เปิด 3 เทคนิคง่ายๆ เพิ่มผลผลิต “มะม่วง” นอกฤดู ขายได้ราคาดีเท่าตัว
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย นายสายันต์ ตันพานิช รองผู้ว่าการกลุ่มวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ ดร.อาภากร สุปัญญา รองผู้ว่าการกลุ่มยุทธศาสตร์และจัดการนวัตกรรม ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มปริมาณและผลผลิตมะม่วงนอกฤดู ที่กลุ่มสหกรณ์ผู้ปลูกมะม่วงนอกฤดูกุดหมากไฟ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีสมาชิก 150 สวน รวมพื้นที่ในการเพาะปลูกจำนวน 22,000 ไร่ ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ณ จังหวัดอุดรธานี
ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า เทคโนโลยีดังกล่าว วิจัยและพัฒนาโดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ วว. สามารถช่วยให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้นกว่าเดิม 1-2 เท่า ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนสำคัญ คือ
1.การเพิ่มจำนวนยอดอ่อน ด้วยการฉีดพ่นสารทางใบด้วยสารผสมของเอทีฟอนกับไทโอยูเรียหลังการตัดแต่งกิ่ง ซึ่งวิธีเดิมจะใช้ไทโอยูเรียเพียงอย่างเดียว แต่การผสมเอทีฟอนลงไปจะช่วยให้เกิดยอดอ่อนได้ง่ายและเพิ่มยอดได้ 40-70% เมื่อยอดมากขึ้นจำนวนตาดอกก็เพิ่มมากขึ้นด้วย
2.การเพิ่มจำนวนการออกดอก โดยการฉีดพ่นสารทางใบด้วยเมพิควอทคลอไรด์ในช่วงการบำรุงต้น วิธีการดังกล่าวจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของสารพาโคลบิวทราโซลที่ราดทางดิน ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกันจะมีจำนวนการออกดอกเพิ่มขึ้น 40-60% ในช่วงฝนน้อยหรือช่วงที่เกิดภาวะเอลนินโญ่ แต่จะช่วยเพิ่มดอกได้มากขึ้น 100-300% หากใช้วิธีดังกล่าวในช่วงฝนชุกหรือลานีญ่าที่มีฝนตกมากกว่าปกติ หรือเกษตรกรที่ทำการผลิตในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ดินร่วนปนทรายที่มีหินปนในเขตใกล้กับภูเขา สารพาโคลบิวทราโซลที่ราดทางดินจะถูกชะล้างให้ลงไปลึกกว่าระบบรากมะม่วงได้ง่ายเมื่อมีฝนตกชุก ทำให้การทำมะม่วงนอกฤดูล้มเหลว ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการฉีดพ่นสารพาโคลบิวทราโซลทางใบร่วมกับเมพิควอทคลอไรด์ มะม่วงก็จะออกดอกได้มากขึ้น
3.การเพิ่มการติดผลของมะม่วง โดยการฉีดพ่นสารทางใบด้วยส่วนผสมของน้ำตาลและนมผง วิธีนี้อาจช่วยทำให้พืชได้รับสารที่จำเป็นสำหรับกระบวนการผสมเกสรและลดการหลุดร่วงของผล โดยพบว่า การฉีดพ่นสารทางใบ จำนวน 3-4 ครั้ง ก่อนกระตุ้นการเจริญของตาดอก จะช่วยเพิ่มการติดผลและลดการหลุดร่วงของผล ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญมากของการผลิตมะม่วง ทั้งนี้ จากการทดลองพบว่าสามารถเพิ่มการติดผลของมะม่วงได้มากกว่า 1-3 เท่า และเมื่อติดผลแล้วฉีดพ่นต่อไปจะทำให้ผลมีขนาดโตและสมบูรณ์ขึ้น และในการทำดอกครั้งต่อไปมะม่วงจะสมบูรณ์และสามารถติดผลได้ดีทุกรอบของการผลิต
“มะม่วงจะมีราคาสูงในช่วงนอกฤดูกาลการผลิต โดยมะม่วงน้ำดอกไม้นอกฤดูจะมีราคาขายจากสวนที่กิโลกรัมละประมาณ 100 บาท หรือมากกว่า และมีราคาขายปลีกนอกฤดูประมาณ 200 บาทต่อกิโลกรัม แต่มะม่วงจะมีราคาถูกมากในช่วงฤดูปกติ เนื่องจากมีผลผลิตจำนวนมาก ปัจจุบันจึงนิยมทำผลผลิตนอกฤดูกาล แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความล้มเหลวหรือทำนอกฤดูกาลไม่ได้คือ ฝนที่ตกชุก เมื่อมีฝนมาก มะม่วงได้รับน้ำมากก็จะได้รับไนโตรเจนจากดิน ซึ่งจะทำให้ออกดอกน้อยหรือเมื่อเปิดตาดอกแล้วจะได้เป็นใบอ่อน
ปัจจัยนี้ทำให้มีมะม่วงนอกฤดูน้อยมากและราคาสูง แต่ผลผลิตจะราคาต่ำมากในฤดูมะม่วงปกติ เพราะมะม่วงที่ทำนอกฤดูกาลไว้จะออกดอกได้ดีเมื่อหมดฝน ทำให้ออกดอกพร้อมกันเกือบทั้งประเทศ ราคาในฤดูจึงตกต่ำมาก ทั้งนี้ หากเกษตรกรนำเทคโนโลยีของ วว. ไปใช้อย่างแพร่หลาย จะช่วยเพิ่มผลผลิตมะม่วงและสร้างรายได้ที่มั่นคง สร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน” ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ วว. (ดร.กุศล เอี่ยมทรัพย์) โทร. 0 2577 9000 โทรสาร 0 2577 9009 อีเมล tistr@tistr.or.th Line@TISTR
เผยแพร่ครั้งแรก วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563
Noy แล้วอย่างไม้ใช้สารเคมีไม่มีเหรอคะ
จะได้ชูวิสัยทัศน์ด้านปลอดสารเคมีนะ
20 ก.พ. 2563 เวลา 03.15 น.
โชชิว ล้นตลาดแน่มะม่วง ปี่นี้ออกดอกเต็มเลย
20 ก.พ. 2563 เวลา 03.52 น.
ขายไหนบอกกูที บอกแต่วิธีทำแต่ไม่บอกวิธีขาย
20 ก.พ. 2563 เวลา 03.42 น.
yui เอาแต่ปริมาณ คุณภาพไม่มี กลิ่นและรสชาติของมะม่วงเพี้ยนไปหมด เมื่อก่อนมะม่วงแรดทั้งกรอบทั้งหอม กินอร่อย เดี๋ยวนี้กินไม่ได้ ปรุงแต่งกันจนเพี้ยน ลำไยก็เหมือนกัน กระด้างๆ หวานแปลกๆ กลิ่นก็ไม่มี ไม่กินผลไม้นอกฤดู มันไม่ได้เรื่อง แถมแพงอีกต่างหาก
20 ก.พ. 2563 เวลา 04.03 น.
Dee มะม่วงชนิดอื่นๆใช้สูตรนี้ได้มั้ยคะ
20 ก.พ. 2563 เวลา 03.51 น.
ดูทั้งหมด