ถ้าจะหาคำสักคำนึงมาบรรยายความรู้สึกที่มีต่อปี 2020 นี้ จะเลือกคำว่าอะไรกันครับ ?
ในช่วงปลายปีแบบนี้ ที่ญี่ปุ่นเขาก็จะมีการจัดอันดับต่าง ๆ กันทุก ๆ ปี โดยเฉพาะคำใหม่ ศัพท์ใหม่ ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาหรือเป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาพโดยรวมของปีนี้ ซึ่งก็มีการจัดอันดับกันจากหลายสำนักนะครับ
ในปีนี้คำที่ถูกมาเลือกส่วนใหญ่ก็จะเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของไวรัสทั้งนั้น แล้วก็มีคำอยู่คำนึงที่เรียกว่ากวาดแชมป์จากการจัดอันดับหลายสำนัก เรียกว่าเป็นคำที่มาแรงที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นคำแห่งปีนี้จริง ๆ นั่นก็คือคำว่า 「ぴえん」ที่ออกเสียงว่า “เปี้ยน” (เสียงยาว) ซึ่งเพิ่งได้รางวัลอันดับ 1 จากการจัดอันดับคำใหม่ยอดเยี่ยมที่จัดโดยผู้จัดทำพจนานุกรมของญี่ปุ่น 三省堂 เพื่อจะนำคำศัพท์ที่เกิดขึ้นใหม่ไปใส่ไว้ในพจนานุกรมในอนาคต รวมถึงคว้าอีกหนึ่งรางวัลจากการประกาศผล Emoticon แห่งปี 2020 ที่จัดโดยบริษัท Simeji ไปหมาด ๆ
คำว่า “เปี้ยน” นี้ จริง ๆ แล้วมันคือหน้าของตัว Emoji ตัวนึง ที่ทำหน้าเศร้าน้ำตาปริ่มอยู่ ซึ่งถ้าจะแปลเป็นภาษาไทยก็คงแปลได้ประมาณว่า “แง ๆ” หรือ “มุแง”** ในภาษาวัยรุ่น ซึ่งคำ ๆ นี้เนี่ย เพิ่งมีมาในญี่ปุ่นได้ไม่นานนัก เรียกกันว่าเป็นภาษาวัยรุ่นนั่นแหละ ซึ่งมันมาจากเสียงเลียนแบบเวลาเด็กร้องไห้ สามารถใช้ได้ทั้งตอนดีใจและเสียใจ เป็นอาการที่ไม่ได้ร้องไห้แบบฟูมฟาย ซึ่งคนญี่ปุ่นโดยเฉพาะกลุ่มสาว ๆ จะใช้คำนี้ในการต่อท้ายประโยคเพื่อให้รู้สึกน่ารักมากขึ้น (หรือบางทีก็อาจจะทำให้รู้สึกหมั่นไส้ในอาการแอ๊บแบ๊วบ้างเล็กน้อย ) ยกตัวอย่างประโยค เช่น
- เธอแย่งขนมของฉันกินหมดเลยง่ะ เปี้ยน
- ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงจังเลย เปี้ยน
เรียกว่าไม่ว่าจะเป็นประโยคดีใจหรือเสียใจแบบเล็กน้อยก็สามารถเติมคำว่า “เปี้ยน” ลงไปท้ายประโยค ก็จะทำให้ดูน่ารักแบ๊ว ๆ ขึ้นมาทันที
นอกจากกำลังจะถูกบรรจุลงในพจนานุกรมในอนาคตแล้ว คำว่า “เปี้ยน” ก็ยังได้รับรางวัล Emoticon แห่งปี 2020 อีกด้วย ซึ่งก็หมายความว่ามีคนนิยมใช้ Emoticon หน้าน้องร้องไห้แง ๆ นี้มาก ส่วนอันดับรองลงมาก็จะเป็น Emoji เกี่ยวกับ Covid-19 เป็นส่วนใหญ่ เช่น (∩'-') = ͟͟͞͞⊃ ที่หมายถึง “ต่อยโคโรน่าให้กระเด็นไปซะ !” เป็นต้น ซึ่งต่างจากการจัดอันดับของปีที่แล้วที่คำส่วนใหญ่จะไปในทางของความตื่นเต้นและสนุกสนาน เพราะญี่ปุ่นกำลังเตรียมตัวที่จะเป็นเจ้าภาพงานโอลิมปิกนั่นเอง
แม้จะดูเป็นแค่การจัดอันดับสนุก ๆ หรืออาจดูเป็นเรื่องไร้สาระแต่มันก็สามารถบ่งบอกถึงสภาพความรู้สึกของคนญี่ปุ่นในปีนี้ได้เป็นอย่างดีนะครับ เพราะสาเหตุที่ทำให้คำว่า “เปี้ยน” หรือ “มุแง” นี้กลายเป็นคำยอดฮิตของปีนี้ นั่นก็เพราะว่าสภาพจิตใจของทุกคนก็ค่อนข้างพบเจอกับความเศร้ากันมาทั้งปี เพราะปีนี้เรียกว่าเจอเรื่องหนักหน่วงกันมาตลอดทั้งปีโดยเฉพาะเรื่องการระบาดของไวรัสที่ได้รับผลกระทบกันทั่วโลกและทำให้ใช้ชีวิตกันตามปกติแทบไม่ได้ จะออกไปเที่ยวไหนเหมือนเดิมก็ไม่ได้ บางคนถูกไล่ออกจากงาน หรือแม้จะยังมีงานอยู่แต่ก็สภาพย่ำแย่กันเต็มที
คนญี่ปุ่นนั่นคุ้นเคยกับคำว่า “เปี้ยน” มาตั้งแต่ในช่วงที่ไวรัสระบาดหนัก ๆ ในญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อต้นปีแล้วนะครับ โดยตอนนั้นคนญี่ปุ่นส่วนหนึ่งก็กักตัวเองอยู่ในบ้าน ทำงานทางออนไลน์กัน แล้วมันก็เลยเกิดงานอดิเรกเป็นกิจกรรมที่ทำอยู่กับบ้านเพิ่มมากขึ้น หนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตของคนญี่ปุ่นตอนนั้นก็คือการทำ “คุ้กกี้มุแง” ออกมาแข่งกันนี่แหละครับ ทำเสร็จก็โพสรูปโชว์ลงในอินเทอร์เน็ต พอคนเห็นก็ทำตาม จนกลายเป็นกิจกรรมยอดฮิตของคนที่กักตัวอยู่กับบ้าน จนทำเอาแป้งที่ใช้ทำขนมในญี่ปุ่นนั้นขาดตลาดไปช่วงนึงเลยทีเดียว
แม้หน้าของน้อง “เปี้ยน” จะทำหน้ามุแงแลดูเศร้าเหมือนเตรียมจะร้องไห้ แต่เขาบอกกันว่าสาเหตุที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบนั้นเป็นเพราะว่ามันแฝงไปด้วยความน่ารัก เมื่อมองหน้ามุแงแล้วมันก็ทำให้คนกลับยิ้มขึ้นมาได้ ซึ่งมันก็แสดงถึงสถานการณ์การรับมือกับไวรัสนั่นแหละ เพราะแม้ทุกคนจะเสียใจและอยากร้องไห้ แต่เราก็ต้องมีความหวังที่จะสู้ต่อไปนะ แม้เราจะเศร้าเราก็ยังน่ารักได้ ชีวิตมันยังต้องดำเนินต่อไป
นี่แหละจึงสมกับที่เป็นคำใหม่แห่งปีของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
อ้างอิงข่าวจาก simeji.me
ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TOP PICK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ
ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook :Eak SummerSnow
Youtube : Eak SummerSnow
ศรัณย์ ตัดภาพมาที่ไทย
คำใหม่ มุ้งมิ๊ง
12 ธ.ค. 2563 เวลา 09.59 น.
ไม่ต้องห่วงนะ ญี่ปุ่น ตอนนี้เก้บได้สามแสนละ เปิดประเทศเมื่อไหร่ จะไปช่วยแน่ๆ คือเทียวสะบัดเลย 555
11 ธ.ค. 2563 เวลา 23.06 น.
Charoen D. ประเทศไทยเป็นปีคนพิการนิ้วมือขาดสองนิ้ว...อิอิ
12 ธ.ค. 2563 เวลา 11.56 น.
Bunjerd L ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้มากๆ และอ่านสนุกมาก ด้วย
12 ธ.ค. 2563 เวลา 11.02 น.
K a o r i น่าจะประมาณ ซิกๆ กระซิกๆ มากกว่าแงๆ นะคะ 🤔
15 ธ.ค. 2563 เวลา 00.47 น.
ดูทั้งหมด