ตอนนี้ใคร ๆ ก็พูดเรื่อง ‘Work From Home’
ผมเองมีประสบการณ์ Work from home มาราวสิบห้าปี ตั้งแต่วันแรกที่หลุดจากวงโคจรของชีวิตสำนักงาน มาเป็นนักเขียนอาชีพ
หากใครคิดว่า Work from home เป็นเรื่องง่าย ๆ สบาย ๆ เปี่ยมอิสระเสรี อาจต้องคิดใหม่ !
ผมต้องเขียนหนังสือปีละหลายเล่มเพื่อความอยู่รอด เส้นตายกระชั้นตลอดเวลา Work from home จึงไม่ใช่เรื่องบันเทิงแต่อย่างไร มันไม่ใช่โหมดการทำงานที่ไร้ความเครียด ประเภทนึกจะตื่นกี่โมงก็ได้ จะเริ่มงานกี่โมงก็ตามสบาย หรือจะนอนเล่นเมื่อไรก็ได้
Work from home ไม่ใช่การทำงานที่สบายขึ้น มันเพียงเปลี่ยนสถานที่ทำงานเท่านั้น และการทำงานที่บ้านก็มีข่าวดีและข่าวไม่ดี
ข่าวดีคือ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางวันละชั่วโมง สองชั่วโมง ไม่ต้องหงุดหงิดกับเรื่องรถติด
ข่าวไม่ดีคือ ต้องได้งานมากกว่าทำงานในออฟฟิศ เพราะการทำงานที่บ้านประหยัดเวลาเดินทาง ได้เวลาเพิ่มมา ดังนั้นโดยหลักการ ก็ต้องได้ปริมาณงานมากกว่าตอนทำงานที่ออฟฟิศข้างนอก
Work from home ที่จะได้ผล ต้องมีฮอร์โมนชื่อ DCP ในร่างกายสูงมาก
DCP คือ Discipline คือวินัยในการทำงาน
ในกรณีของ Work from home ชั่วคราว เช่น สถานการณ์โควิด-19 บังคับให้ทำงานที่บ้าน ตารางการทำงานที่บ้านอาจถูกกำหนดโดยสำนักงาน ถ้าหลุดจากเวลา เจ้านายก็โทร.มาเตือนเอง
แต่ในกรณีที่เราเป็นเจ้านายและลูกน้องของเราเอง ระดับ DCP อาจต้องสูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์ มิฉะนั้นอาจอดตาย
คนที่ทำงานแบบ ‘Self-employed’ ต้องมีวินัยยิ่งยวด เมื่อถึงเวลาทำงาน ก็ต้องทำงาน ไม่มีข้ออ้างว่ายังง่วงอยู่
ต่อให้ไม่มีเส้นตาย ก็ควรกำหนดเส้นตายเอง อย่าบอกว่า “เมื่อไรก็ได้” เพราะมันจะไม่มีวันเกิดขึ้น
สำหรับคนที่ยังปรับอารมณ์สู่โหมด Work from home ไม่ได้ อาจเริ่มด้วยการแต่งตัวเหมือนไปทำงานที่ออฟฟิศ เพื่อทำให้รู้สึกจริงจังมากขึ้น
ห้องหรือมุมที่ใช้ทำงานควรเป็นพื้นที่ที่ดูจริงจังหน่อย อย่าทำงานบนเตียง โซฟา อาจเผลอหลับได้
ส่วนคนที่มีสาร DCP สูง ๆ คุมเกม Work from home ได้แล้ว จะสวมชุดนอนทำงานก็ไม่เป็นไร
………………………………………………
เครื่องมือหนึ่งที่ทำให้ Work from home มีประสิทธิภาพคือการจัดการเวลา (Time Management) สำคัญมาก ๆ
หลักการคือแบ่งเวลาให้เป็น ใช้เวลาน้อยที่สุด แต่ได้งานมากที่สุด
การจัดสรรเวลายังรวมเรื่องการดูแลตัวเองด้วย เพื่อให้สมองแจ่มใส ไม่ตีบตัน
นี่หมายความว่าต้องแบ่งเวลาให้กับการกิน การหย่อนใจ การงีบ และการออกกำลังกายด้วยอย่างเหมาะสม
ถึงจะทำงานที่บ้าน ผมก็ใช้หลักทำงานแบบออฟฟิศ มีเวลาเข้างาน ออกงาน และรักษาความตรงต่อเวลาเต็มที่ ถึงเวลากินข้าวเที่ยง ก็พักกินข้าว กินเสร็จก็ทำงาน
ถึงเวลางีบ ก็งีบ ถึงเวลาออกกำลังกาย ก็ไปออกกำลังกาย ทำอย่างจริงจัง
มองเผิน ๆ เหมือนเครื่องจักรในโรงงาน แต่มันไม่ใช่ เพราะต่อให้แม้ทำงานในสำนักงาน ก็ใช้วิธีทำงานเป็นระบบแบบนี้ได้
การทำงานเป็นระบบ คือการจัดการตัวเองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
อย่าลืมว่า การทำงานที่บ้านต่างจากทำงานในออฟฟิศแค่สถานที่เท่านั้น นอกนั้นเหมือนเดิม
การทำงาน Work from home ช่วยฝึกให้เราเป็นคนมีระบบ รู้จักเสียดายเวลา ทุกนาทีต้องเกิดประโยชน์ มันยังช่วยฝึกเรื่องสมาธิในการทำงาน
ถ้าจัดการเวลาเป็น มีวินัย เมื่อเห็นงานออกมาเป็นรูปธรรมก็จะมีความสุขกับงานโดยอัตโนมัติ
ที่สำคัญ มันทำให้เราเป็นคนที่มีคุณภาพขึ้น
……………………………………………………….
วินทร์ เลียววาริณ
แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในวันนี้มนุษย์ทั่วโลกจะต้องมาถูกเปลี่ยนแปลงในการดำเนินชีวิตไปเพราะไอ้เจ้าไวรัสร้ายนี้จริงๆ.
30 มี.ค. 2563 เวลา 07.49 น.
sharifboom มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มนุษย์เกิดขึ้นมาเยอะ วิวัฒนาการทำให้มนุษย์ตายช้า แก่ช้า ความเจริญเข้ามา เทคโนโลยีเข้ามา จิตใจมนุษย์เสื่อมลง ฆ่า,ข่มขืน ฯลฯ โควิด-19 ช่วยปรับสมดุลของโลก ปรับการใช้ชีวิตของมนุษย์ ความวุ่นวายของมนุษย์ ดูต่อไปจะตายกันเท่าไร
30 มี.ค. 2563 เวลา 08.19 น.
ดูทั้งหมด