22 พ.ย.2499 62 ปี สายแกร่ง ตัวจริง คุณหญิงอ้อ

*****************************

วันนี้เมื่อ 62 ปีก่อน คือวันที่สตรีผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของแวดวงการเมืองไทยได้ถือกำเนิดขึ้น

ใช่แล้วเธอคือ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยาอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่คนไทยทั้งกดไลค์-ทั้งไม่รักที่สุดคนหนึ่งของประเทศนี้ ทักษิณ ชินวัตร

หลายคนพูดว่า ถ้าไม่เก่ง และแกร่งจริง คงเอาคนชื่อแม้วไม่อยู่ และที่ผ่านมาก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น เพราะทุกครั้งที่เสี่ยแม้วกล่าวถึงคุณหญิงอ้อ ทั้งยามรักและยามหย่า เขาไม่เคยเลยที่จะไม่ยกเธอคนนี้เป็น "ยอดหญิง"

วันนี้ลองตัดอคติทางการเมือง แล้วมาอ่านประวัติชีวิตของคุณหญิงสายแกร่ง ผู้อ่อนนอกแข็งในคนนี้กันดีกว่า

ลูกสาวตำรวจ

คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มีชื่อเล่นว่า "อ้อ" เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 4 คนของพลตำรวจโท เสมอ ดามาพงศ์ อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ กับคุณหญิงพจนีย์ ณ ป้อมเพชร

เธอมีพี่ชายสามคนคือ พงษ์เพชร ดามาพงศ์, พลตำรวจเอก เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ และ พลตำรวจโท นายแพทย์ พีระพงศ์ ดามาพงศ์ นอกจากนี้ยังมีพี่ชายบุญธรรม คือ บรรณพจน์ ดามาพงศ์

เมื่อแรกเกิดมารดาเคยตั้งชื่อให้ว่า "สร้อยเพชรพจมาน" ต่อมาจึงลดลงเหลือเพียง "พจมาน" ต่อมาในปี 2513 บิดาและมารดาได้หย่ากัน มารดากลับไปใช้นามสกุลก่อนสมรสคือ "ณ ป้อมเพชร"

อย่งที่เราเห็นแม้จนทุกวันนี้ว่า คุณหญิงพจมานมีอุปนิสัยเรียบร้อย พูดน้อย และเธอก็เป็นเช่นนั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แถมยังมีความเป็นระเบียบเช่นบิดา และมีใจเอื้ออารีเช่นมารดาอีกด้วย

ในวัยเรียน คุณหญิงพจมาน เริ่มเรียนชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ พอจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 บิดาก็ส่งคุณหญิงพจมานไปศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษาอนุปริญญาบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยอีสเทิร์น เคนทักกี สหรัฐอเมริกา

ซึ่งการเดินทางไปศึกษาต่อของเธอนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ทักษิณสอบได้เป็นที่หนึ่งของรุ่น ได้รับทุนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ไปศึกษาต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเคนทักกีสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกัน นั่นเอง

เมียตำรวจ

เส้นทางความรักของคุณหญิงพจมาน นั้น เธอพบกับทักษิณเป็นครั้งแรกขณะเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นพี่ของ พงษ์เพชร ผู้เป็นพี่ชาย

จากนั้นพบกันอีกครั้งที่สหรัฐอเมริกา ขณะที่ฝ่ายหญิงไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ที่สุดก็กลายเป็นความรัก และตัดสินใจเดินทางกลับมาประกอบพิธีมงคลสมรสที่ประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2519 ขณะที่คุณหญิงอ้อมีอายุ 20 ปี

ภาพหวานจากลูกสาว @ingshin21

จากนั้นจึงเดินทางกลับไปยังสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง เมื่อทักษิณได้รับทุนศึกษาต่อปริญญาเอก คุณหญิงพจมานก็สำเร็จปริญญาตรี Associate of Arts และสาขาบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเคนทักกีพอดี

และที่นั่นเธอได้ให้กำเนิดบุตรชายคนโตคือ ลูกโอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร และภายหลัง ตามมาด้วย พินทองทา และแพทองธาร บุตรสาวอีกสองคน

หลังจากกลับมายังประเทศไทยพร้อมกับทักษิณ คุณหญิงพจมานเรียกได้ว่าคอยช่วยเหลือกิจการต่างๆ ของสามีตลอดมา

ทั้งกิจการขายผ้าไหม เจ้าหน้าที่รับจองคอนโดมีเนียม รวมถึงคอยปรนนิบัติสามีและดูแลบุตร จนกระทั่งเมื่อ ทักษิณ ก่อตั้งบริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ จำกัด ซึ่งประกอบกิจการให้เช่าคอมพิวเตอร์ และต่อมากลายเป็นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินกิจการโทรคมนาคม

คุณหญิงพจมานก็ยังคงดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ช่วยเหลือสามีดูแลกิจการตลอดมา

อดีตเมียนายกฯ

ชีวิตของครอบครัวชินวัตรผ่านเรื่องราวมากมายจนพลิกผัน หลังทักษิณตัดสินใจเดินเส้นทางการเมือง

แม้จะประสบความสำเร็จเป็นอันมากในช่วงแรก แต่ภายหลังการเมืองไทยก็เข้าอีหรอบเดิม (แล้วแต่จะตีความ) ทักษิณต้องระเห็จไปอยู่ต่างประเทศ

ที่สุดภายใต้เรื่องราวที่ยังไม่จบ นับจากปี 2549 ถึงปี 2551 เส้นทางความรักของคนคู่นี้ก็จบลง

วันที่ 14 พ.ย.2551 คู่รัก "ผัวแก้วเมียขวัญ" ที่อยู่กินกันมากว่า 32 ปี ต้องมาจรดปากกาเซ็นต์ใบหย่าทางใครทางมัน ว่ากันว่าทั้งคู่ทำการจดทะเบียนหย่าที่กงสุลไทย ในฮ่องกง

ตอนนั้นข่าวสารโหมกระหน้ำถึงเรื่องนี้ และมีการระบุอ้างแหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุถึงสาเหตุการหย่าว่า เนื่องจากคุณหญิงพจมานไม่เห็นด้วยที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเล่นการเมืองต่อไปอีก

เพราะที่ผ่านมาครอบครัวถูกแรงกดดันจากการเมืองอย่างมาก คุณหญิงพจมานพยายามหลายครั้งแล้วที่จะกล่อมให้ พ.ต.ท.ทักษิณเลิกเล่นการเมือง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังไม่ยอมวางมือ ทำให้ถูกแรงกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คุณหญิงพจมานรับไม่ได้กับสภาพการณ์เช่นนี้ และออกปากขอหย่าในที่สุด

และบอกว่าการจดทะเบียนหย่าเป็นความต้องการของคุณหญิงพจมาน

ยังไงก็แกร่ง

ต้องแกร่งเบอร์ไหน ถึงตัดใจจากชีวิตคู่สามสิบกว่าปีได้ ใครทำไม่ได้ คุณหญิงอ้อทำได้ แม้ว่าเวลานั้น พวกชมการเมืองข้างสนามฟันธงว่า นี่คือ "หย่าการเมือง" คือ มิได้เลิกรากันจริงๆ เป็น ลับ ลวง พรางเท่านั้น!? (อ่าน

https://www.komchadluek.net/news/today-in-history/352121

แล้วก็ไม่รู้ทำไม แม้ขนาดที่ทั้งคู่เป็นอดีตสามีภรรยาต่อกันไปแล้วถึง 11 ปีจนถึงวันนี้ แต่ลึกๆ ในใจคนไทยบางกลุ่มบางคน ก็ยังเชื่อว่าไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป นอกจากกระดาษใบเดียว และระยะทางที่ห่างกันแค่นั้น…

แล้วก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ตลอดมา เราคนไทยต่างยอมรับในความเป็นคนแกร่ง ศรีทนได้ของคุณหญิงอ้อสุดๆ ตัวอย่างชัดๆ ตอนปี 2557 ขณะที่เธอกำลังเดินออกจากศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท

ปรากฏว่าไปเจอแกนนำ กปปส. ทยา และ ณัฐพล ทีปสุวรรณ พาพวกเข้าไปรุมเป่านกหวีดใส่ เรื่องราวได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดต่อพฤติกรรมของแกนนำคนดังกล่าว

ในที่สุด ขณะที่ภาพจากคลิป คนไทยได้เห็นถึงอาการนิ่งเฉยของคุณหญิงอ้อ ที่เดินขึ้นรถจากไปโดยไม่โต้ตอบ แต่กลับกันอีกฝ่าย ต้องออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า "เว้นวรรคทางการเมือง" ไม่กี่วันหลังจากนั้น

(อ่าน https://www.komchadluek.net/news/today-in-history/314687))

วันนี้ยังแกร่ง

ทุกวันนี้ คุณหญิงอ้อของแฟนคลับ ยังมีชีวิตที่มีความสุขไปด้วยลูกๆ หลานๆ ในวัยทองคำ

ก่อนหน้านี้ 24 มีนาคม เธอโผล่มาเลือกตั้งพร้อมลูกชายที่ลานกีฬา 1 หมู่บ้านเคหะธานี 3 หน่วยที่ 15 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว เขตเลือกตั้งที่ 14 ของกรุงเทพมหานคร โดยมี พานทองแท้ ชินวัตร ติดตามมาด้วย

จากนั้น วันที่ 7 พฤษภาคม คุณหญิงพจมาน พร้อมด้วยผู้บริหาร และพนักงานในกลุ่มบริษัทเครือชินวัตร และครอบครัวชินวัตร ได้จัดพิธีถวายราชสดุดี เฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 และร่วมพิธี ถวายสังฆทานเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ณ อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ

ช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา มีคนชื่อคล้ายกันว่า "พจมาน" ยังได้รับเกียรติจากนักวิชาการระดับอาวุโส หยิบยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างของความนิ่งเฉย เมื่อ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงกรณีสาวช่อ พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกโจมตีในประเด็นต่างๆ

วันนั้นอาจารย์ได้แนะนำว่า อย่าตกเป็นเหยื่อของวาทกรรมความเกลียดชัง แต่ให้ยึดขันติแบบตัวละคร 'พจมาน' ในนิยายเรื่องบ้านทรายทอง ซึ่งสุดท้ายเอาชนะใจชายกลาง หญิงใหญ่ ชายน้อยสำเร็จทั้งที่เคยโดนดูแคลนจากดงผู้ดีเทียมในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะหม่อมแม่ และหญิงเล็ก

จะใช่หรือไม่ใช่ "พจมานแห่งวังจันทร์ส่องหล้า" แต่คนไทยก็คิดตรงกันว่าคล้ายๆ อยู่นา…

ยังไงก็ตามแต่ ก็ขออวยพรสุขสันต์วันคล้ายวันเกิดครบ 62 ไปยัง คุณหญิงพจมาน คนแกร่ง มา ณ ที่นี้ด้วย

****************************