ไลฟ์สไตล์

Work From Home - วินทร์ เลียววาริณ

TOP PICK TODAY
เผยแพร่ 29 มี.ค. 2563 เวลา 17.05 น. • วินทร์ เลียววาริณ

ตอนนี้ใคร ๆ ก็พูดเรื่อง ‘Work From Home’

ผมเองมีประสบการณ์ Work from home มาราวสิบห้าปี ตั้งแต่วันแรกที่หลุดจากวงโคจรของชีวิตสำนักงาน มาเป็นนักเขียนอาชีพ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

หากใครคิดว่า Work from home เป็นเรื่องง่าย ๆ สบาย ๆ เปี่ยมอิสระเสรี อาจต้องคิดใหม่ !

ผมต้องเขียนหนังสือปีละหลายเล่มเพื่อความอยู่รอด เส้นตายกระชั้นตลอดเวลา Work from home จึงไม่ใช่เรื่องบันเทิงแต่อย่างไร มันไม่ใช่โหมดการทำงานที่ไร้ความเครียด ประเภทนึกจะตื่นกี่โมงก็ได้ จะเริ่มงานกี่โมงก็ตามสบาย หรือจะนอนเล่นเมื่อไรก็ได้

Work from home ไม่ใช่การทำงานที่สบายขึ้น มันเพียงเปลี่ยนสถานที่ทำงานเท่านั้น และการทำงานที่บ้านก็มีข่าวดีและข่าวไม่ดี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ข่าวดีคือ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางวันละชั่วโมง สองชั่วโมง ไม่ต้องหงุดหงิดกับเรื่องรถติด

ข่าวไม่ดีคือ ต้องได้งานมากกว่าทำงานในออฟฟิศ เพราะการทำงานที่บ้านประหยัดเวลาเดินทาง ได้เวลาเพิ่มมา ดังนั้นโดยหลักการ ก็ต้องได้ปริมาณงานมากกว่าตอนทำงานที่ออฟฟิศข้างนอก

Work from home ที่จะได้ผล ต้องมีฮอร์โมนชื่อ DCP ในร่างกายสูงมาก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

DCP คือ Discipline คือวินัยในการทำงาน

ในกรณีของ Work from home ชั่วคราว เช่น สถานการณ์โควิด-19 บังคับให้ทำงานที่บ้าน ตารางการทำงานที่บ้านอาจถูกกำหนดโดยสำนักงาน ถ้าหลุดจากเวลา เจ้านายก็โทร.มาเตือนเอง

แต่ในกรณีที่เราเป็นเจ้านายและลูกน้องของเราเอง ระดับ DCP อาจต้องสูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์ มิฉะนั้นอาจอดตาย 

คนที่ทำงานแบบ ‘Self-employed’ ต้องมีวินัยยิ่งยวด เมื่อถึงเวลาทำงาน ก็ต้องทำงาน ไม่มีข้ออ้างว่ายังง่วงอยู่

ต่อให้ไม่มีเส้นตาย ก็ควรกำหนดเส้นตายเอง อย่าบอกว่า “เมื่อไรก็ได้” เพราะมันจะไม่มีวันเกิดขึ้น

สำหรับคนที่ยังปรับอารมณ์สู่โหมด Work from home ไม่ได้ อาจเริ่มด้วยการแต่งตัวเหมือนไปทำงานที่ออฟฟิศ เพื่อทำให้รู้สึกจริงจังมากขึ้น

ห้องหรือมุมที่ใช้ทำงานควรเป็นพื้นที่ที่ดูจริงจังหน่อย อย่าทำงานบนเตียง โซฟา อาจเผลอหลับได้

ส่วนคนที่มีสาร DCP สูง ๆ คุมเกม Work from home ได้แล้ว จะสวมชุดนอนทำงานก็ไม่เป็นไร

………………………………………………

เครื่องมือหนึ่งที่ทำให้ Work from home มีประสิทธิภาพคือการจัดการเวลา (Time Management) สำคัญมาก  ๆ

หลักการคือแบ่งเวลาให้เป็น ใช้เวลาน้อยที่สุด แต่ได้งานมากที่สุด

การจัดสรรเวลายังรวมเรื่องการดูแลตัวเองด้วย เพื่อให้สมองแจ่มใส ไม่ตีบตัน

นี่หมายความว่าต้องแบ่งเวลาให้กับการกิน การหย่อนใจ การงีบ และการออกกำลังกายด้วยอย่างเหมาะสม

ถึงจะทำงานที่บ้าน ผมก็ใช้หลักทำงานแบบออฟฟิศ มีเวลาเข้างาน ออกงาน และรักษาความตรงต่อเวลาเต็มที่ ถึงเวลากินข้าวเที่ยง ก็พักกินข้าว กินเสร็จก็ทำงาน 

ถึงเวลางีบ ก็งีบ ถึงเวลาออกกำลังกาย ก็ไปออกกำลังกาย ทำอย่างจริงจัง

มองเผิน ๆ เหมือนเครื่องจักรในโรงงาน แต่มันไม่ใช่ เพราะต่อให้แม้ทำงานในสำนักงาน ก็ใช้วิธีทำงานเป็นระบบแบบนี้ได้

การทำงานเป็นระบบ คือการจัดการตัวเองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

อย่าลืมว่า การทำงานที่บ้านต่างจากทำงานในออฟฟิศแค่สถานที่เท่านั้น นอกนั้นเหมือนเดิม

การทำงาน Work from home ช่วยฝึกให้เราเป็นคนมีระบบ รู้จักเสียดายเวลา ทุกนาทีต้องเกิดประโยชน์ มันยังช่วยฝึกเรื่องสมาธิในการทำงาน

ถ้าจัดการเวลาเป็น มีวินัย เมื่อเห็นงานออกมาเป็นรูปธรรมก็จะมีความสุขกับงานโดยอัตโนมัติ

ที่สำคัญ มันทำให้เราเป็นคนที่มีคุณภาพขึ้น

……………………………………………………….

วินทร์ เลียววาริณ

winbookclub.com

เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/

ความเห็น 2
  • แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในวันนี้มนุษย์ทั่วโลกจะต้องมาถูกเปลี่ยนแปลงในการดำเนินชีวิตไปเพราะไอ้เจ้าไวรัสร้ายนี้จริงๆ.
    30 มี.ค. 2563 เวลา 07.49 น.
  • sharifboom
    มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มนุษย์เกิดขึ้นมาเยอะ วิวัฒนาการทำให้มนุษย์ตายช้า แก่ช้า ความเจริญเข้ามา เทคโนโลยีเข้ามา จิตใจมนุษย์เสื่อมลง ฆ่า,ข่มขืน ฯลฯ โควิด-19 ช่วยปรับสมดุลของโลก ปรับการใช้ชีวิตของมนุษย์ ความวุ่นวายของมนุษย์ ดูต่อไปจะตายกันเท่าไร
    30 มี.ค. 2563 เวลา 08.19 น.
ดูทั้งหมด