อย่าหลงกลกู้เงินผ่านแอป ถูกเจาะข้อมูล-เก็บค่าปรับหนัก

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 9 เม.ย. นพ.ไตรยฤทธิ์  เตมหิวงศ์ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่รับความเป็นธรรม ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการของศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมพิเศษในสถานการณ์การแพร่เชื้อระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศูนย์DSI COVID-19) 

ได้รับการร้องเรียนว่า มีการโฆษณาชักชวนให้ลูกหนี้กู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชันเงินกู้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีการหลอกลวงให้ลูกหนี้เข้าไปกรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ และอนุญาตให้แอปฯนั้นเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวผ่านทาง Facebook LINE โทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่หมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลที่เกี่ยวข้อง 

ขณะที่การกู้ยืมเงิน ผู้กู้จะได้รับเงินไม่เต็มจำนวน โดยแอปฯเงินกู้จะหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เช่น กู้ยืมเงิน 4,000 บาท ผู้กู้จะได้รับเงินเพียง 2,600 บาท และเงิน 4,000 บาท จะต้องชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยภายใน 14 วัน 

หากลูกหนี้ไม่ชำระคืนจะมีค่าปรับตามจำนวนอัตราที่แอปฯนั้นกำหนดไว้ เช่น กู้เงิน 4,000 บาท หากส่งคืนล่าช้าจะมีค่าปรับวันละ 400 - 600 บาท และจะมีการทวงถามไปยังบุคคลใกล้ชิดของผู้กู้ตามที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดโทรศัพท์ที่แอปฯนั้นได้ข้อมูลไป นอกจากนี้ ยังมีการข่มขู่คุกคามจากการติดตามทวงถามให้ชำระหนี้อีกด้วย

นพ.ไตรยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ขอแจ้งเตือนประชาชนผู้ที่จะกู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชันเงินกู้เหล่านี้ ขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบ อย่าได้หลงเชื่อ หากมีเบาะแสสามารถแจ้งเบาะแสมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทรสายด่วน DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ).