ถ้าเราบอกคุณว่า “รักแรกพบ ไม่มีอยู่จริง ที่เห็นในหนังรอมคอมก็แค่เรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อหวังกำไร และช่อดอกไม้เจ้าสาวในงานแต่งก็เป็นเพียงกิมมิคเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของแขกที่มาร่วมงาน” คุณมีความคิดเห็นอย่างไร
เราไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อในความรัก… แต่เมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้ข้อสรุปว่า “รักแรกพบไม่มีอยู่จริง ที่คนคิดว่าใช่ก็เป็นเพียงความใคร่เท่านั้น” ซึ่งคู่แต่งงานที่ใช้ชีวิตร่วมกันมานานกว่า 50 ปีต่างก็เห็นด้วย และเปรียบว่า “กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวฉันใด ความรักก็ไม่ได้เกิดขึ้นแบบปุบปับฉันนั้น”
Photo by Colin on Unsplash
งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร International Association for Relationship Research ซึ่งสำรวจชาวดัตช์และเยอรมันวัย 20-30 ปีจำนวน 400 คน ว่าแต่ละครั้งที่ออกเดท มีความรู้สึกต่อคู่เดทอย่างไร และความรู้สึกซับซ้อนที่เกิดขึ้นคือความรักหรือเป็นเพียงแค่แรงดึงดูดทางเพศเท่านั้น… การศึกษาแบ่งเป็น 3 ด่าน ด่านแรกให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบสอบถามออนไลน์ ด่านที่สองจะเป็นการตอบคำถามและสังเกตพฤติกรรม และด่านสุดท้ายเป็นการออกเดท 3 ครั้ง หลังการเดทเสร็จสิ้นพวกเขาจะถูกถามว่า “รู้สึกว่าได้เจอรักแรกพบบ้างหรือเปล่า?” “คิดว่าร่างกายส่วนไหนของคู่เดทน่าดึงดูดที่สุด?” และให้จัดอันดับคนที่มีรูปลักษณ์ภายนอกน่าดึงดูดไปพร้อมๆ กัน
ผลพบว่า ยิ่งได้ออกเดทกับคนรูปร่างหน้าตาดี พวกเขายิ่งคิดว่าเป็นรักแรกพบ… โดย 60% ของผู้เข้าร่วมวิจัยครั้งนี้เป็นเพศหญิง แต่ผู้ชายจะบอกว่าได้พบกับรักแรกพบทันทีที่ได้เห็น ซึ่งแน่นอนว่าฝ่ายหญิงไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกัน
ทีมวิจัยยังระบุอีกว่า สิ่งที่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็น “รักแรกพบ” แท้จริงแล้วเป็นเพียง “สิ่งล่อใจที่ยากจะทัดทาน” และแม้ว่ากลุ่มตัวอย่างจะคิดว่าเป็นความรัก แต่ก็ยากที่จะยืนยันว่าเป็นความรักอย่างที่พวกเขาเคยมีประสบการณ์ ทีมวิจัยยังบอกอีกว่า หากจะหาคำตอบที่แน่ชัดอาจต้องศึกษาคู่รักที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นว่ามีจุดเริ่มต้นความสัมพนธ์แบบไหน เมื่อเวลาผ่านไปความรักของของพวกเขายังทรงพลังอยู่หรือเปล่า
นี่อาจเป็นเพียงแค่การทดลองหนึ่งเท่านั้น… อย่าลืมว่าความรักต้องใช้เวลาในการก่อร่างสร้างตัวไม่ต่างจากกรุงโรมที่ไม่สามารถสร้างเสร็จในวันเดียว และก่อนจะมอบความรักให้ใคร คุณต้องรักตัวเองให้เป็นก่อนนะ
มันไม่ใช่ ความไคร่ ทุกเคสไป
แต่เป็นการพอใจใน รูปลักษณ์ภายนอก
ส่วนตจะะกิดมโนต่อเนื่องทับซ้อนเรื่องเซ็กส์ ดัวยหรือเปล่านั้น ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละคน วัฒนธรรมแต่ละท้องถิ่น
26 มี.ค. 2562 เวลา 02.39 น.
pong ครกกับสากมันเป็นของคู่กัน
26 มี.ค. 2562 เวลา 03.37 น.
James Jitt ก็แค่นักวิจัยหาแดกกลุ่มนึง
26 มี.ค. 2562 เวลา 03.42 น.
ยุคสมัยนี้มันมีสิ่งจูงใจเยอะ ส่วนใหญ่ก็เลยเอาความพึ่งพอใจเป็นที่ตั่ง.
26 มี.ค. 2562 เวลา 02.49 น.
pongstorn เเบบว่าฟันไว้ก่อน เดี๋ยวว่ากัน
26 มี.ค. 2562 เวลา 02.44 น.
ดูทั้งหมด