เมื่อไปที่หน้าเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com และคลิกตรงคำว่า “ลงทะเบียนมาตรการชดเชยรายได้” จะพบกับหน้าเว็บที่เต็มไปด้วยข้อความยาวเหยียดซึ่งผู้ลงทะเบียนไปแล้วหลายคนอาจยังอ่านไม่หมด แต่จริง ๆ แล้วเป็นใจความสำคัญและภาระผูกพัน โดยมีข้อความจั่วหัวให้ผู้ใช้ตกลงยินยอมเงื่อนไขดังต่อไปนี้
ข้อความตกลงยินยอมให้กระทรวงการคลังหรือผู้จัดทำระบบให้กระทรวงการคลังจัดเก็บ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ในการดำเนินมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19)
มาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ หรือผู้ได้รับผลกระทบอื่นๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
1. สาระสำคัญของมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) (มาตรการฯ)
1.1 ช่วงระยะเวลาดำเนินมาตรการฯ คือ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563
*กรุงเทพธุรกิจ - ระยะเวลาดังกล่าวเป็นกรอบเวลาเบื้องต้นที่รัฐบาลกำหนดไว้ว่าจะเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเป็นเวลา 3 เดือน ระหว่าง เม.ย.-มิ.ย. ดังนั้น หลังเดือน มิ.ย. รัฐบาลจะยุติมาตรการจ่ายเงินนี้ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์โควิดยังไม่ดีขึ้น ก็อาจมีการพิจารณาออกมาตรการเยียวยารอบใหม่*
1.2 คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับการชดเชยรายได้ตามมาตรการฯ
(1) เป็นผู้มีสัญชาติไทย
(2) เป็นผู้มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน
(3) เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม
*กรุงเทพธุรกิจ - คุณสมบัติข้อนี้สำคัญมาก หลายคนที่ไม่เข้าเกณฑ์นี้อาจไม่ได้อ่านและกดสมัครไปแล้ว แต่มาตรการนี้มีจุดประสงค์เพื่อเยียวยาแรงงานและผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม แต่หากใครอยู่ในระบบประกันสังคมแล้วลงทะเบียนไป ระบบเยียวยานี้ก็จะตัดชื่อออกและไม่จ่ายเงินให้*
สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมอยู่แล้ว สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดช่องทางการให้บริการเป็นพิเศษ โดยการยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย ให้ยื่นแบบได้ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ หน้าเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หัวข้อ ขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงาน online (e-form for sso benefits)โดยผู้ประกันตนกรอกแบบขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย และนายจ้างกรอกแบบรับรองการปิดกิจการจากเหตุ COVID-19
(4) ไม่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างในหน่วยงานของรัฐ หรือผู้รับบำนาญปกติหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ
*กรุงเทพธุรกิจ - ข้อนี้ชัดเจน หากเป็นข้าราชการ ลูกจ้างในหน่วยงานรัฐ หรือผู้รับเงินบำนาญอยู่แล้ว ไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาจากมาตรการนี้*
(5) เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19)
*กรุงเทพธุรกิจ - เงื่อนไขสำคัญที่สุดคือ ผู้ลงทะเบียนที่มีคุณสมบัติตามข้างต้น จะต้องได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 เช่น ประกอบอาชีพค้าขายอยู่หน้าโรงงานที่ปิดกิจการจากคำสั่งภาครัฐหรือมีผู้ป่วยโควิด ก็ต้องแสดงหลักฐานรูปถ่ายสถานที่ตั้งร้านค้าหรือแผงขายของตนว่าค้าขายที่นั่นจริง และขาดรายได้ในช่วงโรงงานปิด (อ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ทางเนชั่นทีวี เมื่อ 28 มี.ค.)*
(6) มีบัญชีเงินฝากในสถาบันการเงินใดก็ได้ หรือมีบัญชี PROMPTPAY ที่ลงทะเบียนด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
(7) ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
กรุงเทพธุรกิจ - ไม่ต้องรีบสมัคร รัฐบาลยืนยันว่าเปิดให้ลงทะเบียนกันได้เรื่อย ๆ ไม่จำกัดจำนวนคน แต่สมัครได้แล้วต้องรอผลการพิจารณาว่าครบตามหลักเกณฑ์หรือไม่
1.3 รัฐจะสนับสนุนเงิน 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ต่อเดือน แก่ผู้มีสิทธิได้รับการชดเชยรายได้ตามข้อ 1.2 แต่ละราย (หนึ่งหมายเลขประจำตัวประชาชนต่อหนึ่งสิทธิ) โดยผู้มีสิทธิจะได้รับการชดเชยรายได้ตามมาตรการฯ ในเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ลงทะเบียนเป็นต้นไป
กรุงเทพธุรกิจ - ผู้เข้าหลักเกณฑ์จะได้รับเงินเดือนละ 5,000 บาท (เม.ย. พ.ค. และ มิ.ย.) รวมเป็น 15,000 บาท ที่สำคัญ 1 คนต่อ 1 สิทธิ
1.4 ผู้ที่ได้รับสิทธิจะได้รับเงินผ่านบัญชีเงินฝากในสถาบันการเงินที่ได้ระบุไว้ในการลงทะเบียน หรือบัญชี PROMPTPAY ที่ลงทะเบียนด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
2. ข้อความตกลงยินยอมของผู้ที่ประสงค์จะได้รับสิทธิตามมาตรการฯ
2.1 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการคลัง หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง และผู้จัดทำระบบให้กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบ www.เราไม่ทิ้งกัน.com จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการฯ
2.2 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการคลัง หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง และผู้จัดทำระบบให้กระทรวงการคลัง จัดเก็บ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการฯ ต่อหน่วยงานของรัฐ ผู้รับให้บริการที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐ สถาบันการเงินซึ่งข้าพเจ้าได้ระบุไว้ในการลงทะเบียน และบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด เพื่อประโยชน์ในการดำเนินมาตรการฯ และมาตรการอื่นของรัฐที่เป็นประโยชน์ต่อข้าพเจ้าในอนาคต
2.3 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องร้องขอ สอบถาม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามมาตรการฯ
2.4 ข้าพเจ้ารับทราบว่าการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย
2.5 ข้าพเจ้าได้อ่าน รับทราบ และตกลงยินยอมปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของมาตรการฯ หากข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของมาตรการฯ ข้าพเจ้ายินยอมให้กระทรวงการคลังหรือผู้จัดทำระบบให้กระทรวงการคลังสั่งระงับการจ่ายเงินชดเชยตามมาตรการฯ และตรวจสอบการกระทำดังกล่าว หากตรวจสอบแล้วพบว่าข้าพเจ้ากระทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของมาตรการฯ จริง ให้กระทรวงการคลังหรือผู้จัดทำระบบให้กระทรวงการคลังระงับสิทธิในการได้รับเงินชดเชยตามมาตรการฯ และข้าพเจ้าจะเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายเงินชดเชย ที่ได้รับไปแล้วคืนให้แก่รัฐภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการระงับสิทธิดังกล่าว ตามวิธีการที่กระทรวงการคลังหรือผู้จัดทำระบบให้กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ ให้การตัดสินของกระทรวงการคลังถือเป็นที่สุด
2.6 ในกรณีที่รัฐได้ดำเนินการตามข้อ 2.5 แล้ว รัฐอาจใช้สิทธิในการที่จะดำเนินคดีทางแพ่งหรือทางอาญาต่อไป
ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมมาตรการฯ ถูกต้องตามความเป็นจริง ทุกประการ หากข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการระงับการจ่ายเงินตามมาตรการฯ หรือยินยอมคืนเงินที่ได้รับพร้อมดอกเบี้ย แล้วแต่กรณี
*กรุงเทพธุรกิจ - ส่วนเงื่อนไขตั้งแต่ข้อ 2.ลงมา เป็นข้อตกลงยินยอมให้รัฐบาลดำเนินการต่าง ๆ กับตนเองได้ในภายหลัง ซึ่งหลายคนอาจไม่ได้อ่าน หากกดตกลงก็หมายความว่า ยอมให้มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัว สั่งระงับการจ่ายเงินชดเชย หากทำผิดหลักเกณฑ์ และดำเนินคดีตามกฎหมาย หากนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์*
อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ลงทะเบียนด้วยข้อมูลที่เป็นจริงและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลใด ๆ และรอรับเงินเยียวยาที่จะส่งตรงถึงบัญชีส่วนตัวในเร็ว ๆ นี้ #เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน
ตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า
โดยเฉพาะประชาชนหาเช้ากินค่ำ โดยเฉพาะ
หาค่ำกินเช้า...คนขับรถรับจ้าง ... พ่อค้าแม่ขาย
ยอดขายรายได้ลดลงกันทั้งนั้น...จากมาตรการ
ของรัฐทั้งปิดสถานที่ต่างๆ. ขอความร่วมมืออยู่
บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ...อย่าเข้มงวดจนเกินไปนัก
ทุกคนเดือดร้อนกันจริง ๆ ตอนโควิดยังไม่ระบาด
เศรษฐกิจก็ไม่ดีอยู่แล้ว
ตอนนี้โดนสถานการณ์โควิดระบาด เหมือนซ้ำเติม
ความยากลำบากในการทำมาหากิน ให้หนักหนาสาหัสเพิ่มขึ้นอีก...ให้ประขาชนช่วย ก็ช่วยประชาชนด้วยครับ
29 มี.ค. 2563 เวลา 10.49 น.
yo'shi_103 น่าจะมีคนลงไปโดยที่ไม่อ่านเป็นล้านคนแล้ว รัฐคงฟ้องร้องไม่ไหว ยกผลประโยชน์ไป
29 มี.ค. 2563 เวลา 10.35 น.
@sittichai@ ยากมาก กว่าจะได้ แล้วก้ยังไม่ทั่วถึง อีกต่างหาก ชีวิต
29 มี.ค. 2563 เวลา 10.48 น.
Shop อิ่มบุญ โซนร้านเราขายแฟชั่น ของสวยงาม เสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา โดนสั่งปิดหมดเลย จะได้เงินช่วยเหลือหรือเปล่าก็ไม่รู้ ของก็ไม่ได้ขาย ค่าเช่าก็ต้องจ่าย ค่าทำความสะอาดอีก แต่โซนร้านขายของสดลงกันทั้งตลาด ไม่รู้รัฐจะช่วยเหลือยังไงเพราะคนลงเยอะมาก
29 มี.ค. 2563 เวลา 11.09 น.
วิทยา คำภูบาล ถ้าผมไม่ผ่านก็ไม่เป็นไรครับไม่เอาก็ได้
29 มี.ค. 2563 เวลา 10.50 น.
ดูทั้งหมด