ไลฟ์สไตล์

ล้วงลึก 2 สาว 'ARSTIEA-ONNIES' คอสเพลย์เยอร์ชื่อดัง กับเส้นทางที่ต้องฝึกฝน ประสบการณ์ที่ (ไม่) ไร้สาระ

INTERVIEW TODAY
เผยแพร่ 21 ก.ค. 2564 เวลา 17.00 น. • O.J.

ไฮไลต์

  • การเติบโตของวงการคอสเพลย์จากอดีตมาถึงปัจจุบันมีความแตกต่างเป็นอย่างมาก จากที่เป็นงานอดิเรกไม่ทำเงิน แต่ปัจจุบันนี้บางคนสามารถใช้เป็นอาชีพและสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จัก  
  • คอสเพลย์ไม่จำเป็นต้องเซ็กซี่เสมอไป ล้วนขึ้นอยู่กับคาแรคเตอร์ของตัวละคร แต่คอสเพลย์กับถูกเหมารวมว่าต้องเซ็กซี่ซึ่งมันไม่จำเป็น  
  • คอสเพลย์เป็นเรื่องไร้สาระ ? ในทุก ๆ การกระทำล้วนมีสาระสำคัญอยู่ในนั้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยขนาดไหน ถ้าเรามองเห็นและหาเจอมันก็อยู่ตรงนั้นเอง

‘คอสเพลย์’ เชื่อว่าหลายคนอาจมองเป็นเรื่องไร้สาระ เพียงแต่งตัวตามการ์ตูน แล้วเดินไปเดินมาตามงานอีเวนต์เพื่อให้คนถ่ายรูป หรือในสายตาของบางคนอาจเห็นเป็นเรื่องแปลก โดยมองข้าม ‘ความพยายามและความฝัน’ ซึ่งแท้จริงแล้วคอสเพลย์เป็นมากกว่าการแต่งตัว แต่แฝงไปด้วย ‘คาแรคเตอร์และการฝึกฝน’ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ปัจจุบันการคอสเพลย์ในไทยเริ่มเปิดกว้างมากขึ้นและผู้คนเข้าใจถึงบริบทที่เหล่าคอสเพลย์เยอร์สื่อสารจนพาไปสู่การสร้างอาชีพและการหารายได้จากสิ่งที่รัก 

INTERVIEW TODAY สัปดาห์นี้จะพาไปพูดคุยกับ 2 สาวคอสเพลย์เยอร์แถวหน้าของเมืองไทย 'ARSTIEA และ ONNIES' ผู้คร่ำหวอดในวงการ ถ้าเรื่องการทำชุดหรือการเซ็ตวิก ต้องยกให้เป็นไอดอลในการคอสเพลย์ แต่รู้หรือไม่ว่าภายใต้ความน่ารักสดใสของทั้งคู่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคจนกว่าจะยืนหนึ่งในแวดวงคอสเพลย์

ARSTIEA และ ONNIES คือใคร ?

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทำความรู้จักกับ 2 สาวคอสเพลย์เยอร์ เริ่มด้วย 'คุณนัน' ชื่อในการคอสเพลย์คือ 'ARSTIEA หรือ RASIJES' ดีกรีทูตการท่องเที่ยวคอสเพลย์ประเทศไทยในปี พ.ศ.2553 และนักเซ็ตวิกผู้มากฝีมือ ไม่ว่าต้นแบบหรือคาแรคเตอร์เป็นอย่างไร ก็สามารถรังสรรค์ได้ตามต้องการ ซึ่งในแวดวงคอสเพลย์ยกให้เป็นนักเซ็ตวิกอันดับหนึ่ง 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

'คุณอร' ชื่อในการคอสเพลย์คือ 'ONNIES' คอสเพลย์เยอร์มากฝีมือที่สามารถถ่ายทอดคาแรคเตอร์ของตัวละครได้ทุกบทบาทกับรอยยิ้มละมุนละไมภายใต้ความน่ารัก ก็ทำหลายคนตกหลุมรักได้ง่าย ๆ อีกทั้งเคยมีโอกาสได้ร่วมงานต่างประเทศทั้งในฐานะผู้เข้าแข่งขันและกรรมการ นับเป็นคอสเพลย์เยอร์เบอร์ต้น ๆ ที่หลายคนยกให้เป็นไอดอล 

นิยามคำว่า 'คอสเพลย์' 

'คอสเพลย์' คำเพียงหนึ่งคำก็สามารถตีความได้หลายรูปแบบ นัน ARSTIEA เผยว่า ส่วนตัวนิยามคำดังกล่าวว่า ถ้าแปลตรงตัวคือการแต่งกายเลียนแบบตัวละครใดตัวละครหนึ่ง (ที่มีต้นแบบ) เราสวมบทบาทเป็นตัวละครตัวนั้น ๆ ทั้งลักษณะนิสัย ทรงผม เสื้อผ้า การพูดจา หรือการแสดงออกต่าง ๆ ที่สื่อถึงตัวละครนั้น

อร ONNIES เผยว่า 'คอสเพลย์' สำหรับคนทั่วไปอาจจะมองเป็นเพียงการสวมชุดแฟนซี แต่ส่วนตัวคิดว่าความหมายของมันมีความซับซ้อนกว่านั้น นอกจากเสื้อผ้า การแต่งหน้าต่าง ๆ ที่ต้องให้เหมือนแล้ว โจทย์หลักของการคอสเพลย์คือการสวมบทบาทในและคาแรคเตอร์ โดยคิดเสมอว่าเราหลุดมาจากโลกตัวละครไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน,อนิเมะ,เกม หรือภาพยนต์ต่าง ๆ 

'จุดเริ่มต้นของ 2 สาวคอสเพลย์เยอร์'

กว่าทั้งคู่จะมาอยู่ในจุดคอสเพลย์เยอร์มืออาชีพได้นั้น ก็ย่อมมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งเดียวที่สามารถทำให้ทั้งคู่มาอยู่ในจุดนี้ได้นั้นคือ 'ความรักและชื่นชอบการ์ตูน' 

"จุดเริ่มต้นของการแต่งคอสเพลย์ของ อร ONNIES เกิดจากตอนเล่นเกมออนไลน์ด้วยกัน ถึงจะสนิทในเกมมาก แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เจอกัน พอจะได้เจอกัน จึงได้หากิจกรรมอะไรมาทำด้วยกัน นั้นคือการแต่งคอสเพลย์ และนัดเจอที่งานแต่งคอสเพลย์

แต่ยอมรับว่าในยุคนั้นการทำชุดหนึ่งชุดเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะต้องอธิบายให้ช่างทำชุดเข้าใจแบบจากภาพการ์ตูน ซึ่งเราต้องเรียนรู้อะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นงานช่าง หรือแม้กระทั่งหัดแต่งหน้า ครั้งแรกที่คอสเพลย์คือ Priest จาก Ragnarok สนุกมาก ๆ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี"

"ส่วนจุดเริ่มต้นของ นัน ARSTIEA ยอมรับว่าต้องย้อนไปนานพอสมควร (หัวเราะ) ครั้งแรกที่ได้คอสเพลย์ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นคอสเป็น Bongun  จาก Ragnarok เช่นเดียวกับอร โดยแต่งในงานโรงเรียน เรียกเป็นการคอสได้ไหมก็ไม่แน่ใจซะด้วย เพราะชุดก็หาเอาแค่คล้ายๆ ซึ่งคอสเพลย์ในสมัยนั้นเราก็ไม่ได้สวมวิกผม แต่ใช้ผมจริงตัวเองและเซ็ตให้เหมือนกับคาแรคเตอร์นั้น ถ้ามาอยู่ในสมัยนี้ทำแบบนั้นอาจจะโดนว่าเป็นการเนียนคอสก็ได้ (หัวเราะ) "

เนียนคอส คือการหยิบชุด พร็อพ หรือวิกผมที่เรามีอยู่แล้วมาดัดแปลง เพื่อให้ใกล้เคียงกับตัวละครที่เราจะคอสเพลย์ใหม่ ทั้งนี้ก็อยู่กับมุมมองของแต่ละคนว่าการเนียนคอสไปทิศทางใด 

ทุกคนล้วนมีก้าวแรกเสมอนะคะ :) 

'คอสเพลย์และแรงซัพพอร์ตจากครอบครัว'

'ครอบครัว' นับเป็นสิ่งสำคัญ เปรียบดั่งเป็นแรงผลักดัน เพื่อพาไปสู่ความสำเร็จกับสิ่งที่เรารัก หลายคนมักจะหยิบคติประจำใจของสตีฟ จอบส์ มาปรับใช้อย่าง 'รักในสิ่งที่ทำทำในสิ่งที่รัก คือแรงผลักดันของความสำเร็จ ' ซึ่ง 'คอสเพลย์' ก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่รักจริงก็คงถอดใจ 

"นัน ARSTIEA เผยว่าในช่วงแรกที่เริ่มเข้าวงการคอสเพลย์ทางครอบครัวค่อนข้างให้อิสระทีเดียว เพราะเก็บเงินตัดชุด ซื้อวิกรวมไปถึงนั่งทำพร็อพเอง คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร บางครั้งยังมีช่วยพาไปซื้อของด้วยก็มี ทางบ้านค่อนข้างเป็นสายอาร์ทกันทั้งบ้าน เค้าเลยไม่รู้สึกว่าการทำแบบนี้มันผิดหรือมันแย่ตรงไหน ตราบใดที่เรายังรักษาระดับผลการเรียนให้พอใช้ได้ ส่งการบ้านครบ รับผิดชอบและแบ่งเวลาออกมาดี เรื่องพวกนี้ก็นับเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่ง

"ทางด้าน อร ONNIES ยอมรับเลยว่าในช่วงแรกครอบครัวก็ไม่ได้สนับสนุนทางด้านคอสเพลย์ แต่ก็ไม่เชิงว่าห้ามทำ แต่บางครั้งเราก็แอบซื้อพร็อพและชุดแล้วเอาไปซ่อน ซึ่งซ่อนไปซ่อนมาก็โดนจับได้เลยเลิกซ่อน ซึ่งทางครอบครัวก็คงอยากให้เราทำอย่างอื่นมากกว่า พอเขาเห็นว่าเราทุ่มเทและสร้างรายได้ เขาก็ยอมรับมากขึ้น ก็นับว่าเป็นเรื่องที่โชคดี (หัวเราะ) 

ครั้งแรกที่เห็นแรงสนับสนุนจากเขาเลยก็คือประกวดคอสเพลย์ต่างประเทศ ทางครอบครัวก็ซัพพอร์ต ถึงจะไม่ใช่ตัวเงินก็ตาม แต่เราก็รับรู้ได้ เช่นเตรียมอาหารสำหรับการเตรียมตัว หรือรู้ว่าเราต้องบินพวกเขาก็ขับรถไปส่งที่สนามบิน นี่ก็ถือก็เป็นการซัพพอร์ตแล้ว :) "

'ทุ่มเท สุดภูมิใจ'

ไม่ว่าเรื่องจะเล็กน้อยหรือใหญ่โตเพียงใด ก็มักมีสิ่งที่เราภูมิใจ แล้วยิ่งเป็นสิ่งที่ทำด้วยความตั้งใจแล้ว ความภูมิใจก็จะทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งทั้ง 2 สาวคอสเพลย์เยอร์ นัน ARSTIEA และ อร ONNIES ถึงทั้งคู่จะคอสเพลย์มาแล้วมากมาย แต่ก็มีครั้งที่รู้สึกทุ่มเทและปลื้มสุด ๆ 

"นัน ARSTIEA ส่วนตัวเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นตัวเราเองหรือคอสเพลย์เยอร์คนอื่น ๆ ทุกคนก็ล้วนตั้งใจทำให้ออกมาอย่างดีที่สุด และไม่อยากบอกเลยว่าตั้งใจกับทุกครั้งที่คอสเพลย์ (โดยเฉพาะวิก) ไม่มีครั้งไหนเลยที่ไม่ตั้งใจ แต่อาจจะมีบางครั้งที่มันออกมาล่ก ๆ ด้วยปัจจัยรอบด้าน เฟลบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา 

ปลื้มสุด ๆ อาจจะเป็นผลงานล่าสุด Gwen LOL เหตุผลเพราะไม่ใช่แค่เราที่ตั้งใจแต่มีคนร่วมด้วยช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานไปกับเรา มันก็เลยออกมาดี น่าปลื้มสุดๆไปเลยค่ะ ในที่นี้หมายถึงพี่ตากล้อง และซัพพอร์ตในวันถ่ายนะคะ อย่างว่างานจะออกมาดีก็ต้องมีทีมที่ดีค่ะ ลำพังตัวคอสเพลย์เยอร์คนเดียวนั้นทำอะไรได้จำกัด"

"สำหรับ อร ONNIES ถ้าถามถึงครั้งใดที่ทุ่มเทกับการคอสเพลย์มากที่สุด ขอยอมรับว่าตอบยากมาก เพราะทุกครั้งที่คอสเพลย์ก็เป็นการเก็บเลเวล ฝึกฝีมือเราไปเรื่อย ๆ เรื่องง่าย ๆ ในตอนนี้มันอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ตอนนั้นเลยก็ได้ อย่างคอสเพลย์ครั้งแรกก็เจอปัญหาเยอะมาก 

เอาที่ท้าทายที่สุดเร็ว ๆ นี้ ได้แต่งเป็น Eivor จาก Assassin's Creed Valhalla เป็นแนวชุดที่ไม่เคยทำเลย แต่ที่ยากกว่าคือเราต้องสวมบทบาทเป็นนักรบที่แกร่ง ต้องดูแข็งแรงจริง ๆ ปกติจะตัดชุดพอดีตัว แต่ชุดนี้ต้องทำให้ดูตัวโตกว่าปกติ "

'มุมมองวงการคอสเพลย์ในปัจจุบัน' 

"อร ONNIES คิดว่าวงการคอสเพลย์กับสังคมในปัจจุบัน ค่อนข้างเปิดกว้างมากขึ้นและไม่ถูกมองเป็นตัวประหลาดเท่าเดิมแล้ว (หัวเราะ) เพราะเดี๋ยวนี้ดาราหรือสื่อกระแสหลักมักหยิบการคอสเพลย์ไปใช้ อย่างเช่นการเอาดารามาแต่งคอสเพลย์ใช้ในการโปรโมทเกม เพื่อให้คนทั่วไปเข้าถึงเกมมากขึ้น

แต่ถ้าย้อนไปสมัยก่อนเหล่าคอสเพลย์เยอร์มักจะเจอสายตาแปลก ๆ ของผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาพอสมควร เนื่องด้วยงานคอสเพลย์ส่วนใหญ่จะจัดอยู่ตามห้างและใช้พื้นที่ส่วนรวมกับผู้อื่น และมักถูกเรียกว่า 'เซเลอร์มูน' (หัวเราะ) ไม่ว่าจะแต่งตัวละครเรื่องใดก็จะถูกเรียกว่าเซเลอร์มูน แต่ปัจจุบันพัฒนาเรียกว่า 'ฮัตสึเนะ มิกุ' แทนนะคะ (หัวเราะ)" 

"ทางด้าน นัน ARSTIEA เผยว่าการเติบโตของวงการคอสเพลย์ จากอดีตมาถึงปัจจุบันมีความต่างมากทีเดียว เป็น Gap ที่มหาศาลมาก จากที่เคยเป็นกลุ่มเล็ก ๆ จัดงานกันในสถานที่ปิดห้องเดียว ไม่มีคนยอมรับไม่มีคนรู้จัก จนกลายมาเป็นงานระดับโลก world cosplay จัดงานแทบทุกอาทิตย์ อุตสาหกรรมเกมนำเอาคอสเพลย์ไปเป็นตัวโปรโมทมากขึ้น จากที่เป็นงานอดิเรกที่ไม่ทำเงิน ปัจจุบันนี้บางคนสามารถใช้เป็นอาชีพได้แล้ว

'คอสเพลย์มาพร้อมความเซ็กซี่'

บางคนอาจมองว่าการแต่งคอสเพลย์จะต้องมาพร้อมกับ 'ความเซ็กซี่' โดยมองข้ามผลงานที่แฝงไปด้วยศิลปะและความหมายที่เหล่าคอสเพลย์เยอร์สื่อถึงคาแรคเตอร์

"สำหรับ นัน ARSTIEA การคอสเพลย์ไม่จำเป็นต้องเซ็กซี่ ถ้าตัวละครที่เราแต่งไม่ได้เซ็กซี่ เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องนำเสนอออกมาให้เซ็กซี่ ทว่ายังมีตลาดหลายกลุ่มที่ใช้คอสเพลย์เซ็กซี่เป็นจุดขาย ถ้าตลาดมีความต้องการ มีผู้ซื้อก็ต้องมีผู้ขาย ก็ไม่แปลกอะไรที่ตัวละครที่มีอิมเมจเซ็กซี่จะเป็นที่นิยม"

"คอสเพลย์ไม่ใช่เซ็กซี่ เซ็กซี่ไม่ใช่คอสเพลย์ อร ONNIES ขอย้ำเลยว่าทั้ง 2 สิ่งที่เผยในข้างต้น ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ซึ่งส่วนตัวก็คอสเพลย์แนวผู้หญิงอยู่บ่อยครั้ง บางตัวละครคาแรคเตอร์ไม่มีความเซ็กซี่ เราก็จะไม่ใส่ความเซ็กซี่ลงไป จะอิงจากคาแรคเตอร์นั้น ๆ  แต่บางครั้งก็ถูกเหมารวมว่าต้องใส่ความเซ็กซี่เข้าไปซึ่งมันก็ไม่จำเป็น 

ภาพลักษณ์และอิมเมจเซ็กซี่มักได้รับความนิยม คนจึงติดตาภาพนั้นมากกว่า ทั้งที่จริงมันก็ไม่ได้เกี่ยวกัน ล้วนขึ้นอยู่กับตัวละครนั้น ๆ"

'จุดเด่นการแต่งคอสเพลย์ จาก 2 สาวคอสเพลย์เยอร์'

ถ้าคนที่ไม่ได้ติดตามหรือไม่ได้สนใจการคอสเพลย์ ก็อาจจะมองเป็นการแต่งตัวตามการ์ตูน แต่แท้จริงแล้วคอสเพลย์เยอร์ ทุก ๆ คน มักจะมีจุดเด่นและให้ความสำคัญการจัดอันดับที่แตกต่างกันไป 

"ขอเริ่มจาก อร ONNIES จุดเด่นของเราคือความเป็นตัวของตัวเองที่สูงมาก (หัวเราะ) ซึ่งมันก็อาจจะดีหรืออาจจะไม่ดีก็ได้ เช่นบางครั้งเราก็อยากที่จะอินกับคาแรคเตอร์นั้นให้ได้ แต่กลับยากเพราะเราจะต้องลบอิมเมจของตัวเอง หลายคนคงชินตากับการที่อรแต่งตัวเป็นตัวละครผู้หญิงสาว ๆ  แต่ครั้งไหนที่คอสเพลย์เป็นเด็ก เราก็ไม่สามารถก้าวข้ามเข้าไปในอิมเมจเด็กได้ก็มี 

แต่ก็มีข้อดีที่พอทุกคนเห็นเรานิดเดียวก็จะรู้เลยว่านี้คือ อร ONNIES แต่บางครั้งก็อยากให้คนทุกคนเห็นเราในคาแรคเตอร์ตัวละครนั้นมากกว่าตัวเรา"

"จุดเด่นของ นัน ARSTIEA คือ ความใส่ใจและจัดลำดับความสำคัญในรายละเอียดในแต่ละชุดถ้ามองภาพรวมได้ เราจะจัดลำดับความสำคัญได้ พอจัดลำดับความสำคัญได้ เราก็จะรู้ว่าต้องใส่ใจกับอะไรเป็นพิเศษ

เช่นตัวละครนี้ชุดธรรมดามาก แต่เด่นที่วิก เราก็ต้องใส่ใจกับวิกเป็นพิเศษ,อีกตัวละครหนึ่งชุดเด่นมาก ทรงผมธรรมดา เราก็ต้องเน้นที่ชุด ซึ่งส่วนมากการถ่ายรูปคอสเพลย์ครึ่งตัวบนจะเห็นชัดที่สุด 

ดังนั้นเราเลยจะตั้งใจกับสิ่งนั้นเป็นพิเศษ แต่จริง ๆ แล้วการใส่ใจทุกรายละเอียดเป็นเรื่องดี แต่ในเวลาทำจำกัดข้อจำกัดของการใช้ชีวิต ทำให้เราต้องจัดสรรเวลางบประมาณด้วย ดังนั้นการลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นก็สำคัญเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในแง่ของภาพรวมต้องออกมาดูดีและปัง"

'ศิลปะของการคอสเพลย์'

อย่างที่ทั้ง 2 คอสเพลย์เยอร์เผยตั้งแต่ช่วงแรกที่ว่า 'คอสเพลย์' เป็นมากกว่าการแต่งตัวตามตัวละคร แต่ยังแฝงไปทั้งศิลปะและต้องอาศัยการฝึกฝน ซึ่งคนภายนอกที่ไม่ได้อินเรื่องนี้อาจจะมองเพียงแค่การแต่งหน้าประหลาด ๆ 

"แต่สำหรับ นัน ARSTIEA คิดว่าการคอสเพลย์ทำให้เราเกิดกระบวนการคิดหลากหลายรูปแบบที่เยอะมาก ความต้องการที่จะทำให้ดีย่อมเกิดการขวนขวายการเรียนรู้ไม่มากก็น้อย จากที่แต่งหน้าไม่เป็นก็แต่งออกมาได้ดีขึ้น จากที่ตัดชุดไม่เป็นก็ตัดออกมาจนได้ จากที่ไม่เคยคิดจะทำรองเท้ามาก่อน จู่ๆก็ต้องทำ (หัวเราะ) 

แต่เดี๋ยวนี้ หล่อเรซิ่น ทำปิ่นปักผม โมรองเท้าตัดชุด ทำวิก งานปั้น งานขึ้นโครงโฟมยาง แต่งรูป ทำคลิป ตัดต่อวิดีโอ ปัจจุบันยังงงๆ อยู่โอ้โหเราทำอะไรลงไปเนี่ย (หัวเราะ) ซึ่งทั้งหมดล้วนต้องฝึกฝนและสะสมทักษะมานานหลายปี กว่าจะทำวิก เผาชุดที่ทุกคนได้เห็น (หัวเราะ) 

แต่ก่อนกว่าจะเรียนรู้อะไรสักอย่างอาจต้องไปลงเรียนเสริม อาจต้องเสียเงินจ้างคนมาสอน อาจต้องลองผิดลองถูกเสียงบประมาณมากมาย แต่เดี๋ยวนี้มีโซเชียลเน็ตเวิร์กคลังความรู้ที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ง่าย การสะสมทักษะก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ "

"ทางด้าน อร ONNIES คิดว่าคอสเพลย์เป็นอะไรที่มากกว่าการหยิบเสื้อผ้ามาใส่ตามตัวละคร ถึงบางครั้งเราอาจจะไม่ได้ทำชุดเอง เราต้องเรียนรู้ถึงคาแรคเตอร์ไม่เช่นนั้นมันก็เป็นเพียงการสวมชุดแฟนซี ชื่นชอบ 'Reika Arikawa' คอสเพลย์เยอร์ชาวญี่ปุ่น ที่มีฝีมือการทำชุดสวยงามมาก ถือเป็นแรงบรรดาลใจที่ทำให้ตัวเราหันมาหัดทำชุด

'จากงานอดิเรก สู่ธุรกิจในแวดวงคอสเพลย์' 

"นัน ARSTIEA กล่าวว่า จริงๆ เริ่มทำร้านเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการคอสเพลย์ค่ะ (หัวเราะ) ทุกงานอดิเรกมักมีค่าใช้จ่ายเสมอ ไม่คิดว่าตัวเองจะมีร้านเหมือนกัน จนตอนนี้อาจจะไม่ทำต่อแล้วก็ได้เพราะสถานการณ์โควิด-19 ตอนนี้ไม่ดีเลยค่ะฝืดฝืนสุดๆ"

"และเมื่อพูดถึงวิกผมทุกคนก็ต้องนึกถึง นัน ARSTIEA นั้นก็เพราะวิกผมของเราคือ วิกที่ใส่แล้วหน้าตาดีที่สุด ความเหมือนเป็นเรื่องรองลงมา ทั้งหมดทั้งมวลเราจะทำไปเพื่ออะไร ถ้าวิกเหมือน ชุดเหมือน แต่คอสออกมาแล้วหน้าตาดูไม่ได้ หน้าหมองหน้าคล้ำดำมืด ตัวอ้วนขาตัน แก้มบวม เด็กคอสไม่ใช่ดาราที่มีรูปร่างหน้าตาเพอร์เฟค ทุกคนมีจุดเด่นที่อยากนำเสนอ จุดด้อยที่ควรปกปิด วิกผมก็ควรเป็นหนึ่งในสิ่งที่ส่งเสริมให้คนใส่ดูดีขึ้น"

"อร ONNIES ส่วนตัวก็รับตัดชุดคอสเพลย์บ้าง แต่พักหลังอาจจะไม่ค่อยสะดวกด้วยสถานการณ์โควิด-19 เช่นเดียวกับคุณนัน คือต้องบอกก่อนว่าช่วงนี้อาจจะรับทำเฉพาะชุดที่ตัวเราถนัดจริง ๆ เพราะเราจะได้รู้สึกสนุกไปกับชิ้นงาน เพื่อคุณภาพของผลงาน"

คอสเพลย์เป็นเรื่องไร้สาระ ? 

"มันก็ไร้สาระนะคะ (หัวเราะ) ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะมองไร้สาระก็ได้ ทว่าถ้าหากได้เรียนรู้หรือเจาะลึกถึงกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ และได้ประโยชน์จากงานอดิเรกที่ทำ อรเชื่อว่ายังไงก็ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ" อร ONNIES

"ในทุกๆ การกระทำล้วนมีสาระสำคัญอยู่ในนั้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยขนาดไหน ถ้าเรามองเห็น หาเจอ มันก็อยู่ตรงนั้นเอง " นัน ARSTIEA

'ถ้ามีพลังวิเศษสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ อยากมีพลังอะไร

ขอเริ่มที่ นัน ARSTIEA "ขอยอมรับเลยว่า คำถามมิสยูนิเวิร์สมากเลยค่ะ ตอบยากจัง (หัวเราะ) จริง ๆ เป็นคนที่คาดหวังกับคนอื่นน้อยมากเพราะรู้ว่าเราไปเปลี่ยนแปลงคนอื่นไม่ได้ เปลี่ยนได้แค่ตัวเอง ต้องช่วยเหลือตัวเอง ต้องพึ่งตัวเองให้ได้ แค่ทุกคนมีความสามารถมีศักยภาพที่จะทำงานใช้ชีวิตทำสิ่งที่ตัวเองชอบพึ่งพาตัวเองได้น่าจะดี"

"อร ONNIES ถ้าเกิดมีพลังวิเศษจริง ๆ ก็คงอยากให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม ซึ่งส่วนตัวคิดว่าทุกคนควรได้รับสิทธิ์ต่าง ๆ อย่างเท่าเทียมกันในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าหลายคนก็ไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรเป็นพิเศษนะคะ "

'ทิ้งท้ายกับ นัน ARSTIEA และ อร ONNIES' 

"ฝากถึงเด็กรุ่นใหม่ที่สนใจการคอสเพลย์และมีความตั้งใจ แต่มันอาจจะยังไม่พอ ซึ่งต้องมีเงิน มีสติและมีเวลาด้วยนะคะ (หัวเราะ) อยากให้เริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบก่อน แบบที่ไม่ยากจนเกินไปแล้วค่อย ๆ พัฒนากันไปค่ะ" นัน ARSTIEA 

"ก่อนอื่นรู้สึกสงสารน้อง ๆ ในช่วงนี้มากเพราะต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 มาถึง 2 ปี จนไม่สามารถออกมาพบปะหรือแต่งคอสเพลย์กันตามงานได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราเห็นคุณค่าของเวลา น้องคนไหนอยากแต่งคอสเพลย์ อยากทำอะไรก็รีบทำ ทุกคนก็ผ่านจุดที่ผิดพลาดกันมาหมด ทุกอย่างล้วนเป็นประสบการณ์"  อร ONNIES

สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักกับ นัน ARSTIEA และ อร ONNIES มากกว่านี้ หรือติดตามผลงานการคอสเพลย์มาทางนี้ได้เลย :)

นัน ARSTIEA

Facebook : ARSTIEA

Twitter : @Arstiea 

Instagram : Rasijes

อร ONNIES

Facebook : ONNIES

Twitter : @Onniesm 

Instagram : Onniesm