รถยนต์ไฟฟ้า กระทบอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย อย่างไรบ้าง / โดย ลงทุนแมน
หลังจากประเทศไทยเกิดวิกฤตค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน
หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหานี้
และหนึ่งในนโยบายที่ถูกพูดถึงมากสุดก็คือ
การเปลี่ยนมาใช้ “รถยนต์ไฟฟ้า”
เพราะรถยนต์ชนิดนี้ไม่ได้เผาไหม้เชื้อเพลิงทำให้ไม่เกิดฝุ่นละออง
และถ้าเราส่งเสริมให้ใช้พลังงานสะอาดในการผลิตไฟฟ้า
ก็น่าจะถือว่าเป็นการแก้ปัญหานี้ได้ในระยะยาว
แต่ในมุมของธุรกิจ
การเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า
จะทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
คำถามแรกเริ่มจาก
สมมติว่าถ้าเราเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
ชิ้นส่วนอะไรบ้างที่จะต้องหายไป?
เรื่องนี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่
กลุ่มแรก ชิ้นส่วนที่จะหายไป เช่น ส่วนประกอบเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง หม้อน้ำ
กลุ่มที่สอง ชิ้นส่วนที่มีอยู่แต่ต้องได้รับการพัฒนาจึงสามารถนำมาใช้ต่อได้ เช่น ระบบเกียร์ ระบบเบรก ระบบปรับอากาศที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
เรามาลองดูตัวอย่างของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย
ซึ่งน่าจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากัน
บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) – AH
จะได้รับผลกระทบเล็กน้อยในส่วนของการผลิตถังน้ำมันพลาสติก
ปี 2017 รายได้ 17,844 ล้านบาท กำไร 1,299 ล้านบาท
มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 6,097 ล้านบาท
บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) – SAT
มีสายการผลิตบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์เช่น เพลาลูกเบี้ยว ท่อร่วมไอเสีย และฟลายวีล เป็นต้น
ปี 2017 รายได้ 8,396 ล้านบาท กำไร 916 ล้านบาท
มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 7,611 ล้านบาท
บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) – PCSGH
เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์ให้บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นหลายราย ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ในประเทศไทย
ปี 2017 รายได้ 5,699 ล้านบาท กำไร 341 ล้านบาท
มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 10,294 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งสามรายก็ได้มีการศึกษา
และเตรียมพร้อมสำหรับการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
ทีนี้เรามาดูตัวอย่างของบริษัทที่ไม่ได้รับผลกระทบกันบ้าง
บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) – STANLY
ผู้ผลิตอุปกรณ์ส่องสว่างยานยนต์ ได้แก่ หลอดไฟ ชุดโคมไฟ และแม่พิมพ์
เพราะไม่ว่ารถจะใช้พลังงานอะไร รถก็ต้องมีหลอดไฟอยู่ดี
ปี 2017 รายได้ 11,299 ล้านบาท กำไร 1,436 ล้านบาท
มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 17,394 ล้านบาท
บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) – IHL
ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายหนังสำหรับเบาะรถยนต์
เพราะไม่ว่ารถจะใช้พลังงานอะไร รถก็ต้องมีเบาะนั่งอยู่ดี
ปี 2017 รายได้ 2,405 ล้านบาท กำไร 293 ล้านบาท
มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 4,290 ล้านบาท
บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) – IRC
ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยางอีลาสโตเมอร์ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอื่นๆ และธุรกิจด้านการผลิตยางนอก-ยางในของรถจักรยานยนต์
เพราะไม่ว่ารถจะใช้พลังงานอะไร รถก็ต้องมียางอยู่ดี
ปี 2017 รายได้ 1,439 ล้านบาท กำไร 71 ล้านบาท
มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 3,760 ล้านบาท
มาถึงตรงนี้แล้ว เราจะเห็นว่าจริงๆ แล้วการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า
อาจจะไม่ได้กระทบกับบริษัทยานยนต์ของไทยเท่าไรนัก
แล้วที่สำคัญเรื่องนี้อาจจะกลายเป็นโอกาสให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย
ถ้าเราไปดูมูลค่าของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของโลกในช่วงที่ผ่านมา
ปี 2016 อยู่ที่ 3.4 ล้านล้านบาท
ปี 2017 อยู่ที่ 3.8 ล้านล้านบาท
และคาดว่าภายในปี 2025 จะอยู่ที่ 18 ล้านล้านบาท
เราจะเห็นว่ามูลค่าของตลาดนี้เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
แปลว่าถ้าประเทศไทยมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบการก็จะมีโอกาสเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเม็ดเงินในการเติบโตนี้เช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่เกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์หรืออู่ซ่อมรถ อาจจะต้องปรับตัวกับเรื่องนี้
เพราะการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้
เนื่องจากเดิมเครื่องยนต์ที่เราใช้กันในขณะนี้มักจะมีการเปลี่ยนอะไหล่ หรือซ่อมบำรุงอยู่บ่อยครั้ง
แต่ในรถยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์หลักที่สำคัญสำหรับเครื่องยนต์จะเหลือเพียงแค่ แบตเตอรี่และมอเตอร์
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
รู้หรือไม่ว่า
ไทยซัมมิท กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ประกอบการชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ของไทย
ปี 2017 มีรายได้ 79,800 ล้านบาท กำไร 5,980 ล้านบาท
ซึ่งมากกว่ากำไรทั้งหมดของบริษัทยานยนต์ ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทยรวมกัน..
———————-
รู้ไหม TOYOTA กำลังบุกตลาดรถไฟฟ้า อ่านเรื่องนี้ได้ที่
https://www.blockdit.com/articles/5c497e3e642e433c9f9c1603
ติดตามเรื่องหลากหลาย จากผู้เขียนเก่งๆ หลายท่าน ในแอป blockdit โหลดได้ที่ http://www.blockdit.com
สั่งซื้อหนังสือลงทุนแมน 9.0 ได้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/90-i293980783-s493954943.html
Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือ-ลงทุนแมน-9.0-i.116732911.1933827833
———————-
References
-https://globenewswire.com/news-release/2018/09/06/1566275/0/en/Electric-Vehicle-EV-Market-Revenue-USD-356-5-Bn-by-2023-at-18-96-CAGR-Opportunities-in-Emerging-Economies-to-Drive-Sales-of-Electric-Vehicles.html
-https://www.settrade.com/C04_08_stock_sectorcomparison_p1.jsp?txtSymbol=PCSGH
-http://blog.ebikr.com/posts/3489
SaveEarth มัวแต่ล่าช้าในการผลิต
ประเทศอื่นก็จะแย่งตลาดไป
22 มี.ค. 2562 เวลา 15.19 น.
ส่งผลกระทบต่อน้ำมันไง
เลยช้ากว่าชาวบ้าน
เค้าใช้กันหมดแล้ว
ลดต้นทุนค่าเดินทาง
โดยเฉพาะขนส่งลดทุนได้เยอะมาก
23 มี.ค. 2562 เวลา 13.47 น.
KOM เหลือเวลาแก้ปัญหาโลกร้อนแค่ 11 ปี จะทำอะไรก็รีบทำ
23 มี.ค. 2562 เวลา 11.13 น.
วิวัฒนา ชิ้นส่วนของรถไฟฟ้าลดลงจากรถน้ำมันตั้งเยอะแยะ..แต่ราคาดันสูงมากกกกก
23 มี.ค. 2562 เวลา 06.45 น.
Phanu รถไฟฟ้าไม่ใช่ว่าจะปลอดจากมลพิษซะทั้งหมด แบตที่หมดอายุจัดการอย่างไร
ไฟฟ้าที่ใช้ก็มาจากโรงไฟฟ้าที่ยังต้องใช้เชื้อเพลิงเผาใหม้ปกติ เป็นการย้ายมลพิษไปอยู่ที่โรงไฟฟ้าแทน
23 มี.ค. 2562 เวลา 05.33 น.
ดูทั้งหมด