ไลฟ์สไตล์

หน้าที่ของไต เป็นอย่างไร การทำงานเป็นแบบไหน สำคัญไหม?

HonestDocs
อัพเดต 31 ต.ค. 2563 เวลา 20.06 น. • เผยแพร่ 31 ต.ค. 2563 เวลา 20.06 น. • HonestDocs

หลายคนน่าจะทราบกันบ้างแล้วว่า ไต มีหน้าที่กรองของเสียออกจากร่างกาย

ของเสีย คือสารที่เกิดขึ้นมาจากกระบวนการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อาจเป็นสารที่เป็นพิษส่งผลเสียต่อร่างกายโดยตรง หรือสารที่มีประโยชน์แต่มีปริมาณมากเกินไปก็ได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ร่างกายของมนุษย์มีระบบจัดการของเสียที่หลากหลายใช้กำจัดสารเหล่านี้ออกไป ได้แก่ ทางลำไส้ในรูปแบบของอุจจาระ ผ่านทางปอดในรูปแบบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทางผิวหนังในรูปแบบของเหงื่อ และทางไต ในรูปแบบของปัสสาวะ ซึ่งเป็นเนื้อหาหลักของบทความนี้

ไต เป็นอวัยวะคู่หนึ่งรูปร่างคล้ายถั่ว อยู่ที่ตำแหน่งทั้งสองข้างของกระดูกสันหลัง บริเวณใต้กระดูกซี่โครงทางด้านหลังเยื่อบุช่องท้อง ตรงเหนือเอว

ไตของผู้ใหญ่มีขนาดประมาณหนึ่งกำปั้น ความยาวประมาณ 11 เซนติเมตร กว้าง 6 เซนติเมตร หนา 3 เซนติเมตร และหนักประมาณ 150 กรัม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

บทบาทของไตต่อร่างกายคืออะไร ไตเป็นอวัยวะสำคัญแค่ไหน?

ไตเป็นอวัยวะสำคัญในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำงานร่วมกับระบบทางเดินหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นที่จะทำการส่งต่อเลือดเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟอกที่ไตในหน่วยที่เล็กที่สุดอย่างเนฟรอน (Nephron) หรือหน่วยไต ซึ่งประกอบด้วยเส้นเลือดฝอยโกลเมอรูลัส (Glomerulus) กระจุกกันอยู่ในแคปซูลของโบวแมน (Bowman’s capsule) และท่อไตที่มีความสำคัญในการดูดกลับสารที่จำเป็นและขับสารที่ไม่จำเป็นต่างๆ ออกนอกร่างกาย

ด้วยกลไกข้างต้นนี้ ไตจึงมีบทบาทสำคัญในการควบคุมสมดุลของปริมาณน้ำ เกลือแร่ กรด-เบส และของเสียต่างๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ไตยังสามารถหลั่งฮอร์โมนหลายชนิดที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย และบางชนิดยังส่งผลโดยตรงต่อสมดุลความดันเลือดอีกด้วย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ไตมีระบบการทำงานอย่างไร?

ทุกๆ 1 นาทีมีเลือดไหลผ่านเข้ามาที่หน่วยไตประมาณ 600 มิลลิลิตร ซึ่งจะผ่านการกรองออกมาประมาณ 20% คือ 120 มิลลิลิตร ซึ่งเรียกว่าอัตราการกรองของไต (Glomerular Filtration Rate: GFR) เป็นค่าที่ทางการแพทย์ใช้อ้างอิงประสิทธิภาพการทำงานของไตโดยรวม

ที่หน่วยไต หลังจากที่เลือดผ่านการกรองที่เส้นเลือดฝอยโกลเมอรูลัสแล้ว ของเหลวที่ได้จากขั้นตอนนี้จะถูกลำเลียงต่อไปตามท่อไตเล็กๆ และระหว่างนี้เองจะมีการดูดกลับน้ำและสารบางอย่างที่มีประโยชน์เพื่อนำกลับไปใช้ต่อไป จนเหลือปัสสาวะปริมาณเฉลี่ยเพียง 1 มิลลิลิตรต่อนาที

หน้าที่และประโยชน์ของไต มีอะไรบ้าง?

ไตมีหน้าที่และประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้

1. กำจัดของเสีย

ไต กำจัดของเสียไปในรูปแบบของปัสสาวะ สารประกอบ 2 อย่างหลักๆ ที่ไตกำจัดออกไป ได้แก่

  • ยูเรีย (Urea) เกิดจากการย่อยสลายโปรตีน
  • กรดยูริค (Uric acid) เกิดจากการย่อยสลายกรดนิวคลีอิก

2. ดูดกลับสารต่างๆ

ไตดูดกลับทั้งสารอาหาร แร่ธาตุ และสารที่จำเป็นต่อการรักษาสมดุลของร่างกาย ได้แก่

  • น้ำตาลกลูโคส
  • กรดอะมิโน
  • ไบคาร์บอเนต
  • โซเดียม
  • โพแทสเซียม
  • แมกนีเซียม
  • ฟอสเฟต
  • คลอไรด์
  • น้ำ

3. ควบคุมสมดุลกรด-ด่าง

ในร่างกายคนเราจะควบคุมระดับ pH ในเลือดให้อยู่ระหว่าง 7.38-7.42 หากค่าต่ำหรือสูงเกินไป โปรตีนและเอนไซม์ต่างๆ จะเสื่อมสภาพจนไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป

สุดท้ายอาจถึงแก่ชีวิตได้ในรายที่ค่าผิดปกติมากๆ และไม่ได้รับการรักษา

ไตและปอดเป็นสองอวัยวะที่ทำหน้าที่หลักในการควบคุมสมดุลนี้ โดยปอดจะใช้การเปลี่ยนแปลงอัตราการหายใจเพื่อควบคุมระดับคาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนไตมีประบวนการ 2 อย่างหลักๆ คือ

  • ใช้ไบคาร์บอเนตช่วยลดความเป็นกรด ซึ่งไตสามารถดูดกลับหรือขับไบคาร์บอเนตทิ้งได้ ขึ้นกับค่า pH ในขณะนั้น
  • ขับกรดในรูปของประจุไฮโดรเจนหรือสารประกอบที่มีคุณสมบัติเป็นกรด ได้แก่ กรดซัลฟิวริก กรดฟอสฟอริก และกรดแลคติกออกไป

4. ควบคุมสมดุลน้ำ

เมื่อร่างกายขาดน้ำ สมองในส่วนไฮโปทาลามัสจะตอบสนองโดยสั่งการให้ต่อมใต้สมองให้หลั่งฮอร์โมนแอนติไดยูริก (Antidiuretic hormone: ADH) ซึ่งส่งผลให้ไตดูดกลับน้ำมากขึ้น เป็นผลให้ความเข้มข้นของปัสสาวะเพิ่มขึ้น

5. ควบคุมสมดุลความดันเลือด

ไตควบคุมสมดุลความดันเลือดด้วยระบบเรนนิน-แองจิโอเทนซิน-อัลโดสเตอโรน (Renin Angiotensin Aldosterone System: RAAS) เริ่มจากหลั่งเรนนิน (Renin) ออกมาเมื่อมีระดับโซเดียมในเลือดต่ำลงหรือความดันหลอดเลือดทั่วร่างกายมีความต่ำลง จากนั้นเรนนินจะไปเปลี่ยนแองจิโอเทนซิโนเจน (Angiotensinogen) ซึ่งสร้างจากตับ ไปเป็น แองจิโอเทนซินหนึ่ง (Angiotensin I) ซึ่งจะโดนเปลี่ยนอีกทีไปเป็นจิโอเทนซินสอง (Angsiotensin II) โดยเอนไซม์แองจิโอเทนซินคอนเวิร์ตติง (Angiotensin Converting Enzyme: ACE) ที่สร้างจากปอด

Angiotensin II มีฤทธิ์ 2 อย่าง คือ

  • ทำให้หลอดเลือดหดตัวอย่างรุนแรง ส่งผลให้ความดันเพิ่มสูงขึ้น
  • กระตุ้นต่อมหมวกไตให้หลั่งอัลโดสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งผลให้เกิดการดูดกลับโซเดียมและขับโพแทสเซียมทิ้งที่ท่อไต

6. หลั่งสารที่จำเป็น

ไตมีหน้าที่หลั่งสารที่สำคัญต่างๆ ดังนี้

  • อีริโทโพริติน (Erythropoietin) เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง หากขาดฮอร์โมนชนิดนี้จะเกิดอาการซีดได้
  • เรนนิน (Renin) เป็นฮอร์โมนใน RAAS ซึ่งส่งผลต่อการควบคุมสมดุลความดันเลือด
  • แคลซิทริออล (Calcitriol) เป็นรูปที่ออกฤทธิ์ได้ทันที (Active form) ของวิตามินดี มีผลไปเพิ่มระดับแคลเซียมในเลือด

ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android

👨‍⚕️⚕️👩‍⚕️⚕️ ค้นหาโรค อาการ ยา โรงพยาบาล คลินิก และอ่านบทความสุขภาพ เขียนโดยคุณหมอหรือผ่านการรีวิวจากคุณหมอแล้ว ที่ www.honestdocs.co และ www.honestdocs.id 

💪❤️ ไม่พลาดข้อมูลดีๆ ที่จะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นทั้งกายและใจ คลิกที่นี่เพื่อแอดไลน์ @hdcoth หรือแสกน QR Code ด้านล่างนี้ และยังติดตามเราได้ที่ Facebook และ Twitter วันนี้

📱📰 โหลดแอป HonestDocs สำหรับ iPhone หรือ Android ได้แล้ววันนี้! จะอ่านบทความ จะเก็บบทความไว้อ่านทีหลัง หรือจะแชร์บทความให้คนที่เราเป็นห่วง ก็ง่ายกว่าเดิมเยอะ

เปรียบเทียบดีลสุขภาพ ทำฟัน และความงาม จาก รพ. และคลินิกกว่า 100 แห่ง พร้อมจองคิวผ่าน HonestDocs คุณหมอมือถือได้เลยวันนี้ ถูกกว่าไปเอง

ขอบคุณที่วางใจ ทุกเรื่องสุขภาพอุ่นใจ ให้ HonestDocs (ออเนสด็อกส์) คุณหมอมือถือ ดูแลคุณ ❤️

ดูข่าวต้นฉบับ