ทั่วไป

นักเขียนอธิบายชัด Blind Trust ชม 'ธนาธร' ยกระดับนักการเมือง

คมชัดลึกออนไลน์
เผยแพร่ 19 มี.ค. 2562 เวลา 06.09 น.

สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ นักเขียน นักแปลชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว อธิบายถึงความหมายของ Blind Trust ว่าคืออะไร พร้อมชื่นชมหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยกระดับธรรมาภิบาลของนักการเมือง

เฟซบุ๊ก Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล ระบุว่า

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

1. การจัดการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญที่นักการเมืองผู้มาจากภาคธุรกิจทุกคนควรใส่ใจ เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาว่า มุ่งคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย (ออกนโยบายเอื้อธุรกิจตัวเองหรือพวกพ้อง) หรือใช้ข้อมูลภายใน (ที่ได้จากตำแหน่งทางการเมือง) ไปซื้อหุ้นทำกำไร เรื่องนี้ รัฐธรรมนูญและกฎหมายไทยก็ให้ความสำคัญมาตลอด (แต่ก็มีหลายคนหาทางซิกแซก "ซุกหุ้น" ตลอดมา อย่างเช่นคดีอดีตนายกทักษิณเมื่อหลายปีก่อน ที่ตัวเองก็เคยเขียนวิจารณ์ไปหลายรอบ)

รัฐธรรมนูญ 2560 วางเกณฑ์เข้มข้นกว่าเดิมอีก โดยมาตรา 184 ​ห้าม​ไม่​ให้​ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ถือ​หุ้น​ใน​บริษัท​หรือ​กิจการ​ที่​ได้​รับ​สัมปทาน​จาก​ภาค​รัฐ​หรือ​เป็น​คู่สัญญา​กับ​รัฐ​ทั้ง​ทาง​ตรง​และ​ทาง​อ้อม

2. ทีนี้ ถ้าการห้ามถือหุ้น แปลว่าต้องขายหุ้นไปให้คนอื่น นักการเมืองก็จะไม่ได้รับประโยชน์โภชผลใดๆ ในหุ้นนั้นอีก เท่ากับหมดสิทธิได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินที่(เคย)เป็นของตัวเอง ซึ่งก็จะลดแรงจูงใจของนักธุรกิจที่จะเข้ามาทำงานการเมือง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ฉะนั้นคำถามก็คือ มีวิธีใดหรือไม่ที่จะป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน โดยไม่ตัดสิทธิของนักการเมืองที่จะได้ประโยชน์จากหุ้น? คำตอบซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ทำกันทั่วโลก คือ ให้ทำข้อตกลงโอนหุ้นนั้นให้มืออาชีพทางการเงินบริหารแทน ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ้าจะให้ดีก็ควรให้บริหารแบบ blind trust คือ ให้เจ้าของเดิม (นักการเมือง) ไม่มีอำนาจตัดสินใจใดๆ ในทรัพย์สินนั้นเลย ไว้ใจให้มืออาชีพบริหารจัดการแทนให้เกิดผลงอกเงย ระหว่างที่ตัวเองมีตำแหน่งทางการเมือง

การโอนหุ้นให้คนอื่นบริหารแทนนี้ กฎหมายไทยก็เปิดช่องให้ทำได้ โดย พ.ร.บ. การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี ออกตั้งแต่ พ.ศ. 2543 (ดู http://web.krisdika.go.th/data/law/law2/%A1106/%A1106-20-2543-a0001.htm) แต่กฎหมายนี้กำหนดเฉพาะระดับรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่รวม ส.ส. และ ส.ว. และไม่ได้ระบุว่าต้องเป็น blind trust ระบุแค่หลวมๆ ว่า ให้โอนให้กองทุนส่วนบุคคลบริหารได้

3. การลงนาม MOU ของคุณธนาธร โอนทรัพย์สินให้จัดการแบบ blind trust ก่อนที่ตัวเองจะรู้ผลการเลือกตั้ง (ยังไม่ได้เป็น ส.ส. ด้วยซ้ำ) จึงนับเป็นก้าวที่น่าชื่นชม ขยับเพดานธรรมาภิบาลนักการเมือง สังคมควรเรียกร้องให้นักการเมืองคนอื่นทำตาม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สำหรับคำถามที่ว่า คุณธนาธรเป็นนักการเมือง "คนแรก" ในไทยหรือเปล่าที่โอนทรัพย์สินให้จัดการแบบ blind trust ส่วนตัวไม่แน่ใจ นักข่าวควรไปเช็ค แต่ที่แน่ๆ เป็นคนแรก (เท่าที่เคยเห็น) ที่เปิดเผยรายละเอียด MOU ต่อสาธารณะ และการระบุว่าจะไม่รับโอนทรัพย์สินกลับมาจนกว่าจะพ้นตำแหน่งการเมืองไปแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ก็นับเป็นมาตรฐานขั้นสูง กฎเกณฑ์ลักษณะคล้ายกันนี้ (revolving door) ในหลายประเทศระบุเพียง 2 ปีเท่านั้น

อ่านฉบับเต็มคลิก

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 98
  • Sittiphol S. / Paul
    หลักการดีครับ เเต่ผมเข็ดมาจากการกระทำของพ่อคุณในอดีต ยังไงก็ไม่เลือกครับ
    19 มี.ค. 2562 เวลา 08.04 น.
  • Reem
    ไม่เลือกครับ
    19 มี.ค. 2562 เวลา 08.14 น.
  • Tayakorn W.
    กฏหมายเขาเขียนไว้นานแล้วครับ มี รมต ทำตามมาหลายคนแล้ว แต่ไม่ได้โฆษณา ครับ อาจารย์
    19 มี.ค. 2562 เวลา 08.10 น.
  • ไพรัตน์
    รอบนี้ยังนะธนาธร..ขอศึกษาคุณก่อน...ว่า ...แน่วแน่...ดังคำพูดหรือเปล่า...รอก่อน...อายุยังน้อย..
    19 มี.ค. 2562 เวลา 08.12 น.
  • Bo
    อยากให้ทุกคนได้ตรวจสอบประวัติของไอ้ธนาธนให้แน่ชัด จะได้ไม่หลงผิดไปเลือกมัน เพราะจะได้ไม่เสียใจไปจนวันตาย
    19 มี.ค. 2562 เวลา 08.07 น.
ดูทั้งหมด