ไลฟ์สไตล์

ขึ้นธงแดงชายหาดระนองเตือนนักท่องเที่ยวระวัง

77kaoded
เผยแพร่ 15 ธ.ค. 2561 เวลา 08.02 น. • 77 ข่าวเด็ด

ขึ้นธงแดงชายหาดระนองเตือนนักท่องเที่ยวระวัง
ระนอง—ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศที่แปรปรวนในขณะนี้ อันเป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลทำให้เกิดลมกระโชกแรงในทะเลอันดามัน และเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของภาคใต้ โดยในส่วนของทะเลอันดามันพบว่าในช่วง2-3 วันที่ผ่านมา ทะเลแปรปรวนมีคลื่นสูงมากกว่า 2 ม. ในจุดที่เกิดฝนฟ้าคะนอง ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงประสานให้มีการขึ้นธงแดงแนวชายหาดที่ได้รับผลกระทบเพื่อเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังในการเดินเที่ยวตามชายหาด และไม่ควรที่จะลงเล่นน้ำทะเลในจุดที่มีการแจ้งเตือน

สำหรับพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียสในภาคเหนือกับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส  ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงด้วย สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนัก    บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดอกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ธ.ค.นี้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง

บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในตอนบ่ายและค่ำ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นมากกว่า 2 เมตร

บริเวณจังหวัดระนองมีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นมากกว่า 2 เมตร

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดูข่าวต้นฉบับ