ทั่วไป

ฎีกาฟังไม่ขึ้น! พิพากษายืนคุก 4 ปี เสี่ยเบนซ์ชนรถฟอร์ด ย่างสด 2 นักศึกษาป.โท

Khaosod
อัพเดต 03 มิ.ย. 2563 เวลา 02.40 น. • เผยแพร่ 03 มิ.ย. 2563 เวลา 02.39 น.
พิพากษายืนคุก 4 ปี เสี่ยเบนซ์ชนรถฟอร์ด

ศาลฎีกายืน พิพากษาจำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา "เสี่ยเจนภพ" ขับเบนซ์ชนรถฟอร์ด ย่างสด 2 ศพ นักศึกษา ป.โท มจร. รับโทษตามคำพิพากษา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวมีรายงาน เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โจทก์นายไพบูลย์ ถาวร นายทิวากร ฮ้อแสงชัย กับพวกรวม 4 คน เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายเจนภพ วีรพร เป็นจำเลยในความผิดฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ข่าวสด

เพิ่มเพื่อน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จากกรณีเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559 จำเลยขับรถเบนซ์ รุ่นซีแอลเค สีดำ ทะเบียน ษง3333 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนท้ายรถเก๋งฟอร์ด เฟียสต้า ทะเบียน ฆย6911 จนเกิดไฟไหม้ ทำให้ นายกฤษณะ ถาวร อายุ 32 ปี และน.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย นิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราขวิทยาลัย (มจร.) ถูกไฟคลอกเสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน กม.53 หมู่ 8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา โจทก์และโจทก์ร่วมที่ 3 และ 4 ได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เพิ่มโทษจำคุกจำเลย ต่อมา ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2562 แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้เพิ่มโทษ ตามที่โจทก์และโจทก์ร่วมที่ 3 และ 4 อุทธรณ์ ลงโทษจำคุกจำเลย ฐานเสพเมทแอมเฟตามีนขับรถ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ลงโทษจำคุก 6 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้บางส่วน คงเหลือโทษจำคุกจำเลย 4 ปี ไม่รอลงอาญา

จำเลย ยื่นศาลฎีกา ขอให้ศาลลงโทษสถานเบา และรอการกำหนดโทษจำเลย โดยอ้างว่า จำเลยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ร่วมทั้ง 4 คน เห็นว่า เป็นเรื่องที่จำเลยต้องรับผิดชอบให้แก่โจทก์ร่วมทั้ง 4 ตามกฎหมายในทางแพ่งอยู่แล้ว

ส่วนที่จำเลยอ้างว่าจบการศึกษาจากต่างประเทศ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัท มีคุณงามความดีช่วยเหลือผู้อื่น หลังเกิดเหตุบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตายทั้ง 2 เป็นเวาลา 2 เดือน 3สัปดาห์ ก็ยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยสถานเบา หรือรอการลงโทษให้จำเลยได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 4 ปี นั้น นับว่าเหมาะสมแก่พฤติการณ์ของรูปคดีแล้ว และเป็นคุณแก่จำเลยแล้ว

ส่วนที่โจทก์ร่วม ขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยสถานหนักและไม่รอการลงโทษ เห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ลงโทษจำเลย ได้ใช้กฎหมายที่มีบทลงโทษหนักที่สุดแก่จำเลยและชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลง แก้ไขทั้งบทและโทษที่ลงแก่จำเลย ฎีกาของโจทก์ร่วม ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน คงจำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา

ด้าน น.ส.กัญจนา ฮ้อแสงชัย น้องสาวของ น.ส.ธัญฐภัทร์ กล่าวว่า ครอบครัวฮ้อแสงชัย ขอขอบพระคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมทุกฝ่าย พี่สาวผู้เป็นที่รักยังอยู่ในความทรงจำของทุกคนในครอบครัวเสมอ ซึ่งขณะมีชีวิตพี่สาวได้ช่วยเหลืองานด้านสังคมและศาสนามาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าผลของคดีนี้จะเป็นบรรทัดฐานที่ดีให้แก่สังคมส่วนรวมต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 16
  • K sun
    ลูกหลานกะทิงแดงชนตำรวจ เงียบเลย
    03 มิ.ย. 2563 เวลา 03.20 น.
  • Sukjai
    ติดจริงมั้ย? ทำไมโทษน้อยจัง คนรวยๆน่าจะติดนานๆหน่อยนะ ศพล่ะ2ปีผมว่ามันไม่คุ้มกันนะครับ... ถ้าติดจริงๆจะถึงปีรึเปล่าก็ไม่รู้...
    03 มิ.ย. 2563 เวลา 03.42 น.
  • noy
    สรุปทำคนตาย2คนติด4ปี(​ คนตาย1คน=2ปี)​
    03 มิ.ย. 2563 เวลา 02.56 น.
  • น้อยไปนะ
    03 มิ.ย. 2563 เวลา 03.52 น.
  • อันที่จริงความเสียหายที่เกิดจากการกระทำโดยประมาท มีมากกว่าที่เกิดจากการกระทำโดยเจตนา แต่ประมาทรับโทษน้อยกว่าเจตนา สมควรแก้กฎหมายลงโทษให้หนักกว่านี้
    03 มิ.ย. 2563 เวลา 03.54 น.
ดูทั้งหมด