รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า
26 พฤษภาคม 2563
โดย รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรศ.ดร.พญ.ภัทรวัณย์ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
3 รายล้วนมาจากคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทั้งจากคูเวตและรัสเซีย
จำนวนคนไทยที่ทยอยกลับมาจากต่างประเทศมีมาก และได้รับการกักตัวเฝ้าดูอาการและตรวจหาการติดเชื้อ โดยพำนักที่สถานกักกันทั้งแบบ Local quarantine และ State quarantine
เท่าที่ผ่านมาระบบการกักตัวยังเป็นไปด้วยดี ขอให้สู้ๆ เข้มแข็ง อดทน และปลอดภัยทุกคน ทั้งคนทำงานและผู้ที่เดินทางกลับมา
วันนี้ได้เสวนากับหลายต่อหลายคน ก็ยังเห็นตรงกันว่าการระบาดระลอกสองมาแน่นอน แต่จะเป็นไปในลักษณะไหน ระหว่างมาแบบสึนามิแบบครั้งแรก หรือมาแบบคลื่นน้อยๆ กระทบชายฝั่ง รวมถึงจะมาทีละลูก หรือมาทีละหลายๆ ลูก ก็ล้วนขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคนครับ ว่าจะตั้งการ์ดอย่างระแวดระวังในการใช้ชีวิต หรือจะลดการ์ดลงรอน้องโควิด-19 ปล่อยหมัดโจมตี
เท่าที่ผ่านมา ปลดล็อคมาสองระยะ เราทำได้"ค่อนข้าง"ดีทีเดียว เพราะยังไม่เห็นคลื่นใหญ่
แต่…แต่…แต่…
มีสัญญาณเตือนเราให้เห็นแล้ว ได้แก่ การที่มีรายงานเคสใหม่เมื่อหลายวันก่อน เช่น คนไทยสูงอายุที่ไปโรงพยาบาลหลายแห่ง ทั้งรัฐและเอกชน ร้านอาหาร"แห่งหนึ่ง" ร้านตัดผม"แห่งหนึ่ง"…โอยยยย ตาลายเพราะไอ้คำว่า"แห่งหนึ่ง"นี่แหละ
คุยกับวงใน พบว่า แม้ผู้ติดเชื้อสูงอายุท่านนั้นจะใส่หน้ากาก ทำให้ความเสี่ยงในการแพร่ลดลงก็ตาม แต่ด้วยข้อมูลที่เราไปดูหน้างานตามสถานการณ์ปัจจุบันในสังคมตอนนี้ จะพบว่ายากมากๆ ที่จะสามารถระบุตัวทุกคนที่อยู่ในที่ต่างๆ เหล่านั้นได้
แม้ปัจจุบันรัฐจะพยายามอย่างยิ่งที่จะให้เช็คอินเช็คเอาท์กันเวลาไปไหนต่อไหน แต่มีคนทำ ก็มีคนไม่ยอมทำ หรือขัดขืน ไม่มากก็น้อย
พอเราทราบเช่นนี้ ยิ่งเป็นตัวย้ำเตือนให้เราทราบความเสี่ยงในการใช้ชีวิต ตราบใดที่กฎระเบียบยังมีไว้เพื่อฝ่าฝืนแสดงพาวเว่อร์
เราคงต้องร่วมด้วยช่วยกันทำให้เกิดบรรทัดฐานในการใช้ชีวิตแบบใหม่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อทุกคน
และจะไปไหน ก็ควรบันทึกไว้ในที่เก็บข้อมูลส่วนตัวของเรา ควรหมั่นติดตามข่าวคราว หากมีเคสติดเชื้อ ก็ฟังรายละเอียดและเช็คกับบันทึกที่เก็บไว้ว่า เราเข้าข่ายไปแถวนั้น วันนั้น เวลานั้นบ้างไหม หากไปก็จะได้ไปตรวจได้ทัน
แต่การกระทำดังกล่าวนั้นจะเกิดประสิทธิผลได้ ก็ต่อเมื่อเกิดบรรทัดฐานสังคม ที่ทุกคนเต็มใจช่วยกันทำ ไม่ตีตราว่าการติดเชื้อนั้นน่ารังเกียจรังงอน ยอมรับว่าติดเชื้อแล้วรักษาหายได้ สถานที่ที่มีคนติดเชื้อก็ทำความสะอาดแล้วเป็นปกติได้
เมื่อนั้นก็จะทำให้หน่วยงานรัฐกล้าที่จะบอกความจริงแก่ประชาชนว่า "แห่งหนึ่ง"นั้นคือที่ใดกันแน่
มิใช่แถลงแบบปล่อยให้งงด้วยปริศนา บอกให้ประเมินตัวเองว่าไปที่แห่งหนึ่งนั้นไหม ถ้าไปก็จงไปตรวจซะ…เพราะหากทำเช่นที่เห็นวันก่อน ต่อให้มีโคนันมาช่วยไขปริศนา โคนันก็คงต้องตอบว่า…
…ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว…แต่ผมไม่รู้โว้ย!!!
โคนันยอมแพ้โควิด…
#อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ
#StayHome
#WorkfromHome
#ใส่หน้ากากเสมอล้างมือบ่อยๆอยู่ห่างจากคนอื่น
#NewNormal_NewMe
ประเทศไทยต้องทำได้ครับ…
สู้ๆ นะครับทุกคน…
C.u again คืออยากจะแสดงตรรกะออกสู่สาธารณะบ้างก็เท่านั้น จะติดจะระบาดหรือไม่ก็อยู่ที่คนไทยเราเอง รัฐบาลก็บอกการ์ดอย่าตก จะเอากล้องจุลทัศน์เที่ยวตามดูหาโควิด ว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ว่างมากก็ช่วยทำสิ
27 พ.ค. 2563 เวลา 05.28 น.
TOMMY T. NAKNAKORN เค้ากบอก ก็เตือนกันอยู่ทุกวันไอ้ควาย!! จะมาจี้อะไร กลัวไม่ได้มีหน้ามีตาออกสื่อเหรอ ไอ้สันดานหมา
27 พ.ค. 2563 เวลา 05.16 น.
Nat ศบค.กำลังสร้างภาพให้ต่างชาติดูไม่พบโรค เพราะไม่ได้ตรวจ
27 พ.ค. 2563 เวลา 04.54 น.
thanakij แถลงให้หมดประชาชนจะได้ระวัง อย่าบอกส่วนเดียว แล้วให้ประชาชนเดาไปเรื่อย มันไม่ค่อยดีนะ เพราะโรคนี้มันร้าย
27 พ.ค. 2563 เวลา 04.44 น.
รวยแน่ๆ เห็นหลายคนไม่ใส่แมสกันแล้วโดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว
27 พ.ค. 2563 เวลา 04.40 น.
ดูทั้งหมด