ทุกวันที่ 20 มีนาคมของทุกปี สหประชาชาติได้ตั้งขึ้นให้เป็น “วันความสุขสากล” โดยมีความตั้งใจเพื่อให้เห็นว่าความสุขนั้นสำคัญต่อมวลมนุษยชาติอย่างไร โดยทาง UN นั้นได้มีแนวคิดว่า ความสุข หรือคุณภาพชีวิตที่ดีนั้น ต้องประกอบด้วย หยุดความยากจน ลดความไม่เท่าเทียม และปกป้องโลกนี้ไว้ ด้วยหลักการนี้เอง LINE TODAY เลยขอพาไปดูว่า ทำไมประเทศที่มักติดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกนี้ เขาถึงมีความสุข อะไรคือ กุญแจ ที่จะนำพาไปสู่ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก
เริ่มต้นที่ “ฟินแลนด์” ที่ฟินสมชื่อ เพราะว่าเป็นประเทศที่อยู่ในลำดับต้น ๆ เสมอเมื่อพูดถึงประเทศที่มีความสุข อย่างที่ทุกคนคงทราบดีว่าประเทศฟินแลนด์นั้น เป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีมาก อยู่ในลำดับต้น ๆ เสมอ และความสำเร็จเหล่านั้นก็มาจากการที่มี “คุณครู” ที่มีคุณภาพดี ซึ่งครูนั้นจะต้องจบปริญญาเอก โดยมีทุนจากรัฐบาลสนับสนุน ระบบการศึกษาก็ไม่เน้นการสอบที่วัดแต่ปริมาณ แต่เน้นการเรียนการสอนแบบลงมือทำมากกว่า รวมไปถึงโอกาสในการศึกษาของทุกคนในประเทศก็เป็นไปอย่างเท่าเทียม ซึ่งสำหรับฟินแลนด์ก็สอดคล้องกับหลักการลดความไม่เท่าเทียม ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้คนมีความสุข
อีกหนึ่งประเทศที่มีอัตราความสุขที่สูงก็คือ “เดนมาร์ก” ด้วยสิ่งต่าง ๆ ในประเทศไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพชีวิต ระบบของสังคมที่ช่วยสนับสนุน รวมไปถึงความเอื้ออาทรต่าง ๆ ในประเทศ ก็ไม่แปลกใจว่าทำไมคุณภาพชีวิตของคนเดนมาร์กถึงดี รวมไปถึงระบบพลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยาน รวมไปถึงสถานที่ต่าง ๆ ที่สามารถใช้ทั้งชีวิตเพื่อซึมซัมความสวยงาม รวมไปถึงความไว้เนื้อเชื่อใจรัฐบาลของชาวเดนมาร์กก็สูง ความมั่นคงทางเศรษฐกิจก็เลิศ เสรีภาพ การมีส่วนร่วมของพลเมือง อีกทั้งความสมดุลของชีวิตการงานและส่วนตัวก็ดีอีกด้วย อีกทั้งยังมีสโลแกนประจำใจว่า “ถ้าอยากเป็นสุข ก็หยุดเครียด และออกไปปั่นจักรยาน!
“นอร์เวย์” เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เรียกว่าครบ ประชาชนมีอัตรามีความสุขสูง ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบสวัสดิการที่ดีเยี่ยม การขยายตัวและเจริญเติบโตของเศรษฐกิจเกิดจากการจัดการเรื่องพลังงานธรรมชาติในประเทศ มีระบบสนับสนุนสังคมที่ดี มีความไว้เนื้อเชื่อใจรัฐบาล ระบบเศรษฐกิจที่ดี ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นเพราะว่ามีเป้าหมายในการสร้างความสุข
สำหรับ “เนเธอร์แลนด์” นั้นจะเน้นการปลูกฝังความสุขตั้งแต่เด็ก อย่างที่เคยมีสถิติว่าเด็กเนเธอร์แลนด์เป็นเด็กที่มีความสุขในโลก เพราะว่าได้รับการศึกษาที่ดีมีคุณภาพ ปลอดภัย และสุขภาพแข็งแรง
ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มี GDP สูง สำหรับ “สวีเดน” ซึ่งนี่ก็เป็นใบเบิกแรก ๆ ในการสร้างความสุขในประเทศ เพราะหากเศรษฐกิจดี ประชาชนก็จะสบายใจ รวมไปถึงความเท่าเทียมกันทางสังคมของสวีเดนก็มีสูงมาก มีระบบการศึกษาที่ดี และเข้าถึงได้ทุกคนตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาล อีกทั้งยังมีนโยบายที่สามารถให้ครอบครัวที่มีลูกสามารถลางานได้นานถึง 16 เดือน เพื่อที่จะใช้เวลาอยู่กับลูก รวมไปถึงยังมีสถานรับเลี้ยงเด็กให้ฟรีด้วย ถือว่าเป็นประเทศที่เหมาะกับผู้หญิงเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นประเทศที่สร้างสมดุลให้กับชีวิตการทำงานและครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยมอีกหนึ่งประเทศ
จากประเทศข้างต้นที่มีค่าเฉลี่ยความสุขในประเทศสูงเป็นลำกับต้น ๆ ของโลกนั้น จะเห็นได้ว่า ระบบสังคม การเมือง และการปกครอง รวมไปถึงวิสัยทัศน์ของประเทศนั้น มีความสำคัญที่จะสามารถเป็นตัวกลางในการผลักดันแนวคิดต่าง ๆ เพื่อสร้างความสุขให้กับประเทศได้ แต่อย่าลืมว่า ความเท่าเทียม และความไม่ยากจน เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องมีในสังคมที่อยากจะมีความสุข
ภาพประกอบ
อ้างอิง
bundits ไม่มีทหารชั่วโง่บัดซบแบบตระกุลจันทรโอชาไง ประเทศเขาถึงดี
05 ต.ค. 2565 เวลา 13.14 น.
.bank 🦕 ประเทศไทยเราเริ่มต้นที่หยุดคอรัปชั่นทุกหย่อมหญ้าก่อน พัฒนาพื้นฐานการศึกษา ปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้อง อีกสักร้อยปีข้างหน้าอาจจะดีขึ้น ประเทศไหนก็ดีได้ทั้งนั้นถ้าคุณภาพประชากรส่วนใหญ่มีจิตสำนึกที่ดีและผู้นำมีวิสัยทัศน์จริงใจ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม แต่ทุกวันนี้ประเทศเราไม่มีตรงไหนที่ไม่คอรัปชั่น
03 ต.ค. 2565 เวลา 02.06 น.
Kenny2 หึๆ ภาษีแพงม๊ากก
รัก เพราะว่า ไม่จน มีสตางค์ให้จ่าย
แก่ ก็ ตายเหงาๆ เหมือนกันแหละ....ปลง เป็นป่ะ
ใครห้าม ไม่ให้คุณย้ายประเทศ สัญชาติ เหรอ!?
There s the will there is the way...คิดซิ คิด
02 ก.ย 2565 เวลา 17.43 น.
Charlie, Phuket เพราะประชาชนส่วนใหญ่เป็น "คนดี" บ้านเมืองก็ดี
02 ก.ย 2565 เวลา 09.17 น.
ปาริชาติ นวาวัตน์ คนเขียนข่าวนี้เลือกประเทศหรือยัง
25 ส.ค. 2565 เวลา 06.32 น.
ดูทั้งหมด