สุขภาพ

โรคกัดกินผิวหนัง หรือโรคชอบกัดเล็บเป็นประจำมาดูกันว่าเกิดมาจากอะไร มีวิธีแก้อย่างไร

AKERU
อัพเดต 05 ต.ค. 2561 เวลา 09.32 น. • เผยแพร่ 05 ต.ค. 2561 เวลา 09.32 น.
ถ้าคุณเป็นคนที่มักจะมีอาการประหม่า คุณก็อาจจะมีนิสัยเล็ …

ถ้าคุณเป็นคนที่มักจะมีอาการประหม่า คุณก็อาจจะมีนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก อย่างเช่นการกัดเล็บ, นิ้วมือ หรือบางทีก็กัดฟัน แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องที่ปกติเท่าไรนัก!

การที่ฟันและริมฝีปากกระทบกันบ่อยเกินความจำเป็นไม่ทำให้เกิดผลดีต่อสุขภาพของคุณ สิ่งนี้อาจมาจาก Dermatophagia ที่ให้ระดับความรุนแรงแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล ที่จริงแล้ว Dermatophagia หมายถึง “การกินผิวหนัง” ซึ่งจะเกิดขึ้น 2 ใน 7 จากคนที่ชอบเคี้ยวและดึงผิวบริเวณรอบๆ เล็บ ทำให้เล็บและนิ้วมือของคุณหมดสวย!

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
Fingertips_of_a_dermatophagia_sufferer

แล้วสาเหตุของมันมาจากอะไร?

มีงานวิจัยที่เชื่อมโยงพฤติกรรมกล่าวว่า Dermatophagia เป็นอาการที่ผิดปกติที่เกิดจากแรงกระตุ้นการควบคุม, การย้ำคิดย้ำทำ และระบบการจำแนกโรคทางจิตเวช (DSM)

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นิสัยของ Dermatophagia สามารถเปลี่ยนเป็นวงจรอุบาทว์ ที่ก่อให้เกิดความอับอายและรู้สึกผิดกับเจ้าของนิ้วมือ จนกระทั่งนำไปสู่ความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น และยังกลายเป็นพฤติกรรมที่มีความจำเป็นเมื่อรู้สึกอยากผ่อนคลายอีกด้วย

Fingerbite

ความเสี่ยงของมันคืออะไร?

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ในที่สุดผู้ที่กำลังเผชิญกับพฤติกรรม Dermatophagia ก็จะต้องเจอกับพฤติกรรมที่รุนแรง มันไม่เพียงแค่ทำให้คุณเสียโฉม แต่มันจะทำให้คุณปวดจากนิ้วมือที่ลอก และเกิดความอับอายเมื่อผู้อื่นเห็นเล็บของคุณ – และบางทีก็อาจทำให้คุณมีแนวโน้มของการติดเชื้อ

หากคุณโชคดีมันก็จะพัฒนาไปเป็นการมีหนังที่หนาด้าน (ตาปลา) จากร่างกายของคุณที่พยายามปกป้องตัวเอง

large (8)

source: weheartit

หยุดพฤติกรรมการกัดเล็บอย่างไร?

Dermatophagia อยู่ภายใต้พฤติกรรมการทำซ้ำ มีการศึกษามากมายที่พยายามหาทางแก้ไขพฤติกรรมนี้ ซึ่งก็มีผลลัพธ์ที่เป็นทางเลือกในการรักษาและมีประโยชน์จากการค้นคว้าในเรื่องนี้มากๆ

การรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่มีประโยชน์ มันเกี่ยวข้องกับการเสริมพลังทั้งบวกและลบในการแก้ไขจากต้นเหตุของปัญหา – แก้ไขการย้ำคิดย้ำทำ

การเสริมพลังบวกจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยปกติการบำบัดโรคจะมีการทำสัญญาควบคู่ไปกับระบบการให้รางวัล เพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจและบรรลุถึงเป้าหมายได้สำเร็จ

การเสริมพลังลบเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกันอย่างแน่นอน  ควรมีบทลงโทษหากทำไม่สำเร็จ เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญหากคุณต้องการทำงานอย่างมืออาชีพ และมันจะกลายเป็นเรื่องง่ายหากคุณชนะใจตัวเอง ทำให้พฤติกรรมนี้ไม่มีความจำเป็นในชีวิตคุณอีกต่อไป – และให้จำไว้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ

nail_biting

source: sites.psu.edu , davidwolfe

การฝึกนิสัยเป็นการรักษาที่ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก สิ่งนี้จะเป็นตัวนำให้คุณรู้สึกตัวและผลักดันให้คุุณทำสิ่งที่เป็นอันตรายกับตัวเองได้น้อยกว่า อย่างเช่น คุณอาจจะเลือกบีบลูกบอลเพื่อความเครียด หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ให้มือของคุณไม่ว่างและอยู่ห่างจากปากของคุณ

เช่นเดียวกับอาการป่วยทางจิตอื่นๆ ที่อาจจะต้องอาศัยความอดทน มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้คุณกลายเป็นคนที่มีสุขภาพดีและมีความสุขกันเถอะ!

หวังว่าวีดิโอด้านล่างนี้จะช่วยเป็นแรงบันดาลในการพยายามที่จะเลิกกัดเล็บของใครหลายๆ คนนะ

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 7
  • อลงกรณ์ ยองป่าถ่อน
    เอามือมา
    25 ก.ย 2560 เวลา 23.40 น.
  • โรคจิต
    24 ก.ย 2560 เวลา 16.14 น.
  • Naruepol
    ผมเป็นหนึ่งที่ชอบกัดผิวหนังหรือเล็บแต่ตอนนี้ก็เลิกได้แล้ว
    24 ม.ค. 2565 เวลา 15.07 น.
  • TS 1995
    นี่กัดจนเล็บจะเน่าละ
    09 ก.ค. 2562 เวลา 04.49 น.
  • เขาเรียกว่าโรคจิตร คิดะแวงวิตกกังวล
    25 ก.ย 2560 เวลา 23.31 น.
ดูทั้งหมด