ไลฟ์สไตล์

ดอกไม้กับผีเสื้อ | พศิน อินทรวงค์

พศิน อินทรวงค์
เผยแพร่ 31 ส.ค. 2562 เวลา 07.34 น.

ทุกครั้งที่ท่านเสียเปรียบ จงคิดว่าท่านกำลังฝึกฝนความเมตตาอยู่ ผู้คนมากมายพูดถึงความเมตตาว่าความเมตตาคือสิ่งจำเป็น เราพูดกันอย่างนี้เสมอ เป็นสิ่งที่แม้แต่เด็กประถมก็ยังรู้ว่า ไม่ต้องใช้ความฉลาดอะไร ใครๆก็รู้ว่าความเมตตาคือสิ่งจำเป็น 

ทว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยพูดกันในแง่มุมที่ว่า ความเมตตาไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ เมื่อเราเสียเงินเพราะถูกหลอก ไม่ง่ายเลยที่เราจะเมตตาให้อภัยผู้ที่หลอกลวงเรา เมื่อเรากำลังหิว กำลังอด เงินทองกำลังขาดมือ ไม่ง่ายเลยที่เราจะรู้จักแบ่งปัน เหล่านี้เป็นความจริงที่ทุกคนต้องยอมรับ ไม่ใช่ยอมรับเพื่อจำนน แต่ยอมรับเพื่อปรับปรุงแก้ไข

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ความเมตตานั้นเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน ไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากลุกขึ้นมาทำก็ทำได้ ไม่อย่างนั้นเราคงมีนักบุญอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง และโลกก็คงไม่วุ่นวายอย่างทุกวันนี้ ในชีวิตประจำวันของเรา เราจำเป็นต้องเชื่อมโยงทุกสิ่งกับความเมตตาของเรา เดินด้วยความเมตตา ยืนด้วยความเมตตา นั่งด้วยความเมตตา และหลับตาลงไปพร้อมความเมตตา เราต้องฝึกให้เราเป็นผู้ที่ยิ้มให้โลกอยู่เสมอ ต้องทำให้ตัวเองมีสายตาอันอ่อนโยน ดุจดังดอกไม้ผู้เป็นมิตรกับผีเสื้อ

ดอกไม้ไม่เคยโกรธผีเสื้อ แม้ว่าผีเสื้อกำลังดูดกินน้ำหวานจากเกสรของมันอยู่ ดอกไม้ไม่เคยคิดว่าผีเสื้อกำลังเอาเปรียบ แต่มันเรียกสิ่งนี้ว่าการแบ่งปัน มันมีความเมตตาให้ผีเสื้อ ความคิดเช่นนี้เองที่ทำให้ดอกไม้มีความสุขทั้งที่มันต้องเสียน้ำหวานให้ผีเสื้อ จงเอาอย่างดอกไม้ที่กระทำต่อผีเสื้อ

ท่านจำเป็นต้องฝึกรักผู้ที่เกลียดชังท่าน ฝึกเห็นใจผู้ที่เอาเปรียบท่าน นอกจากนี้ทุกครั้งที่ท่านเสียสตางค์ ท่านควรคิดว่าท่านกำลังเป็นผู้ให้ ท่านจำเป็นต้องหัดให้เงินเกินกว่ามูลค่าสิ่งของที่ซื้อ เพื่อซื้อจิตวิญญาณแห่งความเมตตาของท่านกลับมา อย่าเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว แต่จงเป็นผู้ที่ให้อยู่เสมอ ให้เท่าที่จะให้ได้ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ท่านจำเป็นต้องมีความยินดีต่อความเสียเปรียบให้บ่อย เพื่อขยับขยายจิตวิญญาณของตนให้กว้างขวาง ถ้าท่านเป็นคนที่เรียกร้องสิทธิของตนเองอยู่ตลอดเวลา เป็นคนที่ยอมเสียเปรียบไม่ได้ ท่านจะกลายเป็นคนที่จิตใจคับแคบ แม้มีเหตุผลอันชอบธรรมที่จะไม่ให้ แต่ใจของท่านก็จะคับแคบ 

ท่านต้องรู้อยู่เสมอว่า เมื่อพูดถึงภาวะของจิตใจเราจะไม่พูดถึงเหตุผล เพราะเหตุผลเป็นของหยาบที่ไม่สามารถเข้าสู่จิตใจได้ จิตใจนั่นเป็นเรื่องของความรู้สึก แต่เหตุผลอันเกิดจากมายาคติจะนำท่านไปสู่การแล้งน้ำใจ ทำให้จิตใจของท่านตกเป็นทาสของความเห็นแก่ตัว เป็นการพอกพูนอุปนิสัยนิสัยของผู้ที่กระหายสงครามโดยไม่รู้ตัว อัตตาของท่านจะเพิ่มขึ้นจากความไร้น้ำใจ ท่านจะกลายเป็นผู้ที่ถูกต้องแต่ไม่มีความสุข เป็นผู้ชนะสงครามที่มีแต่ความทุกข์

ความเสียเปรียบ การแกล้งโง่นั้น เป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้ความเมตตาเพิ่มขึ้นได้ จงยอมถูกเอาเปรียบด้วยความเบิกบานให้มากขึ้นเป็นลำดับ แล้วสิ่งอัศจรรย์จะบังเกิด ถึงตอนนั้นความสุขของท่านจะเพิ่มพูนโดยไม่ยึดโยงกับวัตถุจอมปลอม ท่านจะมีความสมบูรณ์ในตนเองด้วยความเมตตา 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ความเมตตานี้เองจะช่วยให้คุณบรรลุธรรมได้โดยง่าย เพราะมันนำไปสู่จิตของอริยบุคคลในขั้นต่างๆ ท่านจะไม่มีโอกาสเข้าถึงความจริงได้เลยหากจิตใจของท่านมีเมตตาน้อยเกินไป “แม้ความเมตตาไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายนัก แต่หากทำได้ จิตวิญญาณของท่านจะเกิดการพลิกผันจนสุดขั้ว ท่านจะเกิดใหม่โดยไม่ต้องมีความตายเข้ามาเกี่ยวข้อง ท่านจะกลายเป็นผู้ไม่รู้จักความทุกข์ เป็นผู้เข้าถึงความสุขที่อยู่เหนือบทกวีจะเอื้อนเอ่ย

ความเห็น 5
  • บางครั้งเราก็อยากจะตอบโต้กลับ คนที่คิดไม่ดี ทำร้ายเรา เพื่อให้เขาได้รู้สึกตัวว่า สิ่งที่เขาทำมันไม่ถูก เพราะถ้าเราเฉยตลอดก็เหมือนสนับสนุนให้เขาทำไม่ดีไปเรื่อยๆ ถ้าคนแบบนี้มากขึ้นเพราะไม่มีใครเอาเรื่องบ้าง สังคมส่วนรวมคงไม่สงบสุข เราจะอยู่กันลำบากชั่วลูกหลาน
    31 ส.ค. 2562 เวลา 12.39 น.
  • Maliwan
    เป็นบทความที่แง่คิดและมุมมองที่ดีมากๆ 🙏🤗
    31 ส.ค. 2562 เวลา 09.13 น.
  • คิดว่าในการที่จะช่วยเหลือหรือว่าอุปถัมย์กับใครสักคนหนึ่ง สิ่งที่ควรจะคำนึงและนึกถึงให้มากที่สุดนั่นก็คือ ผลที่จะเกิดขึ้นต่อบุคคลนั้นให้เป็นหลักที่สำคัญ.
    31 ส.ค. 2562 เวลา 09.44 น.
  • การถูกเอารัดเอาเปรียบ ทำให้มีความรู้สึกไม่ดี แต่ถ้าเราคิดว่าเรามีความเมตตาจิตใจเราก็จะสงบเย็นขึ้น
    31 ส.ค. 2562 เวลา 11.59 น.
  • น้อย
    แค่คิดที่จะให้ ใจก็มีความสุข แต่ดอกไม้ให้น้ำหวานแก่ผีเสื้อ เพื่อให้ผีเสื้อช่วยผสมเกสร เป็นการให้ที่มีเลสนัย หวังผลตอบแทน
    31 ส.ค. 2562 เวลา 14.34 น.
ดูทั้งหมด