พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ได้เริ่มบังคับใช้กฏหมายหลังประกาศลงราชกิจจานุเบกษามาตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.62 แต่มีกำหนดเริ่มจัดเก็บภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ในวันที่ 1 ม.ค. 63 โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้แก่ ผู้เป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง, ผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ สำหรับหน่วยงานที่จัดเก็บภาษีตามกฏหมาย ได้แก่ เทศบาล, อบต., กทม., เมืองพัทยา, และ อปท.อื่น ๆ ที่มีกฏหมายจัดตั้ง
นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ "ชุมชนเมือง-เดลินิวส์" ว่า พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 เป็นภาษีใหม่ที่จะนำมาใช้จัดเก็บภาษี แทนภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งประชาชนจ่ายภาษีมาทุกปี ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ของตนเอง โดยรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น จะเป็นของ อปท.นั้น ๆ นำไปใช้พัฒนาท้องถิ่นของตนเองโดยไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้ของรัฐบาลส่วนกลาง
โดยอัตราการจัดเก็บภาษี ตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 มีการแบ่งประเภทที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกเป็น 4 กลุ่ม ตามลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดิน ได้แก่ เกษตรกรรม ที่อยู่อาศัย พาณิชยกรรม และที่ดินรกร้างว่างเปล่า อัตรภาษีที่ใช้จัดเก็บจะเป็นรูปแบบขั้นบันได เพิ่มขึ้นตามมูลค่าฐานภาษี ซึ่งฐานภาษีจะคิดตามมูลค่าทั้งหมดของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยคำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด ตามการประเมินของกรมธนารักษ์ โดยสิ่งปลูกสร้างในแต่ละประเภทจะมีราคาประเมินกลางที่แตกต่างกันไป โดยราคาประเมินกลางของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะมีการปรับตามรอบบัญชี การประเมินราคาทุก 4 ปี ทั้งนี้ ประชาชนเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประเภทการประกอบเกษตรกรรม (ม.40) และเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีชื่อในทะเบียนบ้าน (ม.41) จะได้รับการยกเว้นภาษีตามมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 50 ล้านบาทแรก
เช่น นาย ข. มีบ้านที่ใช้อยู่อาศัยเป็นหลังหลัก โดยมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านและมีชื่อในโฉนดที่ดิน ที่เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร นาย ข.จะได้รับยกเว้นภาษี 50 ล้านบาทแรก แต่ถ้าเกินจาก 50 ล้านบาทจะต้องเสียภาษีจากส่วนเกินนั้น ต่อมา นาย ข. มีคอนโด/ห้องชุดอีก 2 หลัง อยู่ในเขตจตุจักรกับเขตสายไหม เจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษีต้องตรวจสอบก่อนว่า นาย ข. ได้อยู่อาศัยที่คอนโด/ห้องชุดแบบเป็นบ้านหลังรอง หรือให้เช่า หากอยู่อาศัยเป็นแบบบ้านหลังรอง จัดเก็บภาษีในแบบบ้านบ้านหลังรองคือ นาย ข. จะเสียภาษีในอัตราร้อยละ 0.02 ต่อปี แต่ถ้าให้เช่าก็จะทำการจัดเก็บแบบอื่น ๆ คือ นาย ข. จะเสียภาษีในอัตราร้อยละ 0.03 ต่อปีของราคาประเมินจากกรมธนารักษ์
ต่อมา นาย ข. มีที่ดินอยู่ที่ จ.ศรีษะเกษ เจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษี ใน อปท.เขตที่ นาย ข. มีที่ดินอยู่ ก็จะตรวจสอบว่าที่ดินนั้นมีไว้ทำอะไร ถ้าทำเกษตรกรรมจะจัดเก็บอัตราภาษีในส่วนของเกษตรกรรม แต่ถ้าทำอื่น ๆ จัดเก็บอัตราภาษีตามแบบอื่น ๆ ต่อไป โดยเจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษี จะไม่นำทรัพย์สินของ นาย ข. ที่มีอยู่ในต่างจังหวัดมารวม คิดมูลค่าการเสียภาษี รวมกับทรัพย์สินอื่นที่อยู่ใน กทม. แต่ถ้ามีบ้านหรือที่ดินหรือห้องชุดที่อยู่ใน กทม.เหมือนกัน ไม่ว่าจะอยู่เขตไหนจะนำมาคิดรวมกันตามตัวอย่าง
ในส่วนทรัพย์สินที่เป็นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง หากมีชื่อเป็นเจ้าของร่วมกัน ทางเจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษี จะแจ้งข้อมูลการเสียภาษีไปยังบุคคลทั้ง 2 คนที่มีชื่อร่วมกันในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างนั้น ๆ อาทิ สามี-ภรรยา/พี่-น้อง เพื่อให้รับทราบ แต่จะทำการจัดเก็บภาษีจากเพียงคนเดียวตามที่เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะระบุเมื่อมาติดต่อเจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษี
นายเกรียงยศ กล่าวอีกว่า ในส่วน กทม. เจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ของแต่ละเขตได้ดำเนินการออกสำรวจและทำความเข้าใจกับประชาชนมาโดยตลอด แต่ยังมีปัญหาอุปสรรคในการทำงาน เนื่องจากบางพื้นที่ตามเขตรอบนอก มีเพียงที่ดินว่างเปล่า ไม่สามารถระบุเจ้าของได้ หรือบ้านที่อยู่อาศัยไม่มีคนอยู่ หาเจ้าของเจอ ทำให้การสำรวจเป็นไปได้ยาก ซึ่งที่ดินและบ้านพักอาศัยในพื้นที่ทั้ง 50 เขตของ กทม.มีอยู่ประมาณ 3 ล้านกว่าแปลง สำรวจไปได้ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ในส่วนของอาคารชุดนั้นปัจจุบันสำรวจเกือบครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เหลือบางส่วนที่เจ้าของเป็นต่างชาติ็ได้แค่ประสานไปยังนิติบุคคลของอาคารชุดนั้น ๆ ให้ช่วยส่งเอกสารการจัดเก็บภาษีให้เจ้าของทราบ
แต่ถึงแม้จะยังสำรวจไม่ครบก็ตาม เจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้อก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากการส่วนที่สำรวจได้ จัดทำเป็นเอกสารส่งไปให้ไปรษณีย์ เพื่อจัดส่งเอกสารให้กับเจ้าของที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง บ้านที่พักอาศัยหรืออาคารชุดต่างๆ เพื่อทำการตรวจสอบและรับทราบว่า ตนมีทรัพย์สินอะไรบ้าง ตรงตามที่สำรวจหรือไม่ และต้องจ่ายภาษีในอัตราเท่าใดหากพบว่าไม่ถูกต้องก็ยื่นอุทธรณ์ต่อเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ ภายใน 30 วันหลังจากได้รับเอกสาร ทั้งนี้ เอกสารที่จะจัดส่งทางไปรษณีย์อาจจะมีความล่าช้า หรือบางคนอาจจะไม่ได้รับ เพราะข้อมูลที่ กทม.ได้รับจากกรมที่ดิน จะมีเพียงโฉนดที่ดิน กับชื่อ แต่เลข 13 หลักกับที่อยู่ปัจจุบันและรหัสไปรษณีย์ไม่มี จึงอาจทำให้เสียเวลาในการค้นข้อมูลและอาจจะทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งข้อมูลทางไปรษณีย์ได้
อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถตรวจสอบทรัพย์สินได้ที่สำนักงานเขตตามที่สำนักเขตติดประกาศไว้ได้ โดยประชาชนสามารถมาติดต่อเริ่มจ่ายภาษีได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นไป ซึ่งปไม่ต้องกังวลใจว่าจ่ายภาษีมากขึ้นกว่าเดิม เพราะรัฐบาลยกเว้นให้อยู่แล้วหากที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่พักอาศัยเป็นหลังแรก มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท แต่หากประชาชนมีความสงสัยหรือไม่เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับการคิดอัตราภาษีใหม่ สามารถสอบถามเกี่ยวกับการเสียภาษีพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 ได้ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต.
Sitas Prasertmanukit อยากให้คิดอย่างงี้ครับ...
1) คนรวยมี่ คอนโดนราคา 50ล้านใจกลางเมือง ไม่ต้องเสียถาษี
2) คนตจว มีที่ มีบ้าน อยู่ ตจว 50ไร่ ราคารวม 3ล้าน และมีคอนโดเล็กๆ 1ห้องราคา 2ล้าน ต้องเสียภาษี
ตั้งใจเก็บภาษีคนรวยจริงๆหรือครับ?
19 พ.ย. 2562 เวลา 09.27 น.
โป๋ สายไหม หากินในบ้านตัวเองแถะจนฝาผนังจะหมดแล้ว
19 พ.ย. 2562 เวลา 09.12 น.
. กฎหมายเฮงซวย!!!
คนที่ซื้อบ้านหลังเดียว แต่ชื่ออยู่บ้านพ่อแม่ก็โดนเก็บนะ ถ้าไม่ย้ายชื่อออกไปบ้านที่ตัวเองซื้อ!
ทำไมไม่ย้ายน่ะหรอ?.....ก็ไม่ได้อยากย้ายชื่อออกจากบ้านพ่อแม่อ่ะ ทำไมไม่นับภาษีตามเจ้าของโฉนดวะ !?
19 พ.ย. 2562 เวลา 09.36 น.
Khunkea999 เก็บยังไง?เก็บที่ไหน?
หรือมีใบส่งมาบ้าน?
งง
19 พ.ย. 2562 เวลา 09.37 น.
chong สำรวจยังไม่เสร็จก้อจะเก็บแหละมันเอื้อให้นายทุนที่ซื้อที่จนไม่รู้โฉนดอยู่ที่ไหน? กรมที่ดินกับกรมสรรพากรนี่อยู่ในประเทศเดียวกันหรืออีกกรมอยู่ดาวอังคาร? เปลืองภาษีจริมๆ
19 พ.ย. 2562 เวลา 09.40 น.
ดูทั้งหมด