ซ้อการ์ด Love Potion กับความสำเร็จระดับ 100 ล้าน

นาทีนี้เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ‘ซ้อการ์ด’ นักธุรกิจสาวเจ้าของแบรนด์ Love Potion และ Lip Oil ซ้อการ์ด ที่กำลังมาแรงบนโลกออนไลน์ ผู้สร้างสถิติ ไลฟ์สดขายของ 40 นาที สร้างยอดขายทะลุ 25 ล้านบาท และสร้างรายได้รวมในปี 2566 อยู่ที่ 154 ล้านบาท เรียกได้ว่าปังสุดๆ ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน

การ์ด-ณัฐชยานันท์ สุขวัฒนาพรคือชื่อจริงของ ซ้อการ์ดผู้เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ขายเคสมือถือเพื่อหารายได้มาจุนเจือตัวเองและครอบครัวที่ประสบปัญหาทางธุรกิจ แต่ด้วยความชื่นชอบในเรื่องความงามการดูแลตนเอง ทำให้คุณการ์ดตัดสินใจผลิตสบู่ Grape Soap ออกวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Love Potion หลังจากนั้นธุรกิจก็ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จ แต่จะขายของให้ปังแบบคุณการ์ดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคุณการ์ดสร้างแบรนด์ขึ้นมาผ่านความเชื่อที่ว่าต้องจริงใจต่อลูกค้า ขายสินค้าดีมีคุณภาพ ในราคาจับต้องได้ เรามาดูกันว่าคุณการ์ดทำอย่างไรจึงได้ประสบความสำเร็จ อย่างเช่นทุกวันนี้

หัวใจหลักของ Love Potion คือ Storytelling และ Personal Branding

คุณการ์ดปั้นแบรนด์ผ่านการสร้างStorytelling และชูตัวเองเป็นจุดขายบ่งบอกความเป็นตัวตนของแบรนด์ให้กับผู้บริโภคได้รับรู้ จุดนี้ถือได้ว่าเป็นจุดแข็งของแบรนด์ที่สตรองที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะตัวคุณการ์ดนั้นเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังทาง TikTok ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 10 ล้านคน ทุกเรื่องราวสร้างการรับรู้ผ่านการทำคอนเทนต์ที่มีความสร้างสรรค์ จนเกิดความรู้สึกร่วม เชื่อมโยงระหว่างผู้ซื้อกับแบรนด์ ผู้บริโภคจะไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียดขายของแต่อย่างใด

สร้างความน่าเชื่อถือด้วยความจริงใจ

สร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ด้วยความจริงใจ คุณการ์ดสร้างแบรนด์มาด้วยเงื่อนไขที่ว่า “ต้องจริงใจต่อลูกค้า ขายสินค้าดีมีคุณภาพ ราคาจับต้องได้” ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดจากการที่คุณการ์ดมองในมุมของผู้บริโภคว่าต้องการสินค้าที่ดีมีคุณภาพ เห็นผลจริง ดังนั้น ก่อนที่จะออกผลิตภัณฑ์จึงต้องทำการศึกษา และทดลองทุกอย่างก่อนวางจำหน่าย เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงราคาที่จับต้องได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฐานลูกค้าของคุณการ์ด เริ่มต้นตั้งแต่วัยมัธยมที่หันมาดูแลตนเอง อาจจะไม่มีกำลังทรัพย์มากพอในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูง

เล่นเอง เล่าเอง ขายเอง

แบรนด์ของคุณการ์ดไม่ต้องมีพรีเซนเตอร์ เล่นเอง เล่าเอง ขายเอง เพราะการที่คุณการ์ดนั้นเป็นอินฟลูเอนเซอร์ทำให้ไม่จำเป็นต้องจ้างพรีเซนเตอร์มาทำการโฆษณาสินค้าแต่อย่างใด รวมไปถึงการที่คุณการ์ดมาทดลองใช้สินค้าด้วยตัวเองก็จะทำให้ดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ทดแทนการใช้พรีเซนเตอร์ราคาแพง ด้วยโปรโมชันและกิจกรรมส่งเสริมการขาย ช่วยเพิ่มยอดขายและการรับรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม และเมื่อจะมีพรีเซนเตอร์ คุณการ์ดก็ได้ดึงพี่กร คนขายไม้กวาดมาเป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอม สร้างไวรัลบนโลกออนไลน์ต่อยอดไปได้อีกขั้น

โซเชียลมีเดีย ใช้ให้เป็น ใช้ให้ปัง

แม้คุณการ์ดจะเปิดเผยว่า ตัวเองเป็นคนทำการตลาดไม่เป็น ไม่รู้เรื่องการตลาด แต่การใช้โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ นำเสนอคอนเทนต์ที่ทำออกมาได้อย่างตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ทำให้มียอดวิวสูงแทบทุกคลิป แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างผ่านการคิดมาแล้ว ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของตัวเองต้องการอะไร คอนเทนต์แบบไหนที่จะสามารถสร้างยอด ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นได้

จะเห็นได้ว่าการสร้างแบรนด์ของคุณการ์ด มีการใช้โซเชียลมีเดียเป็นหลักในการสื่อสาร แม้จะส่งผลในด้านบวกกับแบรนด์ แต่ก็ต้องระวังในเรื่องดราม่ากระแสตีกลับเช่นเดียวกัน เพราะผลิตภัณฑ์บางตัวอาจจะไม่ถูกใจลูกค้า หรือประสิทธิภาพในการใช้งานอาจไม่ได้ตรงใจไปทั้งหมด รวมไปถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ผูกติดอยู่กับตัวคุณการ์ด ทำให้เวลาเกิดดราม่ากับคุณการ์ดหรือคนรอบตัวขึ้นมา แบรนด์ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย เป็นความเสี่ยงในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้น การสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งด้วยตัวเองจึงมีความสำคัญเช่นเดียวกัน

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คุณการ์ด และแบรนด์ Love Potion ก็ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครอีกหลายคนที่สนใจอยากเริ่มต้นทำธุรกิจ กล้าที่จะฝัน กล้าที่จะลงมือทำ แม้เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ จากจุดที่ไม่มีอะไรเลย แต่ก็สามารถเติบโตจนประสบความสำเร็จในระดับ 100 ล้าน

ที่มา: Facebook ซ้อการ์ด

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2024

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : นับ 1 ถึง 100 ล้าน กับซ้อการ์ด Love Potion แบรนด์สินค้าที่ใช้ความจริงใจนำทาง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.sentangsedtee.com