล้ามเนื้อกล่องเสียง และกล้ามเนื้ออื่นๆ ผู้ที่เป็นโรคนี้ส่วนมากมีอาการปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย บวมใต้ผิวหนัง ข้ออักเสบ และเม็ดโลหิตขาวอีโอซิโนฟิลสูง สำหรับเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ เช่น โรคแอนแทรกซ์ เกิดอาการในระบบทางเดินอาหาร คือ อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายท้องอย่างรุนแรง อาจพัฒนาไปถึงการติดเชื้อในกระแสเลือด ก็ย่อมรุนแรงจนถึงแก่ความตายได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นพ.วิชาญ กล่าวว่า ส่วนเชื้อซาลโมเนลลา เป็นแบคทีเรียที่มักมีการปนเปื้อนมากับอาหาร เป็นโรคระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมักจะมีอาการอาเจียน ท้องร่วง เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ เป็นเชื้อที่สามารถพบได้ในทางเดินอาหารของวัว และสัตว์อื่นๆ เชื้อนี้อาจทำให้เกิดโรคลำไส้อักเสบ มีอาการท้องเสีย ปวดท้อง มีไข้ บางครั้งอาจมีอาการถ่ายเป็นเลือดร่วมด้วย เชื้ออีโคไล เป็นเชื้อที่สร้างสารพิษทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร ผู้ที่ได้รับเชื้อนี้ไปประมาณ 1-2 วัน จะมีอาการปวดท้อง เป็นตะคริว และมีอาการท้องร่วง บางครั้งอาจมีเลือดปน และยังมีไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า หากนำเนื้อวัว-ควายที่ตายแบบไม่ทราบสาเหตุมากิน แล้วไปเจอวัวควายที่ตายจากโรคพิษสุนัขบ้า ทั้งคนแล่เนื้อ คนทำอาหาร ไปจนถึงคนกินดิบๆ เสี่ยงต่อการติดเชื้อนี้ได้ ซึ่งถ้าเป็นและมีอาการ ตายอย่างเดียวไม่มียารักษา

“ข้อแนะนำประชาชน ให้ใช้หลักมาตรฐานอาหารปลอดภัย ควรจะเลือกซื้อเนื้อวัว-ควายที่ผ่านการตรวจจากโรงฆ่าสัตว์แล้วเท่านั้น รับประทานอาหารต้ม ปิ้งย่าง เนื้อสัตว์ให้สุกอย่างทั่วถึง โดยยึดหลักสุก ร้อน สะอาด สุกด้วยความร้อน หรือผ่านการทำลายตัวอ่อนพยาธิ เช่น ฉายรังสี หรือเก็บเนื้อไว้ในตู้เย็น -20 องศาเซลเซียส นานเกิน 12 ชั่วโมง สำหรับผู้ปรุง ประกอบอาหาร ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลให้ดี ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนก่อนปรุง/รับประทานอาหาร และหลังถ่ายอุจจาระทุกครั้ง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1422” นพ.วิชาญ กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • ลุงตูบ เผด็จการง่าว
    ***** โควิดวันนี้ ***** หนูมันกินยาเข้าไปคับ ถ้าหนูไม่กินยาเข้าไป มันก็คงไม่กลายพันธุ์ จริงมะ! อ.เจษฎา 5555. 😂 ปล. กลายพันธุ์เป็นอะไรนะ 😂
    05 ส.ค. 2565 เวลา 02.04 น.
ดูทั้งหมด